[CHOTTO BADMINTON] BADMINTON GRIP 🔑 Key ของการจับกริปก็คือ “การจับที่สามารถตีได้อย่างเป็นธรรมชาติ บังคับลูกให้เคลื่อนที่ไปในจุดที่ต้องการได้ ข้อต่อเคลื่อนไหวได้โดยไม่ฝืน และสามารถส่ง/ถ่ายแรงในการตีลูกแต่ละแบบได้อย่างม

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

5 ต.ค. 2021 เวลา 05:47 • กีฬา

BADMINTON GRIP

🔑 Key ของการจับกริปก็คือ

“การจับที่สามารถตีได้อย่างเป็นธรรมชาติ บังคับลูกให้เคลื่อนที่ไปในจุดที่ต้องการได้ ข้อต่อเคลื่อนไหวได้โดยไม่ฝืน และสามารถส่ง/ถ่ายแรงในการตีลูกแต่ละแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด”

หรือก็คือ จับยังไงก็ได้ให้สามารถตีลูกไปในทิศทางที่ต้องการได้ถนัดและดีนั่นแหละ

ส่วนมากแล้วจะจับ V-Shape grip เป็นตัวเริ่มต้น แล้วค่อยปรับไปจับกริปแบบอื่นๆตามสถานการณ์

ซึ่งโดยทั่วๆไปจะมีการจับกริปทั้งหมด 7 แบบ ดังนี้

1. Forehand grip หรือ V-shape

2. Panhandle grip

3. Thumb grip

4. Partial panhandle grip

5. Backhand grip

6. Neutral grip

7. Bevel grip

เห็นแล้วอาจจะงงๆ ทำไมมันเยอะแยะจัง จำไม่ได้ว่าจะต้องจับกริปแบบไหน ตีลูกอะไร 😵‍💫

จริงๆแล้วไม่ต้องจำเลย เราจะจับยังไงก็ได้ให้หน้าไม้ตอนกระทบกับลูก หันไปในทิศทางที่เราต้องการจะตีไปเท่านั้นเอง☝🏻

FOREHAND GRIP (V-SHAPE)

เริ่มจาก 1. FOREHAND GRIP หรือที่มักเรียกกันว่า V-SHAPE GRIP

เป็น basic การจับกริปแบบพื้นฐาน ก่อนจะหัดจับกริปแบบอื่นๆ

มักใช้ในการตี overhead

วิธีการจับ : จับไม้ให้สันไม้ตั้งขึ้นตรงๆ ทำมือเหมือนจะ shake hands แล้ววางมือลงไปที่ด้ามตรงๆ นิ้วชี้จะอยู่สูงกว่านิ้วโป้ง และมีลักษณะเหมือนตัว V

จับกริปให้ผ่อนคลาย เพื่อที่จะได้หมุนเปลี่ยนเป็นกริปแบบอื่นๆได้ง่าย

ค่อยกำไม้แน่นในจังหวะที่จะตีลูก และกำไม้แน่นยิ่งขึ้นในจังหวะที่ไม้กระทบลูก

ในการตีให้ออกแรงจากนิ้วชี้นิ้วกลาง นิ้วนางนิ้วก้อยใช้ล็อคไม้ให้อยู่ในมือ

PANHANDLE GRIP

2. PANHANDLE GRIP หรือที่ชอบเรียกกันว่าจับไม้แบบหน้าเดียว

มักใช้ใน forehand ด้านหน้าตัว บริเวณกลางคอร์ทและหน้าเน็ต อย่างลูกดาด(drive) หรือ pro player บางคนก็ใช้สำหรับลูกตบด้วย

จับเป็น v-shape ปกติ แต่จะหมุน racket ไป 90 องศา จาก forehand grip

THUMB GRIP

3. THUMB GRIP

เป็น backhand version ของ panhandle grip

นั่นคือหมุน 90 องศาจาก forehand grip (v-shape)

วางนิ้วโป้งบนด้ามไม้ด้านกว้าง นิ้วโป้งอยู่สูงกว่านิ้วชี้

ใช้นิ้วโป้งเป็นตัวบังคับ racket ในการออกแรงตีลูก

มักใช้ในการตี backhand หน้าตัว บริเวณกลางคอร์ทหรือหน้าเน็ต

เช่น ลูกดาด(drive), backhand serve, แย๊บ

PARTIAL PANHANDLE GRIP

4. PARTIAL PANHANDLE GRIP

ตามชื่อ ก็คือครึ่งหนึ่งของ forehand (v-shape) กับ panhandle grip

จับแบบ v-shape ธรรมดา แล้วหมุน racket ไป 45 องศา

ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นตัวบังคับ racket ในการออกแรงตีลูก นิ้วก้อยและนิ้วนางเป็นตัวล็อคให้ไม้ถืออยู่ในมือ ซึ่งการจับแบบนี้ช่วยให้ตีลูก forehand ลึกๆได้ง่ายกว่า v-shape

BACKHAND GRIP

5. BACKHAND GRIP

ตามชื่อก็คือใช้ในการตีลูก backhand

จับแบบ v-shape ธรรมดา แล้วหมุน racket ไป 45 องศา นั่นคือครึ่งหนึ่งของ forehand (v-shape) กับ thumb grip

ใช้นิ้วโป้งเป็นตัวบังคับ racket ในการออกแรงตีลูก ส่วน 4 นิ้วที่เหลือใช้เป็นตัวประคองไม้

ใช้เซฟที่ลูกอยู่ประมาณแนวลำตัว คือไม่เอื้อมไปด้านหลัง ถ้าลูกอยู่ด้านหน้ามากๆมักจะจับแบบ thumb grip แทนค่ะ

ในการตีลูก backhand ลึกๆท้ายคอร์ทที่ต้องเอื้อมตี จับ bevel grip จะตีง่ายกว่า backhand grip

NEUTRAL GRIP

6. NEUTRAL GRIP

จับแบบ v-shape ธรรมดา แล้วหมุน racket ไปทางด้าน backhand เล็กน้อย ประมาณ 20-25 องศา จาก forehand grip ช่วยให้สามารถเปลี่ยนกริปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

BEVEL GRIP

7. BEVEL GRIP

ใช้เยอะในการตีลูก backhand ท้ายคอร์ท และในกรณีที่เราต้องเอื้อมตีเพราะลูกเลยตัวไปแล้ว (เกินแนวลำตัวไปด้านหลัง) อย่าง backhand clear ท้ายคอร์ท, drop shots พวกลูกตัดหยอด ลูกฟัน

จับแบบ v-shape ธรรมดา ขยับมือเล็กน้อยให้นิ้วโป้งวางตรงสันเล็กๆด้านเฉียงของด้าม

FB : Chotto Badminton

#ChottoBadminton 🦊 #ChottoGrip #BadmintonGrip

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน