28 ต.ค. 2021 เวลา 04:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 28 ต.ค. 2021
"Samsung เปิดเผยกำไรในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
เพิ่มขึ้น 28% แตะระดับสูงสุดในรอบสามปี
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้
จากแรงเทขายกลุ่มธนาคารและพลังงาน"
4
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 -0.33% ​(ที่ 4882 จุด), ดัชนี HSTECH +0.29% (ที่ 6460 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1798 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 24.00 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 63 (Greed > Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทรงตัว หลังจากบริษัทอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3
2
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ฉุดตลาดลง เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อราคาโลหะ ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้
1
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,798.8 ดอลลาร์/ออนซ์
📌 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.99 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.82 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
📌 สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกลดลงในไตรมาส 3 สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 อย่างไรก็ตาม WGC ระบุว่า อุปสงค์จากผู้ผลิตอัญมณี, ธนาคารกลาง และนักลงทุนรายย่อยที่เข้าซื้อทองแท่งและเหรียญทองนั้น ยังคงแข็งแกร่ง WGC ระบุในรายงานรายไตรมาสล่าสุดว่า ความต้องการทองคำทั้งหมดในเดือนก.ค.-ก.ย. อยู่ที่ 831 ตัน ลดลงจาก 894.4 ตันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และ 1,084.9 ตันในไตรมาส 3 ของปี 2562 ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงผลกระทบที่ต่อเนื่องจากโรคโควิดระบาด
บรรดาธนาคารกลางได้ยุติการซื้อทองคำ เนื่องจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ขณะที่การปิดร้านค้าและการตกงานทำให้ยอดขายอัญมณีร่วงลง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย แต่แนวโน้มความเสียหายทางเศรษฐกิจกระตุ้นให้นักลงทุนรายใหญ่ซึ่งส่วนมากอยู่ในซีกโลกตะวันตกนั้นเข้าซื้อทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
📌 ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ตามทิศทางการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวานนี้ และหลังจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นบางรายมีผลประกอบการอ่อนแอ อันเนื่องมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบ
📌 ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนก.ย. เนื่องจากผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงชะลอตัวในไตรมาส 3 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันในรายงานประจำไตรมาสที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้ เนื่องจากโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคญี่ปุ่นยาวนานกว่าที่คาด
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.ย.ลดลง 0.6% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2.3% ในผลสำรวจของรอยเตอร์ หลังจากลดลง 3.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบรายปี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนส.ค.แล้ว ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.ย.หลังปรับค่าตามฤดูกาล
📌 บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยในวันนี้ (28 ต.ค.) ว่า กำไรในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 28% แตะระดับสูงสุดในรอบสามปี โดยได้แรงหนุนที่แข็งแกร่งจากราคาชิปหน่วยความจำ ยอดการผลิตชิปตามสัญญาจ้าง และยอดขายจอแสดงผล ส่วนกำไรจากการดำเนินงานในเดือนก.ค.-ก.ย. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.8 ล้านล้านวอน (1.348 หมื่นล้านดอลลาร์) จากระดับ 12.35 ล้านล้านวอนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับรายงานตัวเลขประเมินผลประกอบการเบื้องต้นที่บริษัทเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้
📌 ที่ปรึกษาของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป และกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ในต่างประเทศได้ร่วมเจรจาในประเด็นหนี้สินของบริษัท หลังจากที่เอเวอร์แกรนด์เผชิญกับวิกฤตสภาพคล่อง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันพุธ (27 ต.ค.) ว่า Houlihan Lokey Inc และ Admiralty Harbour Capital ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเอเวอร์แกรนด์ ร่วมด้วย Moelis & Co และ Kirkland & Ellis ที่ปรึกษาของกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ในต่างประเทศ ได้ลงนามในข้อตกลงที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูล เพื่อเตรียมการสำหรับการเจรจาขั้นต่อไป
บรรดาที่ปรึกษาเตรียมที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเอเวอร์แกรนด์ในหลายประเด็น รวมถึงสถานะของโครงการต่าง ๆ สภาพคล่องของบริษัท และการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน หลังจากที่ความพยายามก่อนหน้านี้ได้ถูกปฏิเสธ ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญกับภาระหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้สร้างความหวาดวิตกให้กับตลาดทั่วโลก
📌 รัฐบาลออสเตรเลียประกาศลดระดับคำแนะนำการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 สำหรับหลายประเทศ เช่น สหรัฐ, อังกฤษ และแคนาดา เพื่อเตรียมพร้อมเปิดพรมแดนในสัปดาห์หน้าเป็นครั้งแรกของออสเตรเลียในรอบกว่า 18 เดือน ออสเตรเลียจะอนุญาตให้ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว สามารถเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากพบว่ามีอัตราฉีดวัคซีนในประเทศสูงขึ้น ขณะเดียวกัน นครซิดนีย์และเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของออสเตรเลีย ก็เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้าพื้นที่ได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว
มารีส เพนย์ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียแถลงข่าวในวันนี้ระบุว่า "การเปลี่ยนแปลงนโยบายเช่นนี้ เป็นส่วนสำคัญในการเปิดทางให้ประชาชนชาวออสเตรเลียได้พบหน้าครอบครัวอีกครั้ง และเปิดพรมแดนออสเตรเลียให้กับทั่วโลกอีกครั้งอย่างปลอดภัย" โดยเธอกล่าวเสริมว่า คำแนะนำด้านการเดินทางฉบับใหม่สำหรับประเทศต่าง ๆ จะช่วยให้ประชาชนสามารถใช้บริการประกันการเดินทางได้ง่ายขึ้นด้วย
📌 ราคาหุ้นของเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 1% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังเมอร์คอนุญาตให้บริษัทยาทั่วโลกสามารถผลิตยาโมลนูพิราเวียร์โดยไม่เรียกเก็บค่ารอยัลตี ซึ่งจะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้จำนวนมาก
📌 ธนาคารกลางแคนาดาประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยระบุถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.32 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.35/37 บาท/ดอลลาร์ สำหรับเช้านี้เงินบาทแข็งค่าตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดอลลาร์และบอลด์ยีลด์สหรัฐฯ ย่อตัวลง
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.25 - 33.40 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยที่ต้อง ติดตามวันนี้ คือ การประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/64 ของสหรัฐฯ
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1 ASP-DISRUPT
2 ASP-EUG
3 ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4 ASP-JHC
5 ASP-ROBOT
6 B-Bharata
7 B-GTO
8 B-INNOTECH
9 BCAP-CLEAN
10 BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
11 BCARE
12 K-CHANGE-A
13 K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
14 K-HIT
15 K-USA-A
16 K-USXNDQ-A
17 K-WORLDX
18 KF-EUROPE
19 KF-GTECH
20 KF-ORTFLEX
21 KF-US
22 KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
23 KFGBRAND-A
24 KFHTECH-A
25 KFINFRA-A
26 KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
27 KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
28 KT-EURO/K-EUSMALL
29 KT-PRECIOUS
30 KT-WTAI-A
2
31 LHCYBER-A
32 LHESPORT-A / WE-PLAY
33 LHINNO-A
34 LHMOBILITY
35 M-EM
36 MATECH-A
37 MFTECH
38 ONE-DISC-RA
39 ONE-GECOM 💵💵💵
40 ONE-UGG-RA
41 P-CGREEN
42 PRINCIPAL GCLEAN-A
43 PRINCIPAL GCLOUD-A
44 PRINCIPAL GHEALTH-A 💵💵💵
45 Principal VNEQ-A
46 PWIN
47 SCBDJI(A)
48 SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
49 SCBGOLDH (แบบ Hedge)
50 SCBKEQTG 💵💵💵
51 SCBNK225
52 SCBS&P500
53 SCBSEMI
54 SCBUSSM
55 T-ES-GGREEN
56 T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
57 T-GLOBALENERGY / MRENEW
58 T-Premium Brand
59 TBIOTECH 💵💵💵
60 TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
2
61 TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
62 TCLOUD
63 TGENOME
64 TGHDIGI 💵💵💵
65 TMB-ES-AUTOMATION
66 TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
67 TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68 TMBAGLF
69 TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70 TMBGQG
71 TMBWDEQ
72 TNEWENGY
73 TNEXTGEN / WE-CYBER
74 UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
75 UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
76 UEDTECH 💵💵💵
77 UEV
78 WE-CANB, MCANN 💵💵💵
79 WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
80 WE-GOLD 💵💵💵
81 WE-TENERGY / SCBCLEANA
2
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1775, 1800, 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 ต.ค. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/61757b89d38ff20ca2b8b35b
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
1
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 24 ต.ค. 2021 https://www.blockdit.com/posts/61751fd6cf47960cab6ce9d5
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE, SOL
ประจำวันที่ 24 ต.ค. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/61752b531f9f520ca44fc8d2
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
2
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - https://bit.ly/lineneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา