22 ต.ค. 2021 เวลา 04:03 • ปรัชญา
"วิถีไม้เนื้ออ่อน และไม้เนื้อแข็ง
แต่ละคนมีคุณลักษณะที่ต่างกัน"
" ... ท่านทั้งหลายมีวาสนา
ได้มีโอกาสเก็บตัวปฏิบัติ เพาะบ่มตนเอง
มันเป็นโอกาสที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของเรา
ก็ให้โอกาสตัวเองได้เพาะบ่มเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะ
ให้ได้เติบโตและก็ผลิบานออกมา
การที่เราจะเพาะบ่มเมล็ดพันธุ์
มันก็ต้องใช้เวลาในการเพาะบ่ม
เหมือนเราปลูกต้นไม้ ปลูกป่าขึ้นมา
มันต้องใช้เวลา
ถ้าอย่างไม้อ่อน
พวกไม้ยูคาลิปตัสต่าง ๆ มันก็โตเร็ว
ไม่กี่ปีมันก็โตแล้ว ไม้เนื้ออ่อน
แต่เวลาตัดไปใช้ประโยชน์
มันก็ได้แค่พวกเฟอร์นิเจอร์
พวกอะไรที่มันไม่คงทน
อายุการใช้งานมันสั้น
จะต่างจากพวกไม้เนื้อแข็ง
ไม้เนื้อแข็ง อย่างไม้สักแบบนี้
กว่าจะโตนี่นาน
ต้องใช้เวลาเพาะบ่มกันนาน
ไม้สักนี่ต้อง 20 ปีขึ้นไป
ถึงจะเริ่มตัดมาใช้ประโยชน์ได้
ถ้าตัดก่อน
ก็เอามาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
แต่ถ้าโตเต็มที่แล้ว 20 ปีไปแล้ว
เป็นไม้เนื้อแข็งแล้ว
เอามาทำสิ่งที่มันเป็นเสาหลัก
ปลูกเรือน เสาเรือน
สร้างบ้านต่าง ๆ ต้องใช้ไม้เนื้อแข็ง
การปฏิบัติก็เช่นกัน
ไม่ใช่ว่าสภาวะไปเร็ว แล้วมันจะดีเสมอไป
บางทีมันก็เหมือนไม้เนื้ออ่อน
มันโตเร็วจริง แต่ว่ามันก็ใช้ประโยชน์ได้น้อย
แต่บางคนเป็นวิถีแบบไม้เนื้อแข็ง
มันต้องใช้เวลาเพาะบ่ม
บางทีเราฟังญาติโยมส่งสภาวธรรม
ทำไมสภาวะดีจัง ไปเร็วจัง
บางคนอาจจะฟังแล้ว อาจจะรู้สึกท้อ
ทำไมเราถึงไม่ค่อยไป
ก็ให้เข้าใจว่า วิถีมันต่างกัน
บางคนมันเป็นวิถีแบบไม้เนื้ออ่อน
ไม่ได้ใช้งานอะไรมาก เฟอร์นิเจอร์
แต่บางคนเป็นวิถีแบบไม้เนื้อแข็ง
คิดดูถ้าเราเป็นคนที่มีวิถีแบบไม้เนื้อแข็ง
แล้วพอเราฟังผู้ที่เขาปฏิบัติได้ไว ได้เร็ว
แล้วเราท้อ เราเลิก เสียของไหม ?
ก็เสียของ
แต่ถ้าเราเพาะบ่มของเราไปเรื่อย ๆ
มีความเพียร
มีความพึงพอใจในสภาวะที่เข้าถึง
แล้วก็ค่อย ๆ ปฏิบัติ ใช้เวลาการเพาะบ่ม
เมื่อถึงจุดหนึ่ง
เราจะแจ้งแก่ใจด้วยตัวเอง
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติแล้วเข้าสภาวะได้เร็ว
มันไม่ใช่เครื่องชี้วัดเสมอไป
แต่ละคนมีวิถีที่แตกต่างกัน
ให้พึงพอใจกับสภาวะที่ตัวเองเข้าถึง
ให้พึงพอใจกับวิถีที่ตัวเองได้เดิน
แล้วค่อย ๆ เพาะบ่มปฏิบัติไป
บอกได้เลยว่า
การปฏิบัติแล้วเข้าสภาวะระดับสูงได้ไว
ไม่ได้ชี้วัดว่าเป็นผู้ที่มีบารมีมาก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้ที่ไม่มีบารมี
วิถีแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ให้พึงพอใจ ให้อยู่กับปัจจุบัน
แล้วค่อย ๆ ปฏิบัติไป
การที่เราได้เข้าสู่วิถีที่ถูกต้องนี่แหละ
มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว
ก็ค่อย ๆ ปฏิบัติไป
บางท่านเขามีวิถีสภาวะโลดโผน
สภาวะเร็ว การรู้เห็นมาก
แต่บางท่านก็เป็นวิถีที่สงบนิ่ง เย็น
ค่อย ๆ ไป ค่อย ๆ ไป ก็มี
เพราะฉะนั้น แต่ละคน
แต่ละคนมีคุณลักษณะที่ต่างกัน ... "
.
ธรรมบรรยาย โดย
พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา