Matrix สายลับ กับเทพพยากรณ์ สามสิ่งนี้มีบางแง่มุมที่ควรหยิบยกมากล่าวถึงก่อนผมจะเล่าเนื้อหาของ The Matrix Reloaded (2003) เพื่อให้ผู้อ่านเห็นความเชื่อมโยงและเบาะแสสำคัญของเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังสงครามระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร
Matrix คือเครื่องจำลองสภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับระบบประสาทของมนุษย์ ทำให้มนุษย์นับล้านยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกจำลองและใช้ชีวิตอยู่ในความฝันอันไม่รู้จบ มีมนุษย์ส่วนน้อยปฏิเสธเมทริกซ์แล้วตื่นขึ้นมาบนโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อพวกเขาได้เห็นและรับรู้สิ่งที่พวกจักรกลทำก็รู้ว่าเมทริกซ์เป็นภัยคุกคามมนุษยชาติ และตัดสินใจจะปลดปล่อยจิตของผู้คนออกมารวมทั้งทำลายเมทริกซ์ทิ้ง คนเหล่านี้คือมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่ยังใช้ชีวิตอยู่ห่างไกลจากนิคมของพวกจักรกล พวกเขาเรียกตนเองว่ากลุ่มต่อต้านและเรียกที่แห่งนั้นว่าไซออน
เหล่ามนุษย์กลุ่มต่อต้านพากเพียรปลดปล่อยจิตจากเมทริกซ์ แต่ในเมื่อพวกเขาลักลอบเชื่อมต่อก็จะต้องพบกับโปรแกรมที่เป็นศัตรูโดยตรง โปรแกรมสายลับ พวกมันมีหน้าที่ตรวจตราค้นหาสิ่งแปลกปลอมและกำจัดผู้บุกรุกหรือโปรแกรมที่ต้องถูกลบทิ้ง สายลับที่มีบทบาทสำคัญและจะเป็นตัวร้ายต่อเนื่องในภาคสองและสามคือสายลับสมิธหรือโปรแกรมนายสมิธ เราจะสังเกตได้จากฉากการสนทนาระหว่างสามสายลับว่าสายลับสมิธดูจะมีฐานะสูงกว่าและสั่งการสายลับอีกสองตนได้
อย่างไรก็ตามสายลับสมิธแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกอย่างมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งที่โปรแกรมไม่ควรมี นอกจากนี้ในฉากการสอบสวนมอร์เฟียสที่สายลับสมิธขอให้อีกสองคนออกไปนอกห้อง เขาดึงหูฟังออก การไม่เชื่อมต่อหรือไม่ยอมรับคำสั่งนี้ก็เป็นสัญญาณของข้อบกพร่อง หรือก็คือสมิธเป็นโปรแกรมที่ชำรุด และไม่รู้ว่าชำรุดมานานแค่ไหนแล้ว อีกทั้งสายลับสองตนที่ทำงานกับสมิธก็รับรู้พฤติกรรมประหลาดของเขาแต่กลับมองอย่างไม่เข้าใจและแปลกใจเท่านั้น และข้อบกพร่องนี้เองที่เป็นชนวนเหตุให้สมิธกลายเป็นตัวร้ายและมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวต่อจากนี้
ภาพยนตร์ภาคแรกยังไม่ได้กล่าวถึงว่าไซออนและกลุ่มต่อต้านว่าก่อตั้งขึ้นมาได้อย่างไร เราต้องไม่ลืมว่าการจะปลดปล่อยจิตจากเมทริกซ์ได้ต้องอาศัยมนุษย์ที่เคยอยู่ในเมทริกซ์ซึ่งมีปลั๊กหรือพอร์ทเชื่อมต่อ จะได้ลักลอบถ่ายทอดสัญญาณเถื่อนเพื่อเข้าสู่เมทริกซ์ แล้วมนุษย์แบบนั้นที่เป็นกลุ่มแรกเริ่มพวกเขาโผล่มาจากไหน ? ในตอนที่กลุ่มของมอร์เฟียสช่วยเหลือนีโอเราได้เห็นว่าอาคารในทุ่งตัวอ่อนขับร่างมนุษย์ที่ตื่นขึ้นออกไปโดยไม่ใยดีและไม่ได้ติดตามดูว่าร่างนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่กลุ่มต่อต้านพวกแรกดักรอช่วยเหลือมนุษย์ที่ตื่นขึ้นและถูกขับออกมา จากนั้นฝึกฝนและส่งพวกเขาไปปลดปล่อยคนอื่น ๆ ซึ่งประเด็นนี้จะมีความกระจ่างขึ้นในภาพยนตร์ภาคสอง
เกี่ยวกับกลุ่มต่อต้าน มอร์เฟียสเพียงแต่พูดพาดพิงถึงเรื่องนี้กับนีโอว่า “หล่อน (เทพพยากรณ์) เก่าแก่มาก อยู่กันมาตั้งแต่เริ่มกลุ่มต่อต้าน” เธอมอบคำทำนายให้ทั้งมอร์เฟียสและทรินิตี้ คนส่วนใหญ่ในกลุ่มต่อต้านเชื่อมั่นในคำทำนายและคาดหวังว่าวันหนึ่งจะมีผู้ปลดปล่อยถือกำเนิดขึ้น และเขาจะยุติสงครามระหว่างจักรกลกับมนุษยชาติ
ในตอนที่นีโอไปพบเทพพยากรณ์ เขารอในห้องและได้เห็น “ผู้มีศักยภาพ” คนอื่น ๆ เช่นเด็กหญิงฝาแฝดที่ทำให้ลูกบาศก์ไม้ลอยอยู่กลางอากาศและเด็กชายที่มองช้อนโลหะแล้วช้อนงอ แสดงให้เห็นว่าเทพพยากรณ์เองก็มีหน้าที่อื่นอยู่อีกนอกเหนือจากมอบคำทำนายให้มนุษย์กลุ่มต่อต้าน เธออาจมีหน้าที่ค้นหาผู้มี “ค่าผิดปกติของระบบ” ด้วยก็เป็นได้
เทพพยากรณ์พูดคุยกับนีโอ บอกคำทำนายและมอบคุกกี้อบเสร็จใหม่ ๆ ให้นีโอกินหนึ่งชิ้น มีส่วนหนึ่งของบทสนทนาที่ทั้งสองคุยกันนั้นน่าสนใจ นั่นคือหลังจากเทพพยากรณ์บอกนีโอว่าดูเหมือนคุณกำลังรออะไรอยู่ แล้วเขาก็ถามกลับ
“ผมรออะไร ?”
“ไม่รู้ซิ รอชาติหน้าล่ะมั้ง ?”
จากนั้นเราได้เห็นตอนท้ายเรื่องว่านีโอตายแล้วฟื้นขึ้นมา ราวกับเกิดใหม่อีกชาติหนึ่ง บางทีเทพพยากรณ์อาจ “เห็น” อนาคตได้จริงสมชื่อ ทว่าไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของหล่อน และในภาพยนตร์ภาคสองจะเปิดเผยความจริงอันชวนตกตะลึงเกี่ยวกับเทพพยากรณ์ มันไม่ใช่ความลับแต่ผมจะยังไม่กล่าวถึงเพื่อไม่ให้เสียอรรถรสและมันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ตัวตนแท้จริงของเทพพยากรณ์คือใครและโปรแกรมนายสมิธจะมีบทบาทอย่างไรต่อจากนี้ โปรดติดตามบทความถัดไปที่จะเป็นเรื่องราวของ The Matrix Reloaded (2003) ครับ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
