20 ต.ค. 2021 เวลา 02:33 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣ จุดกำเนิด ✴️ (ตอนที่ 2)
ถามไถ่กันมามากมายทั้งจากจดหมายและจากผู้ฟังเวลาผมไปบรรยายที่ไหนก็ตาม ว่าอยากรู้สารอื่นจาก ‘พระเบื้องบน’ อีกเยอะ ๆ
“คุณหมอได้รับสารต่ออีกบ้างไหมครับ❓”
“หมอยังติดต่อกับท่านอีกมั้ย”
“ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มอีกรึเปล่าคะ”
คำตอบของผมคือ...ใช่เลยครับ และคำตอบนั้นคือหนังสือเล่มนี้เอง โดยการผ่านทางคนไข้ ทางการเดินทาง และผ่านทางการเจริญสมาธิด้วยตัวเอง ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นอีกมากเลยครับ
ขอเสริมสักนิดว่าสารที่ถ่ายทอดไว้แล้ว เราท่านต้องทำความเข้าใจให้ลึกถึงแก่นแท้ สารสำคัญจากหนังสือ 𝟯 เล่มก่อนผมนำมาลงไว้ใหม่ในเล่มนี้ โดยใส่เป็นหัวข้อนำบทหรือแทรกในต้นบทด้วยตัวพิมพ์เอน
เมื่อเฝ้าถักร้อยสารเก่าและใหม่เป็นผืนเดียว ผมจึงได้รู้ว่าปรัชญาแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดและทั้งปวงได้เปิดเผยตัวแล้ว และมอบสู่มือผมอย่างอ่อนโยนที่สุด หัวใจของปรัชญายิ่งใหญ่นั้นคือ ‘รัก’ นั่นเอง ผมเชื่อแล้วว่า เราในฐานะมนุษยชาติพร้อมแล้วที่จะโอบกอดความรัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ 𝟯𝟬 ปีที่ผ่านมา มนุษย์อย่างเราไขว่คว้าหาความเที่ยงแท้แน่นอนด้วยการรื้อภูมิปัญญาโบราณขึ้นมาศึกษาใหม่ ราวกับว่าอัตราความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเรามันเหวี่ยงเรากระเด็นจนเสียศูนย์ ยังโชคดีที่เรากลั่นกรองรักษาภูมิปัญญา โบราณเอาไว้ด้วย จนสามารถทิ้งความงมงายเรื่องโชคลางและความเชื่อปรัมปราล้าสมัยไปได้เยอะ
ที่สุดแล้วจิตสำนึกของมนุษย์ก็วิวัฒน์มาจนถึงจุดที่สามารถยอมรับภูมิปัญญาที่กลั่นกรองสะสมผ่านยุคผ่านสมัยมานานได้เสียที เรากำลังแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลแห่ง ‘ยุคนิวเอจ’ ครับ ยุคแห่งความรู้ทางเวทย์โบราณและจิตวิญญาณ ซึ่งไหลท่วมท้นเขื่อนขังความเชื่อเก่า ๆ และจิตสำนึกคับแคบ หลักฐานเห็นกันอยู่ในทุกที่ ความคิดใหม่กำลังกลายเป็นกระแสหลักไปแล้ว
ทุกวันนี้สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติให้ทุนศึกษาค้นคว้าศาสตร์ฝังเข็ม (𝗮𝗰𝘂𝗽𝘂𝗻𝗰𝘁𝘂𝗿𝗲) ยาสมุนไพร (𝗵𝗲𝗿𝗯𝗮𝗹 𝗺𝗲𝗱𝗶𝗰𝗶𝗻𝗲) การสะกดจิต (𝗵𝘆𝗽𝗻𝗼𝘀𝗶𝘀) และ จิต (𝗮𝗹𝘁𝗲𝗿𝗲𝗱 𝗦𝘁𝗮𝘁𝗲𝘀 𝗼𝗳 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀) ส่วนบริษัทประกันภัยก็ออกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมการรักษาแบบทางเลือกแล้วด้วย เอเยนซี่โฆษณาหัวเก่ากำลังออกแคมเปญโฆษณาสินค้าไปทั่วโลกโดยเน้นประเด็นกลับชาติมาเกิดเป็นจุดขาย ทั้งหนังใหญ่และรายการทีวีต่างแห่แหนเสนอแนวคิดของนิวเอจไปสู่คนดูนับล้าน ๆ คน
ทำไมกระแสนี้ถึงเกิดขึ้นได้❓
นับร้อย ๆ ปีมาแล้ว คนเชื่อตามกันมาอย่างผิด ๆ ว่าเทคโนโลยีเท่านั้น...เทคโนโลยีที่เมื่อเราพัฒนาไปเต็มที่สุด ๆ แล้วจะกลายเป็นตัวแก้ปัญหาความเจ็บป่วยแห่งมวลมนุษยชาติได้โดยสิ้นเชิง และเพราะเราเชื่อผิด ๆ อีกว่า วิทยาศาสตร์จะเป็นผู้แผ้วถางทางออกจากป่าให้เราหลุดพ้นจากความเจ็บ ความจน ความทุกข์ และความปวดร้าวทั้งปวงได้
มาบัดนี้ เรารู้อยู่แก่ใจแล้วว่าลำพังแค่เทคโนโลยีหรือวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถสลายตัวปัญหาของมนุษย์ทุกประการได้ เราใช้ เทคโนโลยีในทางดีก็ได้ เลวก็ได้ มีแต่ยามที่เราใช้เทคโนโลยีด้วยความรู้แจ้ง ด้วยปัญญา ด้วยความสมดุลเท่านั้น เทคโนโลยีจึงจะช่วยเราได้อย่างแท้จริง และ ‘เราต้องหาสมดุลนั้นให้เจอ’
💟 รัก คือ เสาค้ำจุนสมดุลตัวนั้นเอง
ทุกครั้งที่คนเรามีประสบการณ์แห่งจิตวิญญาณที่เข้มข้น พลังงานแห่งความรักจึงถูกปลุกให้มีชีวิต ความรักแบบนี้จะเป็นความรักที่ไร้เงื่อนไขเด็ดขาดในตัวเอง และหลุดพ้นเรื่องทางโลกอย่างแท้จริง มันประดุจชีพจรแห่งพลังงานบริสุทธิ์ พลังงานเดียวกันกับพลังที่เป็นเจ้าของอำนาจแห่งปัญญาธรรม เมตตาธรรม เป็นเจ้าของพลังที่หลุดพ้นขีดจำกัดของกาลเวลา และเป็นจิตสำนึกอันประเสริฐสูงส่งยิ่ง
‘รัก’ คือ พลังงานที่แผ่ไพศาลที่สุด เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดที่ดำรงอยู่ท่ามกลางพลังงานทั้งหลายทั่วจักรวาล ‘รัก’ คือ “รากฐาน” คือ “เสาหลัก” ของธรรมชาติที่เชื่อมร้อยและหลอมรวมสรรพสิ่งทั้งหลายและมนุษย์ทั้งปวงให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
‘ความรัก’ ทรงพลังมากกว่าจะเป็นแค่เป้าหมายชีวิต แค่เชื้อเพลิงจิตใจ แค่อุดมคติของมนุษย์เท่านั้น ‘รัก’ คือ “ธรรมชาติในตัวตนของเรา”
💟 เรานี้แหละคือรัก 💟
ผมหวังใจว่า “ความหมายของการมีชีวิต" จะช่วยสอนคุณให้จำความรักได้ ให้บ่มเพาะและขยายประสบการณ์แห่งรักได้ (โดยเฉพาะรักที่มอบต่อตัวคุณเองและในสายสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง) และสอนให้คุณสร้างความรักให้เป็นจริงและฉายแสงแห่งรักของคุณสู่ผู้อื่นได้ในที่สุด เนื่องเพราะเมื่อคุณทำได้คุณจะยิ่งได้รับความสุขใจ สุขกาย และสุขอื่นในชีวิตเพิ่มขึ้นมากมายแน่นอน
✨‘รัก’ คือ “การเยียวยาสูงสุด”✨ ในอนาคตอีกไม่นานหรอกครับ จะมีคนนำเอาคุณลักษณะบางเสี้ยวของพลังงานความรักมาทำการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ มาประมวลคุณค่า ชั่งตวงวัด และมาทำความเข้าใจกันอย่างจริงจัง แต่คุณลักษณะบางด้านของรักก็จะยังคงความลึกลับ ขบไม่แตก เหนือโลกเหนือจักรวาล และหลุดพ้นการตวงวัดคาดเดาของมนุษย์โดยสิ้นเชิง เรายังโชคดีนักที่ยามใดก็ตามที่เรารู้สึกเข้าถึงพลังแห่งความรักได้อย่างลึกซึ้งถึงหัวใจ เมื่อนั้นผลการเยียวยาจะปรากฏชัดเจน แม้ว่าเราจะชั่งตวงวัดความรักไม่ได้ หรือไม่เข้าใจความรักเลยก็ตาม
นักฟิสิกส์เรียนกันมานานแล้วว่า ทุกอย่างในโลกคือ ‘พลังงาน’ คนสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาจากการใช้กลวิธีเปลี่ยนรูปพลังงานเสียใหม่แล้วปล่อยพลังออกมา ยาสมุนไพรและยาแผนโบราณได้ผลก็เพราะใช้วิธีการเปลี่ยนรูปพลังงานในระดับเซลลูล่าร์ หรือระดับเซลล์มนุษย์ ผลลัพธ์ของ 𝟮 วิธีนำมาใช้นี้อาจแตกต่างหลายหลาก แต่กลไกในกระบวนการนี้ คือ หนึ่งเดียวกัน 𝗲𝗻𝗲𝗿𝗴𝘆 𝘁𝗿𝗮𝗻𝘀𝗳𝗼𝗿𝗺𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 – พลังงานเปลี่ยนรูป นั่นเอง
‘พลังงานแห่งความรัก’ ทรงศักยภาพเหนือกว่าอาวุธนิวเคลียร์ ละเอียดลึกซึ้งกว่าสมุนไพรมหาศาลนัก มนุษย์เองต่างหากที่ยังไม่เคยเรียนรู้วิธีใช้พลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุด พื้นฐานที่สุดนี้ต่างหาก เราเรียนรู้ได้แล้วเมื่อไหร่เมื่อนั้นแหละ การเยียวยาในทุก ๆ ระดับ ทั้งระดับคนต่อคน จนถึงระดับดวงดาวต่อดวงดาวจะเกิดขึ้นได้ทั้งหมด
หนังสือก่อนเล่มนี้★ ผมเขียนบรรยายถึงปรากฏการณ์วิทยา (𝗽𝗵𝗲𝗻𝗼𝗺𝗲𝗻𝗼𝗹𝗼𝗴𝘆) เรื่องราวประสบการณ์เมทาฟิสิกส์หรือ “เหนือกายเนื้อ” หลากหลายเรื่อง
⏺️ การกลับชาติมาเกิด
⏺️ ธรรมชาติแห่งดวงวิญญาณ
⏺️ การรักษากับผู้เยียวยา
⏺️ เหตุการณ์พลังจิตกับการทรงวิญญาณ
⏺️ ประสบการณ์ตายแล้วฟื้นกับชีวิตหลังความตาย (𝗻𝗲𝗮𝗿-𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 หรือ 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿-𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲)
⏺️ รวมทั้งปัญญาธรรมอันเหลือเชื่อจากกลุ่มพลังของผู้ดำรงอยู่ “คนละฝั่งภพ” กับเราไว้มากแล้ว
★ 𝗠𝗮𝗻𝘆 𝗟𝗶𝘃𝗲𝘀, 𝗠𝗮𝗻𝘆 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀 : 𝗧𝗵𝗿𝗼𝘂𝗴𝗵 𝗧𝗶𝗺𝗲 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝗛𝗲𝗮𝗹𝗶𝗻𝗴 : 𝗢𝗻𝗹𝘆 𝗟𝗼𝘃𝗲 𝗜𝘀 𝗥𝗲𝗮𝗹
ช่วงเวลานี้ ถือเป็นโอกาสครับที่เราจะได้เข้าใจ ได้ประสบกับพลังงานที่คนทั้งโลกร่วมรู้จัก และเชื่อมร้อยทุกประสบการณ์ ทุกปรากฏการณ์และสรรพสิ่งทุกรูปทุกนามเป็นหนึ่งเดียวกันเสียที เมื่อเรามาถึงความเข้าใจ มาได้ประสบการณ์กับตัวแล้ว ก็จะเป็นการยังความเจริญและแผ่ขยายชีวิตเราให้กว้างไกลไพศาลได้ ถึงจุดนี้เราจะทลายกำแพง ทลายอุปสรรคชีวิตเข้าไปสู่สันติภายในตัวเรา สู่ความสุขใจและความสุขแท้ของชีวิตได้จริง ๆ
✨ดวงวิญญาณของเราเหนี่ยวนำเราไปสู่ความรักเสมอครับ วันใดก็ตามที่เรารับรู้และเข้าใจความคิดนี้แล้วว่า ‘รัก’ คือ พลังงานอันดำรงอยู่ล้อมรอบตัวเรา กระแสเยียวยาจากพลังนี้ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกาย เปลี่ยนจิตใจ เปลี่ยนดวงวิญญาณของเราได้อย่างรวดเร็ว แล้ววันนั้นเองจะเป็นวันที่เราหลุดพ้นจากความเจ็บปวดกายและเจ็บร้าวใจอันยืดเยื้อยาวนานได้เสียที ✨
(มีต่อ)
โฆษณา