5 พ.ย. 2021 เวลา 12:24 • ครอบครัว & เด็ก
🖤 I am sick ฉันป่วย 🖤
🌵ตอนที่ 8 มารู้จักฉันกันเถอะ☺ Is me
ในบทที่ 7 ฉันได้เล่าไว้ว่าฉันนั้นถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆ นั่นฉันพูดความจริง คุณรู้จักคำๆนี้ไหม
" พ่อแม่ รังแกฉัน "
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำๆนี้มาบ้างแล้ว แต่บางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจลองอ่านไปเรื่อยๆนะคะ
ในระยะเวลา 4 ปีที่ฉันจมอยู่กับความทุกข์ทรมานฉันได้ย้อนกลับไปยังเรื่องราวเก่าๆ และค้นพบว่าตัวเองแปลกไปจากคนอื่นตั้งแต่ไหนแต่ไร
ฉันเป็นเด็นคนนึงที่ถูกเลี้ยงมาแบบปิด คือปิดทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่เด็กพ่อแม่จะคอยบอกเสมอว่าให้อยู่แต่ในบ้านอย่าออกไปเล่นข้างนอก เลิกเรียนแล้วก็ให้กลับบ้านเลยอย่าเกเรไปเที่ยวที่อื่น
ชีวิตของฉันจึงมีแค่บ้าน โรงเรียน และเพื่อนข้างบ้านไม่กี่คน สังคมของฉันมีเท่านั้น
เวลาพ่อแม่ไปไหนมาไหนจะไม่พาไปด้วยส่วนมากจะเป็นพี่สาวที่ได้ไป ฉันแทบจะไม่รู้ว่านอกบ้านเป็นยังไง ฉันเคยชินกับการเล่นคนเดียวเสมอ
พอโตมาหน่อยคือช่วงเวลาที่เข้ามัธยม เหมือนว่ามันจะดีขึ้นแต่ก็ไม่เลย ฉันถูห้ามให้คบเพื่อนผู้ชายด้วยเหตุผลว่ากลัวจะได้ผัวก่อนเรียนจบ ฉันถูกห้ามไม่ให้ไปบ้านเพื่อนไม่ว่าจะในวาระอะไรก็ตาม
หรือถ้าห้ามไม่ได้จริงๆก็ต้องมีเพื่อนคนที่พ่อแม่ไว้วางใจไปด้วยเสมอ และถ้าไปแล้วจะต้องกลับบ้านตรงเวลา มิเช่นนั้นพ่อจะตี
เราสองพี่น้องกลัวการตีเป็นที่สุด เพราะข้อดีของพ่อแม่คือ ตั้งแต่จำความได้พ่อแม่ไม่เคยตีเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านยกมาอ้างนั่นหมายถึงมันต้องรุนแรงแน่ๆ หากเราโดนตีบ้างเราคงไม่หวาดกลัวขนาดนี้
เราถูกปลูกฝังว่าถ้าพ่อตี พ่อต้องตีจนตายแน่ๆ
ฉันโตมาพร้อมกับการขู่แบบนี้ ฉันจึงพยายามที่จะไม่ให้ตัวเองโดนตี และไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนแต่ถึงอย่างนั้นช่วงวัยกำลังร้อนมันก็มีบ้างที่แอบหนีข้อห้ามเหล่านั้น
ฉันชินกับการถูกรัก ชินกับการที่มีคนคอยช่วยเหลือ ชินกับการที่มีคนคอยปกป้อง เมื่อเดินออกมาจากอกพ่อแม่ฉันจึงกลายเป็นคนอ่อนแอทันที
ครั้งแรกที่เรียนจบและได้งานทำ ก็ได้งานต่างจังหวัดเลย ฉันที่อยากออกจากโลกใบเล็กๆเต็มทีจึงตัดสินใจที่จะทำงานนี้ พ่อแม่ทำใจอยู่นานกว่าจะตอบตกลง เพราะงานที่ฉันได้ในตอนนั้นถือว่าดีและเข้ายากพอสมควร
เมื่อฉันออกจากบ้านมาไม่นาน การหลงทาง จึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของฉัน 555
ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น ฉันอ่านหนังสือออกอยู่นะ แต่ฉันชอบหลงทางประจำ พี่ขนส่งของบริษัทจะมีหน้าที่บอกทางและไปรับฉันเป็นประจำ555 เหมือนกับว่าสมองของฉันทำงานผิดพลาดในด้านนี้ฉันมักจะจำทางไม่ได้ แม้ทางเส้นนั้นเคยไปแล้วก็ตาม หากไม่ใช่ทางที่ใช้ไปที่ทำงานเป็นประจำฉันจะไปไม่ถูก
ในความเงอะงะก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่พี่ๆที่ทำงานเอ็นดูฉัน และไปรับฉันประจำ นี่เป็นเรื่องแรกที่ฉันสังเกตุได้เมื่อออกจากบ้านเป็นครั้งแรก
Cr.ig
หลายท่านอาจมองว่ามันเป็นเรื่องตลก หรือเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ไม่เลยค่ะ
ท่านเคยหลงทางไหมคะ หากท่านเคยหลงทางท่านคงพอจะเข้าใจเล็กน้อยแต่หากท่านไม่เคยฉันจะเล่าให้ฟังค่ะ
สำหรับคนอื่นการหลงทางคงไม่ได้แย่อะไรมากมาย แค่มองหาป้ายมีปากก็ถามทางเอาก็ได้แล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าท่านหลงบ่อยๆหลงเป็นประจำท่านจะมีความรู้สึกแปลกๆค่ะ
สิ่งหนึ่งที่ฉันเป็นประจำทุกครั้งที่หลงทางคือ ฉันกลัว ฉันอ่านหนังสือออกแต่ก็เหมือนมันไม่เข้าสมองเลยสักนิด ฉันถามทางเป็นทุกคนแถวนั้นบอกทางฉันแล้วแต่เมื่อฉันขับรถออกมามันก็ราวกับว่าสิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นบอกมันเข้าหูซ้ายและทะลุออกหูขวาทันที555
ฉันไม่ได้ลืมว่าเขาบอกว่าให้ไปทางไหน ฉันแค่ไปไม่ถูก
ท่านอาจคิดว่าฉันนี่โง่เง่าเสียจริงๆ55 และฉันคงต้องยอมรับแต่โดยดี เพราะตัวฉันเองฉันก็คิดแบบนั้น ด้วยความกลัวจนหัวหดสมองของฉันจึงสั่งงานผิดพลาดเสมอ
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าฉันกลัวอะไร รู้แค่ว่า "กลัว"
มันเป็นเรื่องน่าอายที่ฉันในตอนนั้นก็แค่รู้สึกแปลกๆไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่ทว่านับจากนั้นมามันก็เป็นแบบนี้ตลอด
ท่านผู้อ่านคิดว่ามันตลกไหม ฉันโตขึ้นมาในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันกลับหวาดกลัวสิ่งใหม่ๆเสมอ ฉันมักจะกลัวอะไรเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นเขาไม่กลัว เช่น ลิฟท์ บันไดเลื่อน สิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้เป็นสิ่งที่คนอื่นมักจะใช้มันเสมอ เด็กน้อยตัวเล็กๆต่างดีใจและอยากลองมัน แต่ฉัน ฉันกลับกลัว
น่าอายนะว่าไหม..
ฉันกลัวรถ ฉันกลัวถนน ฉันกลัวการข้ามถนน จริงอยู่ที่สิ่งเหล่านี้มันเป็นชีวิตประจำวันแต่ก็นั่นแหละฉันก็กลัวมันในทุกๆวัน
ท่านลองคิดดูนะคะว่า ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกกลัวแต่เช้าๆวันนั้นทั้งวันท่านจะรู้สึกยังไงบ้าง555
เหมือนว่ามันควรจะเป็นเรื่องปกติและเคยชินได้แล้ว แต่ไม่เลย มันไม่เคยชินเลยสักครั้ง
..ในช่วงเวลา 4 ปีที่ฉันจมอยู่กับความทุกข์ ในเมื่องที่มีแต่เสียงหัวเราะ เมืองที่มีแต่ความสุข ราวกับว่าฉันแค่เดินขนานกับเมืองๆนี้ ไม่ได้ผสมผสานเข้าด้วยกันเลย
ตลอดเวลาที่ฉันอยู่แบบนั้นฉันใช้ชีวิตแบบเดิมในทุกๆวัน คือตื่น กลัว ทำงาน กิน ร้องไห้ และนอน
แล้วก็วนอยู่แบบนี้เรื่อยๆ ฉันไม่มีใครคอยฟังปัญหา ไม่มีใครให้ฉันได้ปรับทุกข์ ฉันไม่มีเพื่อน
แต่ในทางกลับกัน ฉันกลับเป็นทุกอย่างให้คนอื่นเสมอ
cr.ig
ฉันเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นพี่ในที่ทำงานให้น้องๆได้พึ่งพิง เป็นที่ปรึกษาและที่ระบายที่ดี เป็นเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆเพื่อนเสมอ
แต่ก็นั่นแหละ สรุปแล้วตัวฉันเองกลับว่างเปล่า ฉันยังคงไม่มีใคร ทุกคนที่เข้ามาเพราะฉันเป็นทุกสิ่งให้เขาได้ แต่พวกเขาไม่พร้อมจะรับฟังกลับคืน
เอาจริงฉันเองก็ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ใครฟังสักเท่าไหร่ เป็นเพราะฉันไม่ไว้ใจและไม่มีใครอยากฟัง
เหมือนว่าฉันจะมีเพื่อนมากมาย แต่ฉันก็ไม่มี พวกเขาจะคิดถึงฉันแค่ตอนเสียใจ ไม่สบายใจ แต่เวลาที่พวกเขามีความสุขเวลานั้นกลับไม่มีฉัน
ไม่เพียงแค่ฉันไม่มีเพื่อน ฉันยังไม่มีแฟนด้วย สาเหตุเป็นเพราะฉันไม่ได้อยากมีใคร ฉันปิดประตูลงกลอนทุกบานในหัวใจ ไม่ต้องการรับใครแม้สักคนเข้ามา ฉันเองคิดว่าฉันพึ่งเป็นแบบนี้แต่ไม่เลยฉันพึ่งรู้ตัวต่างหาก
ความจริงฉันไม่เคยเปิดประตูเลยแม้แต่ครั้งเดียว
มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว
อย่างที่บอกฉันพึ่งจะรู้ตัวตอนที่ชีวิตฉันเจอเรื่องราวมากมายแบบนี้ ฉันพึ่งจะค้นพบว่าจริงๆแล้วฉันไม่รู้จักความรักเลยด้วยซ้ำ นอกจากรักพ่อแม่แล้วฉันก็อธิบายไม่ได้ว่ารักคืออะไร
ฉันถึงได้เข้าใจว่าทำไมตอนเรียนฉันถึงไม่มีแฟนเหมือนเพื่อน ทั้งที่ก็มีคนเข้ามาจีบแต่สุดท้ายฉันก็ไม่ยื่นมือไปรับใครสักคน
...
...
❤Thankyou
Cr. Small world🌍
me. ถนนสายเก่า
แล้วพบกันในตอนต่อไปนะคะ👉

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา