4 พ.ย. 2021 เวลา 00:11 • หนังสือ
เล่มนี้เป็นหนังสือ สอนให้เราดูแลสุขภาพตัวเอง โดยสังเกตจากพฤติกรรมของเราเอง โดยจะเริ่มจากอธิบายเรื่องราวโดยยกตัวอย่าง แล้วก็มีอธิบายส่วนต่างๆของสมองว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง แล้วไปจนถึงเรื่องชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเรื่องอาหารด้วย
ขั้นแรก เราต้องไม่ทำร้ายจิตใจผู้อื่น และพยายามไม่กล่าวโทษใคร เพราะใันเป็นความรู้สึกทางจิตใจที่จะส่งผลต่อส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อเรามีความคิดที่ดีแล้ว ก็มาดูแลสุขภาพทางกายกัน
การที่เราสุขภาพย่ำแย่ เป็นเพราะเราสะสมสิ่งไม่ดีไว้ เช่นการกินข้าวสาลีมาเป็นเวลามากๆ จนร่างกายต้านทานแทบไม่ไหวแล้ว จึงทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมา
อาการแพ้อาหารต่างๆ อาจจะทำให้เกิดโรคที่ร้ายแรงได้ มีเด็กคนนึงมีปัญหาทางจิต และหมอพยายามหาทางรักษาหลายทางก็ไม่หายซักที จนมาวันนึงพบว่าแพ้กลูเตนในข้าวสาลี จึงงดอาหารที่มีส่วนผสมของข้าวสาลี จึงหายในที่สุด
นมก็เป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่แพ้ได้ ดังนั้นก็ควรระวังเรื่องการดื่มนม และการกินอาหารที่มีส่วนผสมของนมอีกด้วย
แต่แค่เรื่องการแพ้อาหารก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และแพ้สิ่งต่างๆ แต่เรื่องสารพิษก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
รวมไปถึงเรื่องการสักบนร่างกาย ก็เป็นการสะสมแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอได้ด้วยเช่นกัน (เพราะฝังน้ำหมึกที่มีเชื้อแบคทีเรียเยอะมากเข้าไปในผิวหนังจนซึมเข้าไปฝนเลือกและกระจายทั่งร่างกาย)
ดังนั้น เราควรลดการให้สารพิษต่างๆเข้าสู่ร่างกาย และเพิ่มความสามารถของตับในการขจัดสารพิษต่างๆในร่างกาย ด้วยการกินผักใบเขียว เช่นบลอโคลี่ กระหล่ำปลี ผักกาดขาว (ทำไมพิมพ์ไปหิวไปนะ?)
สารพิษต่างๆก็เช่นพวกคลอลีนในน้ำ พาชนะต่างๆที่ทำด้วยพลาสติก สารปรอทในเครื่องสำอาง ในสีทาบ้าน รวมไปถึงพวกเชื้อราต่างๆด้วย
ซึ่งเพราะแบบนี้ ในเล่มนี้ก็สอนวีธีทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาอเนกประสงค์ ฯลฯ เพื่อให้เราเจอสร้างเคมีน้อยลงอีกด้วย
นอกจากเรื่องของสารพิษแล้ว เรื่องของการนอนก็สำคัญ เราควรนอนหงาย เปิดเครื่องกรองฝุ่น ฝึกทำสมาธิ หายใจแบบมีสติรู้สึกตัว เพื่อลดความเครียดลง
แล้วยังมีเรื่องของสนามแม่เหล็ก ผ่านสายไฟต่างๆ มือถือก็ยังสามารถแพร่สนามแม่เหล็ก ซึ่งอาจทำอันตรายต่างๆกับร่างกายเราได้ และเราควรปิดสัญญาณไวไฟ (wifi) ก่อนนอน เพื่อลดการส่งสัญญาณต่างๆ และควรเอามือถือไว้ห่างๆตอนเรานอนด้วยนะ
อีกทั้งในบทเกือบท้ายสุด คนเขียนได้แนะนำเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพไว้หลายเมนูมาก (แต่สำหรับเราการหาวัตถุมาทำค่อยข้างยากหน่อยนะ เราเลยคิดว่าไม่มาเล่าเรื่องเมนูอาหารดีกว่า)
สุดท้ายของเล่มก็มาสรุปว่าหลังจากอ่านเล่มนี้จบแล้ว เราต้องทำอะไรบ้างใน 12 สัปดาห์ ซึ่งก็คือ
1. สังเกตตัวเอง (เจ็บป่วยตรงไหนบ้าง)
2. อ่านบทความของ นพ.เดล เบรเดเซน (เช่น เรื่องอวสานอัลไซเมอร์)
3. สังเกตเรื่องการกิน และพยายามไม่กินของที่แพ้ งดแป้งสาลี(กลูเตน)และน้ำตาล(อาจจะไปตรวจหาว่าเราแพ้อะไรที่คลินิก/โรงพยาบาลก็ได้)
4. เลือกกิน/ใช้ของที่เป็นออแกนิค หลีกเลี่ยงสารเคมี
5. สร้างตารางชีวิตที่ดีผ่านเว็บของดร.ทอม โอไบรอัน
6. พบแพทย์ที่ดูแลเรื่องสมุทัยเวชศาสตร์
7. ออกกำลังกาย โดยเน้นตรงแกนกลางของร่างกาย (อาจไปหาหมอไคโรแพรคติก)
8. หายใจอย่างมีสติ
9. ดื่มชาเขียววันละ 1 ถ้วยต่อวัน
10. เริ่มทำอาหารตามสูตรที่บอกไว้ในเล่มนี้
11. เรียนรู้เรื่องสนามแม่เหล็ก
12. ทดสอบตัวเองว่าจำเรื่องทั้ง 12 สัปดาห์ได้ทั้ย ถ้าจำได้ ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว...
จบการรีวิวเล่มนี้นะ เป็นอีกเล่มที่ดี เหมือนเรื่องก้าวใหม่ เพื่อดูแลสุขภาพของเราเลย ลองไปหาอ่านกันดูนะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา