27 ต.ค. 2021 เวลา 01:00 • หนังสือ
บันทึกการอ่าน เล่มที่ 3
I ROAM ALONE : THAI - SIBERIA issue
มิตรภาพระหว่างเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรีย
I ROAM ALONE : THAI - SIBERIA issue
มิ้นท์ I ROAM ALONE สาวน้อยมหัสจรรย์ที่เดินทางครบแล้วทั้ง 7 ทวีปทั่วโลก กว่า 60 ประเทศ และนี่เป็นหนังสือเล่มแรกของเธอ เธออยากให้ทุกคน(โดยเฉพาะผู้หญิง) รู้ว่าการไปเที่ยวคนเดียว ไม่ใช่เรื่องอันตราย หากรู้จักป้องกันตัว จึงเริ่มโปรเจ็คในฝันด้วยทริปในฝันกับเส้นทางรถไฟสายทรายส์ไซบีเรีย โดยเลือกผสมเส้นทางสายทราส์ไซบีเรียเข้ากับเส้นทางทรานส์มองโกเลีย ซึ่งจะเริ่มต้นที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน และสิ้นสุดที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
เริ่มทริปที่เมืองปักกิ่ง โดยมีสองสามีภรรยาชาวไทย พี่เดี่ยวกับพี่ออมเป็นผู้ช่วยเหลือในการมาเยือนปักกิ่ง เข้าชมวัดและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ สัมผัสรสชาติเป็ดปักกิ่งต้นตำรับ ก่อนจะเริ่มการเดินทางในเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรีย
เมืองปักกิ่ง
เรื่องราวบนรถไฟในช่วงแรก 29 ชั่วโมง จากจีน ไปมองโกเลีย มิ้นท์ได้ร่วมขบวนกับชายอังกฤษวัยกลางคน และสาวชาวจีนอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน แต่ดูเหมือนจะมีเพื่อนคุยแค่คนเดียว เพราะสาวชาวจีน 2 คนนั้น พวกเธอไม่พูดภาษาอังกฤษเลย เมื่อรถไฟมาถึงมองโกเลีย มิ้นท์ต้องลงที่นี่ แต่ชายชาวอังกฤษยังต้องเดินทางต่อ มิ้นท์จึงอวยพรว่า “ขอให้เพื่อนร่วมขบวนของเธอไม่ใช่ชายตัวใหญ่ กรนเยอะๆนะ”
29 ชั่วโมง จากจีน ไปมองโกเลีย
สำหรับภารกิจ ณ อูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลียนี้ มิ้นท์เลือกทริป 8 วัน 9 คืน ครอบครุมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหลายที่เธอใฝ่ฝันไว้ ทั้งสถูปขาว แนวหินแกรนิตตะปุ่มตะป่ำ แนวสันทรายที่ทะเลทรายโกบี และหุบเขาโอร์คอน โดยมีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทาง 5 คน และคนขับรถกับคนทำอาหารอย่างละ1 รวมเป็น 8 คน ตลอดการเดินก็ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย กินเนื้อม้า เนื้ออูฐ ที่หลายคนอาจขยักแขยง แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมุมมองว่ามันเป็นวิถีชีวิตของชนพื้นเมืองที่ทำกันปกติ เราก็อาจจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “เพราะเราเดินทางเพื่อเรียนรู้ ไม่ได้เดินทางเพื่อตัดสิน” มิ้นท์กล่าว
เดินทางออกจากอูลานบาตอร์มุ่งสู่อิร์คุทสก์ ประเทศรัสเซีย ชีวิต 22 ชั่วโมงบนรถไฟ และมาต่อรถประจำทางมุ่งหน้าสู่เกาะโอลคอนอีก 6 ชั่วโมง ทำไมเธอเดินทางได้มาราธอนขนาดนี้ แค่คิดก็เหนื่อยแทน แต่ก็คงจะสนุกน่าดู
ชีวิต 22 ชั่วโมงบนรถไฟ
ณ เกาะโอลคอน เธอก็ไม่เคยใช้ชีวิตโดดเดี่ยว เธอได้ทำความรู้จักกับหนุ่มไต้หวัน 2 คน โดยการขายตรงชวนพวกเขาไปล่องเรือดูพระอาทิตย์ตก ก่อนที่จะกลายเป็นเพื่อนเที่ยวกันบนเกาะ ปั่นจักรยานบนเกาะด้วยกันจนเหงื่อตก จึงแวะไปกระโดดน้ำที่ทะเลสาบไบคาลถือเป็นไข่มุกแห่งไซบีเรีย และได้แวะมาให้รางวัลกับตัวเองด้วยการนวดแผนไทยบนเกาะ ใช่แล้ว!! นวดแผนไทยดังไกลไปถึงต่างแดนจริงๆ และวันสุดท้ายก่อนเดินทางออกจากเกาะ เธอก็ซื้อทัวร์ไปแหลมโกบอย ระหว่างทางก็จะไปที่ Baikal Face ซึ่งก็ไม่รู้มองเห็นเป็นหน้ายังไง The Cape of Love ที่มีความเชื่อว่า ถ้าอยากได้ลูกชายให้ขึ้นทางซ้าย ถ้าอยากได้ลูกสาวให้ขึ้นขวา มิ้นท์ท่องในใจตั้งนานว่า ขวาได้ลูกสาว แต่สุดท้ายด้วยความเอ๋อ เธอขึ้นทางซ้าย ลาก่อนลูกสาวในอนาคต จากนนั้นเดินทางออกจากเกาะโอลคอนอีก 6 ชั่วโมง เพื่อกลับมาเที่ยวในเมืองอิร์คุทสก์ต่อ
ทะเลสาบไบคาล
กลับมาจากเกาะก็ได้แต่พักร่างกายและจิตใจ 1 วันเต็มๆ การเดินทางเดือนกว่าๆโดยไม่ได้พักบ้างเลย มันก็ไม่ดีต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายก็เหมือนแบตเตอรี่ ต้องแวะชาร์จพลังให้มันบ้าง หยุดใช้งานมันสักหน่อย จิตใจที่ห่อเหี่ยวจะได้กลับสดใสอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ไปดูโชว์ Nerpa หรือแมวน้ำจืดชนิดเดียวในโลกแห่งทะเลสาบไบคาล ทำให้เธอเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคนรัสเซียอีกครั้ง ซึ่งทุกที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดี เราก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินประเทศนั้นๆด้วยคนหมู่น้อยเลย
ออกเดินทางด้วยรถไฟอีกครั้งจาก อิร์คุทสก์ ไปโนโวซีบีสค์ ชีวิต 30 ชั่วโมงบนรถไฟ และต่อด้วยบนรถบัสอีก 4 ชั่วโมง จากโนโวซีบีสค์ ไปบาร์นาล มุ่งหน้าสู่เทือกเขาอัลไต
อิร์คุทสก์ ไปโนโวซีบีสค์ ชีวิต 30 ชั่วโมงบนรถไฟ
แม้พยากรณ์อากาศจะบอกว่าช่วงนี้ไม่เหมาะกับการพิชิตเทือกเขาอัลไต คงต้องรออีก 2 สัปดาห์ แต่วิถีนักเดินทาง ไม่ได้มีเวลาว่างมารออะไรขนาดนั้น เธอตัดสินใจไปเทือกเขาอัลไตในเวลาไม่กี่วัน
ระยะเวลา 8 วันกับการพิชิตเทือกเขาอัลไต มิ้นท์มีเพื่อนร่วมทางคือ อเล็กซ์ ทันย่าและอีวาน(พ่อและแม่ของอเล็กซ์) และคู่รักเยอรมันอย่างมิค่าและแพทริค การพิชิตเทือกเขาอัลไตไม่ใช่เรื่องง่ายเด้ออ อากาศโคตรหนาว เดินป่าเทรคกิ้งของจริง ไม่ใช่เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินบนหิมะ เดินบนน้ำแข็ง โชคดีที่อีวานและทันย่าเป็นคนท้องถิ่นและค่อนข้างคุ้นชินกับเส้นทางแถมยังใจดี ช่วยเหลือมิ้นท์เหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวคนนึง อาจจะปากเสียงกันบ้างกับอเล็กซ์ แต่บทสรุปก็สามารถเครียร์กันได้ลงตัว ความเป็นฝรั่งอ่ะเนอะมีอะไรเค้าก็พูดกันตรงๆ พูดเสร็จก็เครียร์กันให้จบ ดีนะ ดีกว่าเกรงใจ ไม่พูดแบบเอเชียบ้านเรา หลังจากลงจากเขาแล้วมาพักที่บ้านของอเล็กซ์ ก่อนจะบอกลา ทันย่ายังเตรียมอาหารมาให้มิ้นท์ไปกินบนรถไฟอีก อะไรจะน่ารักขนาดนี้
ALTAI
ชีวิต 60 ชั่วโมงบนรถไฟบาร์นาลไปมอสโก เมืองแห่งศิลปะที่เต็มไปด้วยโบถส์สวยๆมากมาย อเล็กซ์ติดต่อมาริน่าให้ช่วยพามิ้นท์เที่ยวกรุงมอสโก แผนของมิ้นท์คือเดินเล่นชิลๆ แล้วค่อยหาร้านกาแฟนั่งดูวิถีชีวิตขิงผู้คน แต่กลับกันเมื่อเจอมาริน่ามาพร้อมกับดิมิทรี่ เพื่อนชายของเธอ พวกเค้าอยากจะพามิ้นท์ไปดูโลเคชั่นยอดฮิตต่างๆให้ครบ จึงทำให้ใช้เวลากับแต่ละสถานที่น้อยเกินไป บางครั้งเราก็ไม่อยากจะไปเยือนให้ครบทุกสถานที่ แค่อยากได้มีเวลาอยู่สถานที่นั้นๆมากกว่า Not see everyting, Just enjoy something
ชีวิต 60 ชั่วโมงบนรถไฟบาร์นาลไปมอสโก
กลับขึ้นรถไฟอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก สถานีสุดท้ายของการเดินทางทริปนี้ของมิ้นท์ ชีวิต 8 ชั่วโมงบนรถไฟกับเพื่อนร่วมขบวนที่เป็นผู้ชายทั้ง 3 คน อึดอัดพอตัว แต่ก็ผ่านมาได้ เซนต์ปีเตอร์เบิร์กเป็นเมืองที่ค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ทำให้หลายคนหลงรัก ส่วนใหญ่มิ้นท์ก็เดินชมพิพิธภัณฑ์ และหาเพื่อนใหม่ไปเรื่อยๆ ในเมืองนี้ไม่ได้มีกิจกรรม Adventure มากมาย ก่อนจะต้องโบกมือลาเมืองนี้
ชีวิต 8 ชั่วโมงบนรถไฟ
ตลอดการเดินทาง 50 วันของเธอบนเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรียให้ประสบการณ์และบอกเล่าเรื่องราวมากมาย สิ่งหนึ่งที่ได้ค้นพบตลอดการเดินทางคือเสน่ห์ของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นเส้นทางที่พาเราไป
ติดตามนักเขียนหนังสือ Facebook page : I Roam Alone
#lifestyleofsogood #บันทึกการอ่าน #Books #IROAMALONE #THAISIBERIAissue #มิตรภาพระหว่างเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรีย #มิ้นท์ #หนังสือ
Follow Sogood
YouTube : Lifestyle of Sogood
Facebook page : Lifestyle of Sogood
Instagram : pom_sogood
Instagram : pix_by_sogood

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา