•เรื่องน่ารู้ในยุคกลาง: พระสันตะปาปาผู้ขายตำแหน่ง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในสมัยยุคกลางอันเป็นช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่กินเวลายาวนานมาก เคยมีพระสันตะปาปาผู้หนึ่ง สร้างวีรกรรมอันเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้ คือ การขายตำแหน่งพระสันตะปาปาของตนให้แก่ผู้อื่น
พระสันตะปาปาผู้นี้มีชื่อว่า เบเนดิกต์ที่ 9 (Benedict IX) ซึ่งเป็นหนึ่งในโป๊บหรือพระสันตะปาปาที่อื้อฉาวมากคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ วีรกรรมของพระสันตะปาปาผู้นี้มีเป็นหางว่าว ด้วยความที่เป็นพระสันตะปาปาที่มีชีวิตที่มีสีสันจัดจ้านมากคนหนึ่ง จึงถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง The Young Pope นำแสดงโดยพระเอกหน้าหยกอย่าง Jude Law ที่ฉายทางช่อง HBO
ภาพของพระสันตะปาปา (Image: SleuthSayers)
•พื้นเพและพื้นพัง
ชื่อเดิมของพระสันตะปาปาผู้นี้คือ Teofilatto ถ้าเป็นภาษาลาตินมีชื่อว่า Theophylactus พื้นเพเกิดในตระกูลขุนนางอันทรงอำนาจแห่งเมือง Tusculum ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโรมนัก
Teofilatto เป็นหลาน(ที่เป็นลูกของพี่น้อง)ของอดีตพระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้านี้ถึงสองคน คือ เบเนดิกต์ที่ 8 (Benedict VIII) และจอห์นที่ 19 (John XIX) ซึ่งด้วยพื้นเพเช่นนี้พอโตขึ้นมาหน่อยจึงถูกผลักดันขึ้นสู่ตำแหน่งพระสันตะปาปาในปี 1032 ด้วยการติดสินบนชาวโรมันเพื่อซื้อตำแหน่ง ซึ่งตอนที่ได้เป็นพระสันตะปาปาครั้งแรกมีอายุเท่าไรไม่แน่ชัดเพราะไม่ปรากฏข้อมูลปีที่เกิดมาแน่ชัด แต่เดาว่าเขาน่าจะเกิดในปี 1012
พอได้เป็นพระสันตะปาปาก็มีเรื่องมีราวกับชาวบ้านเขาไปทั่ว มักมากในกาม และมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง นักบวชคนใดที่มีพฤติกรรมแสดงตัวเป็นอริกับเขาก็จะทำการบัพพาชนียกรรมเสีย
เรามาดูกันในรายละเอียดว่าวีรกรรมที่น่าสนใจขององค์พระสันตะปาปาผู้นี้มีอะไรบ้าง
แผนที่ของกรุงโรมในยุคกลาง (Image: Life in Italy)
•รายการชื่อเสียง ชื่อเสีย และวีรกรรม
1. Benedict IX เป็นพระสันตะปาปาที่มีอายุน้อยที่สุดตอนที่ได้รับตำแหน่ง แต่ตัวเลขอายุบอกต่างกันไป บ้างก็ว่าได้ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาตอนที่มีอายุได้เพียง 12 ปี แต่บ้างก็ว่าได้เป็นตอนอายุ 20 ปี ตำแหน่งนี้ได้มาเพราะว่าบิดาของเขาทำการติดสินบน
2. Benedict IX เป็นพระสันตะปาปาที่เสเพลมาก พฤติกรรมมีตั้งแต่การลงมือข่มขืน ฆาตกรรม และกระทำพฤติกรรมที่รุนแรงจนเหลือที่จะพรรณนาได้ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมร่วมเพศทางทวารหนัก จึงน่าจะเป็นพระสันตะปาปาที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศคนแรก และถูกเปรียบเทียบว่าเป็นปิศาจมาจากนรกภูมิ
3. ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้ประกอบกับความผันผวนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในคริสตจักรที่แตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า Benedict IX จึงได้ขึ้น(และลงจาก)ตำแหน่งพระสันตะปาปาถึง 3 ครั้ง
- ครั้งแรก ช่วงปี 1032 ถึง 1044
- ครั้งที่สอง ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ปี 1045
- ครั้งที่สามช่วงปี 1047 ถึง 1048
4. ครั้งแรกพอได้รับตำแหน่งแล้ว Benedict IX สร้างชื่อเสียในการใช้ความรุนแรง ประพฤติผิดมักมากในกาม จึงทำให้ชาวโรมเกิดการลุกฮือขับไล่ลงจากตำแหน่งพระสันตะปาปาจึงหลบลี้หนีออกไปจากกรุงโรม และในปี 1045 จึงเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ขึ้นแทนเป็นพระสันตะปาปา Sylvester III
5. Benedict IX ได้ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาเป็นครั้งที่สองเพราะพี่น้องของเขาได้ขับ Sylvester III ตกบัลลังก์ไป แต่พอกลับมาเป็นพระสันตะปาปาได้ไม่เท่าไหร่เพียงประเดี๋ยวประด๋าวเขาก็ขายตำแหน่งอันสูงสุดและทรงเกียรติที่สุดในคริสตจักรนี้ให้แก่พ่อทูนหัวของตัวเองซึ่งเป็นพระโรมันชื่อว่า Giovanni Graziano โดยเสนอตำแหน่งให้กับพ่อทูนหัวคนนี้แลกกับการจ่ายเงินก้อนหนึ่งมาแทน ว่ากันว่าพ่อทูนหัวผู้นี้มีความซื่อสัตย์และเคร่งศาสนา ที่เขาทำเช่นนี้เชื่อว่าเขาทำเพื่อกอบกู้มิให้ตำแหน่งพระสันตะปาปาเสื่อมลงจากการกระทำอันอื้อฉาวของ Benedict IX พ่อทูนหัวจึงขึ้นเป็นพระสันตะปาปาชื่อว่า Gregory VI แทนเมื่อเดือนพฤษภาคม 1045 สาเหตุหนึ่งของการลงจากตำแหน่งเป็นครั้งที่สองนี้เป็นเพราะ Benedict IX ต้องการสละตำแหน่งเพื่อไปมีเมีย โดยไปแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเพื่อให้เรือล่มในหนองเงินทองและอำนาจไม่ต้องไปไหน
จักรพรรดิเฮนรีที่ 3 แห่งเยอรมัน (Image: Wikipedia)
6. ครั้งที่สามที่กลับมาเป็นพระสันตะปาปาเพราะ Benedict IX รู้สึกเสียดายที่ขายตำแหน่งไป จึงเปลี่ยนใจกลับมายึดตำแหน่งพระสันตะปาปาคืน แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว อดีตพระสันตะปาปา Sylvester III ก็กลับมาอ้างสิทธิ์ด้วยเช่นกัน จึงเกิดการแย่งเก้าอี้ซัดกันนัวขึ้น แต่ไม่มีใครได้เก้าอี้นี้ไปเพราะบรรดาพระชั้นสูงไปขอให้จักรพรรดิเฮนรีที่ 3 แห่งเยอรมันมาช่วยนำความสงบกลับมา พระองค์จึงยกกองทัพมายังกรุงโรม และขับทั้ง 3 คนออกไป แล้วได้แต่งตั้ง Clement II เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ พอพระสันตะปาปาองค์นี้สิ้นชีพลง Benedict IX ที่ถูกขับก็กลับมาโผล่หัวที่โรมใหม่แล้วยึดพระราชวังพน้อมกับแต่งตั้งตัวเองเป็นพระสันตะปาปาเมื่อปี 1047
7. แต่ด้วยพฤติกรรมอันสุดทนเช่นนี้จึงไม่มีใครทน กษัตริย์เฮนรีที่ 3 จึงสั่งให้กองทัพไปขับ Benedict IX ออกไปในที่สุดและไม่ต้องหวนกลับมาแล้ว และให้ Damasus II ซึ่งเป็นชาวเยอรมันเป็นพระสันตะปาปาแทน
•บั้นปลายชีวิต
Benedict IX ปฏิเสธที่จะถูกดำเนินข้อหาในการกระทำบาปจากการซื้อขายตำแหน่งในศาสนา เขาจึงถูกบัพพาชนียกรรมแทน และถูกขับให้ไปอยู่อารามที่ Grottaferrata ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ในเขตรัฐวาติกันเพื่อเป็นการสำนึกผิด
Benedict IX น่าจะเสียชีวิตไม่ปี 1055 ก็ปี 1056 จบชีวิตอดีตพระสันตะปาปาที่อื้อฉาวผู้หนึ่งในประวัติศาสตร์ด้วยวัย 43 ปี
หลุมฝังศพที่เชื่อกันว่าเป็นของ Benedict IX (Image: Wikimedia)
อ้างอิง:
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
