Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
God Journey (การเดินทางของเหล่าพระเจ้า)
•
ติดตาม
3 พ.ย. 2021 เวลา 02:59 • หนังสือ
✴️ บทที่ 3️⃣ กลับมาเกิด (ตอนที่ 2)
มารี หญิงอิตาเลียนวัย 𝟱𝟬 ปี ตะลึงมากที่เธอเห็นภาพชัดเจน (ซึ่งต่อมาถูกต้องตามเหตุการณ์จริงทุกอย่าง) ของช่วง 𝟭 เดือนก่อนเธอคลอดทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในมดลูกได้เหมือนจริงขนาดนั้น
มารีไม่เคยรับการสะกดจิตหรือย้อนอดีตใด ๆ มาก่อนเลย เธอทำใจรับว่าประสบการณ์นี้มาจากความทรงจำของตัวเองได้ยากแม้ว่ามันจะทั้งละเอียดและชัดเจนจนเธอประหลาดใจ
เธอเริ่มต้นด้วย “ดิฉันไม่ค่อยเชื่อเลยเวลาที่พูดออกมาว่ากำลังอยู่ในมดลูกแม่ ดิฉันเห็นตัวเองขดอยู่ในมดลูกของแม่ เห็นแม่นั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวหนึ่ง”
มารีเล่าบรรยายอพาร์ตเมนต์ที่เขตบรองซ์ของแม่เป็นฉาก ๆ ละเอียดมาก โดยเฉพาะห้องครัวที่ทั้งแม่และน้าสาวนั่งคุยกันอยู่ ดื่มชาและทานคุกกี้สูตรพิเศษของอิตาเลียนที่น้าสาวชอบอบเฉพาะเทศกาลคริสต์มาส มารีแปลกใจเหมือนกันที่ในห้องเอาต้นคริสต์มาสมาวางและตกแต่งแล้ว เนื่องจากอีกตั้ง 𝟮 อาทิตย์กว่าจะถึงคริสต์มาสจริง
การสนทนาของแม่กับน้าเริ่มซีเรียส
“ตอนที่แม่นั่งอยู่ที่โต๊ะดื่มชากัน” มารีเล่าต่อ “ฉันเห็นแม่แล้วก็น้า แต่จริง ๆ ฉันกำลังอยู่ในท้องแม่...แม่พูดกับน้าว่า ‘พี่กำลังจะตาย พี่จะไม่มีโอกาสเลี้ยงลูกสาวคนนี้จนแกโตแน่แล้ว’ ”
ทั้งที่ใจไม่เชื่อ แต่มารีก็ยังทวนความทรงจำต่อ เธอบรรยายความคิดตัวเองขณะที่เฝ้าดูและฟังจากในท้องแม่
“ดิฉันบอกตัวเองว่า ‘บ้าไปแล้ว...’ แม่ดิฉันตายจริงๆ...เหตุการณ์ที่เห็นเป็นช่วงหนึ่งหรือสองอาทิตย์ก่อนคริสต์มาส แม่ดิฉันเป็นนิวมอเนียตายวันที่ 𝟭𝟰 มกราคม” มารีหยุดพูด “ดิฉันแทบอดใจรอถึงบ้านไม่ไหวค่ะ อยากไปถามน้าสาวเลยว่านี่แม่นั่งตรงโต๊ะในครัวพูดกับน้าอย่างนี้จริง ๆ รึเปล่า ดิฉันแน่ใจว่าน้าสาวต้องจำได้ แล้วน้าต้องคิดว่าดิฉันเพี้ยนแน่ ๆ แต่ดิฉันเห็นสองคนคุยกันจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ดิฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ”
มารีไม่เคยอยู่อพาร์ตเมนต์เก่าของแม่เลยตั้งแต่เกิด น้าสาวก็ไม่เคยปริปากบอกเรื่องนี้ให้ฟังด้วย แต่อย่างไรเสียเธอพึ่งพาคุณน้าได้เรื่องความจำว่าทุกคำพูดเป็นอย่างไร จากที่มารีบอก หญิงชราอายุ 𝟴𝟬 ปีคนนี้ยัง ‘สมองคมกริบ’ ทีเดียว
ไม่ถึง 𝟮 ชั่วโมง มารีโทรฯ มารายงานผล เธอติดต่อคุณน้าได้ คุณน้ายืนยันเรื่องทุกอย่าง
“ดิฉันโทรฯ ถามคุณน้า ‘น้ามารี นี่คุกกี้เองนะ’ น้าพูดเลย ‘มีใครตายอีกล่ะงานนี้’ ดิฉันบอกว่า ‘ไม่มีใครตายหรอกคุณน้า แต่ฉันขอเล่าด่วนจี๋เลยนะ น้าช่วยฟังให้จบก่อน ฉันอยากรู้ว่า น้านั่งอยู่กับแม่ที่โต๊ะในครัว บนโต๊ะมีจานคุกกี้แล้วต้นคริสต์มาสก็ตั้งอยู่...’ ”
คุณน้าสวนคำเธอเลย “ใครมาเล่าให้หลานฟังเฮอะ” คุณน้าเค้นถาม
“ฉันขอไม่อธิบายเถอะนะคะคุณน้า แต่ช่วยบอกเถอะว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
คุณน้าของมารีเล่าว่า “ฉันแวะไปเยี่ยมแม่เธอ เอาจานคุกกี้ไปให้ด้วย อบพิเศษให้แม่เค้าโดยเฉพาะ เป็นคุกกี้ที่แม่เธอโปรดปรานมาก เพราะเวลากินเค้าชอบเอามือลูบท้องโตแล้วพูดว่า กินเผื่อคุกกี้น้อยด้วย”
“ดิฉันเลยได้คุกกี้เป็นชื่อเล่นตั้งวันนั้น” มีอรรถาธิบาย “ใคร ๆ ก็ เรียกดิฉันว่าคุกกี้เพราะดิฉันชอบคุกกี้มาก ๆ”
ตามที่คุณน้าเล่า แม่ทานคุกกี้ไป 𝟮 ชิ้นแล้วค่อยแต่งต้นคริสต์มาส “ตอนนั้นก่อนถึงคริสต์มาส 𝟮 อาทิตย์ แต่ที่แม่รีบตั้งต้นคริสต์มาสก่อนก็เพราะแม่คิดว่าดิฉันจะต้องเป็นเด็กเกิดวันคริสต์มาสแน่ ๆ”
พอนั่งที่โต๊ะ เธอถึงบอกน้องสาวว่า “มารี พี่คงอยู่ไม่ทันเลี้ยงลูกจนโตแน่ แต่พี่จะได้เจอเค้า พี่รู้ว่าลูกจะเป็นเด็กผู้หญิง ถ้าพี่บุญน้อยอยู่ไม่ถึง พี่อยากให้เค้าชื่อโรสมารีนะ แต่พี่จะได้เจอเค้าอีก พี่รู้ดี... แต่พี่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตายแน่นอน”
น้ามารีรีบตอบ “เป็นไปไม่ได้หรอกพี่❗”
แต่คุณแม่ของมารีกลับตั้งใจพูดอย่างมาก
“ดูต้นคริสต์มาสเอาไว้นะ ทุกปีให้เอาของขวัญวางไว้ให้พี่ด้วยถึงพี่จะไม่อยู่แล้วก็ตาม”
มาจนถึงช่วงท้อง แม่ของมารีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด ไม่มีเหตุผลมารองรับการพูดเป็นลางแบบนี้เลย
“เฮ๊อ...แต่ดูเถ้อะ...” คุณน้าเล่าต่อ “แม่ของแกเกิดเป็นหวัดคัดจมูกนิดเดียวเอง พอวันคริสต์มาสเกิดติดเชื้อนิวมอเนีย กว่าจะคลอดแกลำบากมาก แม่เค้าตายด้วยนิวมอเนียแต่หลานรอด”
“เรื่องจริงหมดเลยเหรอเนี่ย❗” มารีบอกน้า แต่น้ามารียังเค้นถาม
“ใครหน้าไหนบอกหลานเฮอะ”
“ฉันเดาว่าฉันเห็นจากในครรภ์นะคะน้า” มารียอมรับ “ตอนนี้ฉันเชื่อสนิทแล้ว” การรื้อฟื้นจากปากคุณน้าช่วยยืนยันและเติมเต็มประสบการณ์ของเธอมากขึ้นจริง ๆ
มารียังถามคุณน้าเรื่องอื่นด้วยจนสามารถต่อปริศนาได้ ปรากฏว่าห้องครัวกับอพาร์ตเมนต์เหมือนกับที่เธอเห็นรายละเอียดเปี๊ยบ
คุณน้ามารีตั้งชื่อหลานตามที่แม่สั่งเสียไว้ แถมยังย้ำเรื่องที่พี่สาวที่ตายไปแล้วขอไว้ให้วางของขวัญใต้ต้นคริสต์มาสทุกปี
“พอดิฉันถามว่าแล้วคุณน้าทำตามหรือเปล่า น้าบอกว่าไม่ทำ❗” เราต่างคนต่างยิ้มเลยครับ
. . .
วาเนสสาเป็นสาวเชื้อสายสเปนที่ชีวิตทุกข์ระทมเหลือเกิน ต้องเป็นม่ายเพราะสามีล้มป่วยตายกะทันหัน กว่าจะทำใจได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญอยู่แล้ว ผมพบเธอในการจัดเวิร์กชอปครั้งใหญ่ ผมสุ่มเรียกเธอจากกลุ่มผู้เข้าเวิร์กชอปเพื่อจะสาธิตการย้อนอดีตแบบเดี่ยว ขณะที่กลุ่มผู้ชม 𝟱𝟬𝟬 คนกำลังจ้องดูอย่างคาดหวัง และคุณพ่อของเธอดูอย่างกังวลใจ เธอก็เข้าสู่ภวังค์ลึก
ช่วงสำคัญของการย้อนจิตวาเนสสาคือตอนกลับไปหาช่วงอยู่ในท้องแม่ ขณะเป็นเด็กอ่อนในครรภ์ก่อนวาเนสสาเกิด ในภาวะสมาธิและผ่อนคลายอย่างมากนั้น หญิงสาวบรรยายถึงลำแสงที่สวยงามและสงบสุขมากที่อาบไปทั่วทั้งตัวเธอและมดลูกของแม่ ส่งพลังชุ่มชื่นบำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณซึ่งเกื้อกูลส่งเสริมการบำรุงร่างกายคนเป็นแม่ด้วย เธอยังรู้สึกได้ถึงความรักความดีใจที่จะมีลูกของพ่อแม่ของเธอได้ พอถึงตรงนี้วาเนสสาก็เปลี่ยนสีหน้าจากปีติสุขมากไปเป็นแปลกใจและตกใจมาก
“ฉันรู้ตัวทุกอย่าง” เธอกล่าวคำ “ทั้งสภาพในและนอกมดลูก... ฉันรับรู้มากมายเลย... ฉันเห็นฉันได้ยินหมดทุกเรื่องเลย❗”
วาเนสสาดูงงงวยที่เธอรู้ตัวดีหมดจากที่อยู่ในท้อง ดวงตาส่ายไปมาภายใต้หนังตาที่ปิดและเงียบงันไป เธอเล่าให้ผมฟังภายหลังว่าตอนนั้นกำลังซึมซับภาพไว้มากมาย คุณพ่อเธอจะเป็นคนยืนยันรายละเอียดเหตุการณ์ที่เธอจับภาพได้ก่อนคลอด
“ฉันเห็นอนาคตได้... ฉันเห็นเหตุการณ์ในชีวิตที่จะต้องเกิดได้... ทุกเหตุการณ์มีวัตถุประสงค์ทั้งนั้น ฉันว่าไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุ...” คำกล่าวหนักแน่น ยกระดับจิตขึ้นสู่มุมมองที่สูงกว่าแล้ว
✨ ครั้นพบประสบการณ์แห่งแสงสว่าง กระแสการรับรู้ด้วยจิตที่สูง การจำแผนชีวิตและชะตาลิขิตของตนเองได้ ความทุกข์ระทมที่เธอแบกรับมาตลอดเหมือนจะหายไปทันที ชีวิตของหญิงสาวเปลี่ยนไปเลยเพราะความทรงจำที่หยั่งรากจากประสบการณ์ภาวะตัวอ่อนในมดลูกของเธอเอง ✨
ความทรงจำในภาวะเด็กอ่อนในมดลูกเป็นเรื่องสำคัญด้วยหลายสาเหตุครับ มันช่วยคนไข้ที่มีบาดแผลจากวัยเด็กและบาดเจ็บจากความรักความสัมพันธ์ให้อาการดีขึ้นได้
💟 ความทรงจำประดานี้เป็นการบอกเราให้รู้ว่าสติตื่นตัวรับรู้มีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนคลอดเสียอีก เราจะได้รู้เสียทีว่าทั้งตัวอ่อนและทารกน้อยๆเขารู้เรื่องเยอะกว่าที่เราเคยคิดนัก พวกเขากำลังรับทราบและแยกแยะข้อมูลรอบตัวมากมาย เมื่อเราพบแสงสว่างแห่งความรู้นี้แล้วก็สมควรจะคิดเสียใหม่ว่าเราจะปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ตัวน้อยๆอย่างพวกเขาอย่างไรดี เพราะพวกเขาตั้งอกตั้งใจรับกระแสความรักที่เราสื่อสารกับเขามาก ไม่ว่าจะด้วยการคุยกับเขา การคิด หรือความรู้สึกก็ตาม 💟
. . .
วันที่สองของเวิร์กชอป หนึ่งในเหตุการณ์ชีวิตที่แปลกอัศจรรย์เกิดต่อหน้าผู้เข้าเวิร์กชอปทั้งหมด ผมเลือกอาสาสมัครมาทำการสาธิตการย้อนจิตแบบเดี่ยว หนนี้เป็นการสาธิตวิธีนำเข้าภวังค์สะกดจิตแบบเร็ว
เอน่า คนที่รับเป็นไข้อาสา เธอไม่สบายเลยพลาดเวิร์กชอปเมื่อวาน ไม่มีใครเล่าเรื่องที่วาเนสสาย้อนจิตไปแล้วให้ฟังเลย เอน่าหลุดเข้าสภาวะภวังค์เร็วมากและไปยังช่วงเป็นเด็กอ่อนในครรภ์เช่นกัน (𝗶𝗻-𝘂𝘁𝗲𝗿𝗼 𝗽𝗲𝗿𝗶𝗼𝗱) เธอเริ่มต้นพรรณนาถึงแสงสีขาวทอง ถึงการรู้เหตุการณ์ทั้งที่อยู่ในท้องและนอกท้องแม่ รู้เหตุที่มาที่ไปว่าทำไมเธอถึงเลือกพ่อแม่คนนี้และทางชีวิตที่กำลังจะมาเกิด รู้ว่าโครงชีวิตถูกสร้างมาแล้วอย่างดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายดวงวิญญาณ
ผมทึ่ง แม้จะพบเหตุการณ์พ้องจองหรือต้องตรงกันแบบนี้หลายกรณีแล้วในชีวิตการทำงาน ผมก็ยังแปลกใจไม่หายในข้อมูลที่เหลือเชื่อจนไม่น่าเป็นไปได้อย่างนี้
ผู้ชมทั้งหมดก็อึ้ง มีแต่เอน่าคนเดียวที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เธอถ่ายทอดออกมาเหมือนกับมาเล่าการย้อนจิตวาเนสสาเมื่อวานนี้ซ้ำอีกครั้ง
✨ บางที่กลุ่มผู้ชมอาจจำต้องได้ยินสารซ้ำสองก็ได้ว่า เรามาเกิดบนโลกนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เราคือจิตศักดิ์สิทธิ์งดงามที่ต้องมาเกิดในโรงเรียนบนภพโลก ตัวเราเป็นคนวางหลักสูตรของตัวเองทุกอย่างเพื่อจะได้ขยายกระบวนการการเรียนรู้ เรามาจากแสงสว่างและเราก็เป็นแสงสว่างนั้น เราฉลาดสุขุมมากกว่าที่เราเคยคิดไว้เยอะ สิ่งเดียวที่เราต้องทำคือ “จำให้ได้” นั่นเอง ✨
(มีต่อ)
หนังสือ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
𝗠𝗲𝘀𝘀𝗮𝗴𝗲𝘀 𝗙𝗿𝗼𝗺 𝗧𝗵𝗲 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย