8 ต.ค. 2021 เวลา 11:01 • ปรัชญา
Compassion Week#38 Month of October.
(Episode 2/2)
Countdown to one moment in time.
พระพุทธองค์ ตรัสกับอาจารย์สัญชัยว่า "ตื่นเถอะสัญชัย ท่านหลับมานานมากแล้ว"
หลวงพ่อชา สุภัทโท “ปุจฉา วิสัชนา”
ปุจฉา ....พากเพียรอย่างหนัก ,โกรธ
,สงสัย ,นอน ,ง่วง
หลวงพ่อชา สุภัทโท “ปุจฉา วิสัชนา” ตอบคำถามพระลูกศิษย์
หลวงพ่อชา สอนว่าคนต้องประกอบด้วยความอยาก ถ้าไม่มีความอยาก ก็ไม่มีข้อปฏิบัติ เพราะไม่รู้จะปฏิบัติไปทำไม "ความอยากจึงเป็นบารมีของคน แต่ไม่ใช่ทุกคน เป็นบารมีของคนที่มีปัญญาเท่านั้น" คนที่อยากแต่ไม่มีปัญญา จะติด “กับดักเป้าหมาย” คนมีปัญญา จะตื่นรู้จักหลบหลีกกับดักหรือก้าวข้ามไปเรื่อยๆ จนถึงเป้าหมาย
หลวงพ่อชา สุภัทโท “ปุจฉา วิสัชนา”
ตอบคำถามพระลูกศิษย์
ปุจฉา : ผมได้พากเพียรอย่างหนักในการปฏิบัติกรรมฐาน แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ผลคืบหน้าเลย
วิสัชนา : เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าพยายามที่จะเอาอะไรๆ ในการปฏิบัติ ความอยากอย่างแรงกล้าที่จะหลุดพ้นหรือรู้แจ้งนั้น จะเป็นความอยากที่ขวางกั้นท่านจากความหลุดพ้น ท่านจะเพียรพยายามอย่างหนักตามใจท่านก็ได้ จะเร่งความเพียรทั้งกลางวันกลางคืนก็ได้
แต่ถ้าการฝึกปฏิบัตินั้นยังประกอบด้วยความอยากที่จะบรรลุเห็นแจ้งแล้ว ท่านจะไม่มีทางพบกับความสงบได้เลย "แรงอยาก"จะเป็นเหตุให้เกิดความสงสัยและความกระวนกระวายใจ ไม่ว่าท่านจะฝึกปฏิบัตินานเท่าใดหรือหนักเพียงใด ปัญญา ที่แท้ จะไม่เกิดขึ้นจากความอยากนั้น
ดังนั้น จงเพียงแต่ละความอยากเสีย จงเฝ้าดูจิตและกายอย่างมีสติ แต่อย่ามุ่งหวังจะบรรลุถึงอะไร อย่ายึดมั่นถือมั่นแม้ในเรื่องการฝึกปฏิบัติหรือการรู้แจ้ง
ปุจฉา : เมื่อผมโกรธ ผมควรทำอย่างไรครับ
วิสัชนา : ท่านต้องแผ่เมตตา ถ้าท่านมีโทสะในขณะภาวนาให้แก้ด้วยเมตตาจิต ถ้ามีใครทำไม่ดีหรือโกรธ อย่าโกรธตอบ ถ้าท่านโกรธตอบท่านจะโง่ยิ่งกว่าเขา จงเป็นคนฉลาดสงสารเห็นใจเขา เพราะว่าเขากำลังได้ทุกข์ จงมีเมตตาเต็มเปี่ยมเหมือนหนึ่งว่าเขาเป็นน้องชายที่รักยิ่งของท่าน เพ่งอารมณ์เมตตาเป็นอารมณ์ภาวนาแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก เมตตาเท่านั้นที่จะเอาชนะโทสะและความเกลียดได้
ปุจฉา : ผมควรทำอย่างไรครับเมื่อผมสงสัย บางวันผมวุ่นวายใจด้วยความสงสัยในการปฏิบัติ หรือในความคืบหน้าของผม หรือในอาจารย์
วิสัชนา : ความสงสัยนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทุกคนเริ่มต้นด้วยความสงสัย ท่านอาจได้เรียนรู้อย่างมากจากความสงสัยนั้น ที่สำคัญก็คือ ท่านอย่าถือเอาความสงสัยนั้นเป็นตัวเป็นตน นั่นคืออย่าตกเป็นเหยื่อของความสงสัย ซึ่งจะทำให้จิตใจท่านหมุนวนเป็นวัฏฏะอันไม่มีที่สิ้นสุด
แทนที่จะเป็นเช่นนั้น จงเฝ้าดูกระบวนการเกิดดับของความสงสัย ของความฉงนสนเท่ห์ ดูว่าใครคือผู้สงสัย ดูว่าสงสัยนั้นเกิดขึ้นและดับไปอย่างไร แล้วท่านจะไม่ตกเป็นเหยื่อของความสงสัยอีกต่อไป ท่านจะหลุดพ้นจากความสงสัยและจิตของท่านก็จะสงบ ท่านจะเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นและดับอย่างไร จงปล่อยวางสิ่งต่างๆ ที่ท่านยึดมั่นอยู่ ปล่อยวางความสงสัยของท่าน และเพียงแต่เฝ้าดู นี่คือที่สิ้นสุดของความสงสัย
ปุจฉา : เรื่องการนอนหลับล่ะครับ ผมควรนอนมากน้อยเพียงใด
วิสัชนา : อย่าถามผมเลย ผมตอบให้ท่านไม่ได้ บางคนหลับนอนคืนละ 4 ชั่วโมงก็พอ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญก็คือท่านเฝ้าดูและรู้จักตัวของท่านเอง ถ้าท่านนอนน้อยเกินไปท่านก็จะไม่ค่อยสบาย ทำให้คุมสติไว้ได้ยาก ถ้านอนมากเกินไป จิตใจก็จะตื้อเฉื่อยชา หรือซัดส่าย จงหาสภาวะที่พอเหมาะกับตัวท่านเอง ตั้งใจเฝ้าดูกายและจิต จนท่านรู้ระยะเวลาหลับนอนที่พอเหมาะสมสำหรับท่าน
ถ้าท่านรู้สึกตัวแล้วยังซุกตัวของีบต่อไปอีก นี่เป็นกิเลสเครื่องเศร้าหมอง จงมีสติรู้ตัวทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้น
ปุจฉา : ผมง่วงเหงาหาวนอนอยู่มาก ทำภาวนาลำบาก
วิสัชนา : มีวิธีเอาชนะความง่วงได้หลายวิธี ถ้าท่านนั่งอยู่ในที่มืดให้ย้ายไปอยู่ที่สว่าง ลืมตาขึ้น ลุกไปล้างหน้า ตบหน้าตนเอง หรือไปอาบน้ำ ถ้าท่านยังง่วงอยู่อีกให้เปลี่ยนอิริยาบถ เดินจงกลมให้มากหรือเดินถอยหลัง ความกลัวจะไปชนอะไรเข้าจะทำให้ท่านหายง่วง ถ้ายังง่วงอยู่อีกก็จงยืนนิ่งๆ ทำใจให้สดชื่น และสมมติว่าขณะนั้นเป็นเวลากลางวัน หรือนั่งอยู่ริมหน้าผาสูงหรือบ่อลึก ท่านจะไม่กล้าหลับ ถ้าทำอย่างไรก็ยังไม่หายง่วงก็จงนอนเสีย เอนกายลงอย่างสำรวม ระวังและรู้ตัวอยู่จนกระทั่งท่านหลับไป เมื่อท่านรู้สึกตัวตื่นขึ้นจงลุกขึ้นทันที อย่ามองดูนาฬิกาหรือหลับต่ออีก เริ่มต้นมีสติระลึกรู้ทันทีที่ท่านตื่น
ถ้าท่านง่วงนอนอยู่ทุกวัน ลองฉันอาหารให้น้อยลง สำรวจตัวเอง ถ้าอีกห้าคำท่านจะอิ่ม จงหยุด แล้วดื่มน้ำจนอิ่มพอดี แล้วกลับไปนั่งดูใหม่อีก เฝ้าดูความง่วงและความหิว ท่านต้องกะฉันอาหารให้พอดี เมื่อท่านฝึกปฏิบัติต่อไปอีกท่านจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นและฉันน้อยลง ท่านต้องปรับตัวของท่าน
ย้อนคิดเรื่องประวัติศาสตร์การคัดสรรโดยธรรมชาติที่ มนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิง และสุนัขเลี้ยงวิวัฒนาการมาจากหมาป่า
เมื่อย้อนคิดเรื่องวิวัฒนาการของดาร์วิน ยิ่งย้อนดูก็ยิ่งเห็น ปัญญาของมนุษย์ ซึ่งต่างจากสัตว์
เพราะความจริงเกิดจากเหตุคือการมีส่วนร่วม เช่น
ลิงบางส่วนกลัวสัตว์อันตรายในทุ่งหญ้าจึงเลือกกลับเข้าสู่ป่าหาที่ซ่อนตัวเพื่อใช้ชีวิตตามแบบที่เคยชิน
แต่ลิงส่วนที่มี“หัวใจเสรี”เลือกที่จะต่อสู้เพื่อไม่ต้องหลบซ่อนไปตลอดชีวิต ด้วยมีปัญญาจึงปรับตัวอยู่ในทุ่งหญ้าได้และพัฒนามาจนเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน
ปัญญาในการคิดกลยุทธ์การเอาชีวิตรอดของลิงนั้น คือการรู้จักใช้ไฟเป็นอาวุธป้องกันตัวเอง และรู้จักสามัคคีกันเพื่อทำงานเป็นทีมทำให้เกิดพลังที่สามารถสู้ จนเอาชนะสัตว์ร้ายได้
ส่วนปัญญาของหมาป่าคือเลือกที่จะสยบยอมโดยเลือกติดตามและยอมเป็นทาสรับใช้แลกเศษอาหารจากมนุษย์เพื่อยังชีพ จนพัฒนาวิวัฒนาการมาเป็นหมาบ้านที่แสนน่ารักในปัจจุบัน
โลก VUCA World ในยุค 5G
บางคนที่มี "หัวใจเสรี" เชื่อว่าคนนั้นมีศักดิ์ศรีดีกว่าหมาป่าที่พูดไม่ได้ คนพูดได้คุยกันรู้เรื่อง และมีปัญญารู้จักใช้ 5G จึงสามารถสร้างทีมรวมพลังเพื่อสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีกว่า
บางคนที่มี "หัวใจเสรี"
ส่วนหมาป่ามีปากแต่พูดไม่ได้ ได้แต่เห่าส่งสัญญาณบอกเจ้านาย คอยระวังภัยที่จะมาถึงเจ้านาย เพื่อให้เจ้านายพอใจ และมอบเศษอาหารให้ยังชีพ
เจ้านายพอใจ และมอบเศษอาหารให้ยังชีพ
บางคนที่มี "หัวใจเสรี" เชื่อว่าคนนั้นมีศักดิ์ศรีดีกว่าหมาป่า คนพูดได้คุยกันรู้เรื่อง แต่ไม่มีปัญญาเพราะอยากได้สิ่งใหม่แต่ยังถือสิ่งเก่าไว้ในมือ เมื่อไม่ยอมวางสิ่งเก่ามือจึงไม่ว่างที่จะหยิบสิ่งใหม่ เรื่องก็ไม่ซับซ้อนอะไร
คงเป็นตามคำสอนของหลวงพ่อชา ที่ว่า
“ความอยากเป็นบารมีของคน แต่ไม่ใช่ทุกคน เป็นบารมีของคนที่มีปัญญาเท่านั้น”
แม้ว่าไม่ได้ติดกับดักแบบที่ไม่รู้จักวางเป้าหมาย แต่เป็นการเลือกใช้กลยุทธ์เพื่อแพ้ เพราะติดกับดักประโยชน์จูงใจ คือไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่แต่ทำตามความถนัด เช่น
บางคนถนัดสอน จึงชอบทำแผนจัดอบรม ซึ่งให้ผลน้อยกว่าแผนปฏิบัติซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงประเด็นกว่า หลวงพ่อชาท่านสอนเน้นปฏิบัติ บางทีท่านก็ชอบพูดรุนแรงหน่อยเพื่อให้ตื่นเต้นจะได้ลุกขึ้นมาแก้ไขข้อผิด เมื่อลูกศิษย์มีข้อสงสัย ก็ช่วยตอบข้อสงสัย ให้เกิดความก้าวหน้า ไม่ใช่ฟังคำสอนไปเฉยๆ
Compassion Week#39 Month of October.
(Episode 1/2)
Countdown to one moment in time.
พระพุทธองค์ ตรัสกับอาจารย์สัญชัยว่า
"ตื่นเถอะสัญชัย ท่านหลับมานานมากแล้ว"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา