✴️ บทที่ 3️⃣ กลับมาเกิด (ตอนที่ 1)
บทที่ 3️⃣ กลับมาเกิด
เราเลือกว่าเมื่อไหร่จึงจะกลับมาสู่รูปสังขาร และเมื่อไหร่เราจะไป เรารู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกส่งลงมากระทำจนสำเร็จ แล้วเมื่อไหร่เราจึงจะได้พัก และเติมพลังแก่ดวงวิญญาณของเราใหม่ เจ้าได้รับอนุญาตให้เลือกเวลาที่จะกลับคืนมาสู่รูปสังขารอีกครั้ง
การที่เราเลือกมาเกิดกับครอบครัวของเรา ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือเรื่องบังเอิญ เราเองเป็นคนเลือกกรณีแวดล้อมและวางแผนชีวิตให้ตัวเองก่อนที่เราจะปฏิสนธิในท้องแม่เสียอีก ตลอดแผนชีวิต เราจะมีกลุ่มวิญญาณที่รักและเมตตาเรา คอยช่วยเหลือ นำทาง และคุ้มครองอยู่ข้างๆตลอดเวลาที่เราอยู่ในร่างมนุษย์ ยามเมื่อเราใช้ชีวิตตามแผนของเราไป
คำว่า ‘พรหมลิขิต’ หรือ 𝗱𝗲𝘀𝘁𝗶𝗻𝘆 เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของ ‘ละครชีวิต’ ที่เราเลือกวางไว้แล้ว
มีหลักฐานหนักแน่นมากที่ชี้ชัดว่า เหตุการณ์สำคัญ ๆ ล่วงหน้าที่กำลังจะเกิดในช่วงชีวิต ซึ่งเรียกว่าเป็น ‘จุดซะตากำหนด’ (𝗽𝗼𝗶𝗻𝘁 𝗼𝗳 𝗱𝗲𝘀𝘁𝗶𝗻𝘆) นั้น เรารู้เห็นได้ถ้าเราไปอยู่ ณ ระดับวางแผนก่อนการปฏิสนธิของเราเอง เป็นหลักฐานทางการแพทย์ที่ทั้งผมและนักจิตบำบัดคนอื่น ๆ รวบรวมจากเคสคนไข้ที่พบประสบการณ์ 𝗽𝗿𝗲-𝗯𝗶𝗿𝘁𝗵 𝗺𝗲𝗺𝗼𝗿𝗶𝗲𝘀 หรือ ‘ความทรงจำก่อนเกิด’ ขณะอยู่ในภวังค์สะกดจิต ขณะปฏิบัติฌานสมาธิ หรือ ระลึกได้กะทันหัน
เป็นการบอกให้รู้ถึงคนสำคัญที่เรากำลังจะได้เจอ บอกการกลับมาพบกันอีกครั้งของคนเป็นคู่แท้หรือวิญญาณคู่มิตร (𝘀𝗼𝘂𝗹𝗺𝗮𝘁𝗲𝘀 หรือ 𝘀𝗼𝘂𝗹 𝗰𝗼𝗺𝗽𝗮𝗻𝗶𝗼𝗻𝘀) กระทั่งสถานที่ที่จะเกิดเหตุการณ์พวกนี้อย่างแม่นยำ กรณีของ ‘เดฌาวู’ (deja vu) หรือภาวะที่เรารู้สึกคุ้นมาก เหมือนว่าเคยเห็นนาทีนั้น อยู่ในสถานที่นั้นมาก่อน สามารถอธิบายได้ว่า ชีวิตที่เราวางไว้ก่อนแล้วเกิดหวนวูบมาให้จำได้รางๆในชาตินี้ร่างนี้ ณ กาลปัจจุบัน
เรื่องนี้เกิดได้จริงสำหรับคนทุกรูปทุกนาม บ่อยมากที่คนซึ่งถูกเก็บไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมสงสัยว่าแผนชีวิตของตัวเองกระเจิงไปหมดแล้วหรือเปล่า คำตอบคือเปล่าเลยครับ เราเลือกพ่อแม่บุญธรรมมาก่อนแล้วเช่นเดียวกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเช่นกัน ทั้งหลายทั้งปวงมีเหตุผลที่มาที่ไปหมด และไม่มีคำว่าบังเอิญบนวิถีแห่งลิขิตชะตา
กระนั้น แม้มนุษย์ทุกคนจะมีแผนชีวิต (𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗽𝗹𝗮𝗻) เรียบร้อยแล้ว แต่เราก็เกิดมาพร้อมกับคำว่า 𝗳𝗿𝗲𝗲𝘄𝗶𝗹 หรือ ทางเลือกของจิตอิสระเช่นกัน เหมือน ๆ กับที่พ่อแม่เราและทุกผู้คนที่เราได้พานพบสัมผัสกัน ชีวิตของเรากับชีวิตของเขารับผลกระทบโดยตรงจากทางเลือกที่เราสร้างเองขณะที่เรายังมีสังขารอยู่
กระนั้น ‘จุดชะตากำหนด’ ก็ยังเกิดได้อยู่ เรายังจะต้องเจอคนที่เราวางแผนมาแล้วว่าจะเจอ ยังจะต้องเผชิญกับทั้งตัวโอกาสและตัวอุปสรรคซึ่งเราวางแผนมานานแล้วก่อนเราปฏิสนธิเสียอีก แต่เราจะเลือกจัดการกับการพบเจอ เลือกโต้ตอบอย่างไร การตัดสินใจหลังจากนั้นคืออะไร ล้วนเป็นการแสดงออกจากจิตอิสระของเราเองทั้งสิ้น ‘พรหม ลิขิต’ กับ ‘จิตอิสระ’ เกิดมาคู่กันรับส่งกันและกันตลอดมา ทั้งสองสิ่งเกิดเพื่อเกื้อกูลกัน มิใช่ต่อต้านกันแม้แต่น้อย
. . .
หลักฐานอีกอย่างที่ต้องตรงกันหมดจากทุกคนไข้ที่มาย้อนอดีตกับผม คือ ดวงวิญญาณจะจองร่างไว้ก่อนตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ ดวงวิญญาณอื่นมาเข้าร่างไม่ได้ แต่ร่างกับดวงวิญญาณจะไม่รวมตัวกันสมบูรณ์จนกว่าจะถึงตอนคลอด ก่อนถึงตอนนั้นดวงวิญญาณของเด็กจะเข้าร่างออกร่างได้และรับรู้ประสบการณ์นอกครรภ์ได้ตลอด ทั้งรู้เห็นเหตุการณ์นอกร่างตัวเองและนอกร่างของคนเป็นแม่ได้พอ ๆ กัน
ดวงวิญญาณไม่ถูกทำร้าย ไม่ว่าจะจากการแท้งเองหรือการทำแท้งก็ตาม หลายกรณีที่เมื่อการตั้งครรภ์ไม่ถึงที่สุด ดวงวิญญาณดวงเดิมนั้นแหละจะกลับเข้าร่างลูกคนต่อมากับพ่อแม่คนเดิม
. . .
ครั้งหนึ่งที่ผมไปบรรยายเรื่องปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ (𝗽𝗮𝗿𝗮𝗻𝗼𝗿𝗺𝗮𝗹 𝗽𝗵𝗲𝗻𝗼𝗺𝗲𝗻𝗮) หลังบรรยายเสร็จ นักศึกษาจิตวิทยาคนหนึ่งเล่าความฝันตอนภรรยาของเขาท้อง 𝟰 เดือนให้ผมฟัง ตอนนั้นยังไม่รู้เพศของลูกในท้อง คืนหนึ่ง ลูกสาวที่ยังไม่เกิดมาเข้าฝันแจ่มชัดมาก มาบอกชื่อ บอกชาติที่แล้วที่เธอจากมา และพูดว่าทำไมเธอถึงเลือกมาเกิดกับสามีภรรยาหนุ่มสาวคู่นี้ เปิดเผยวัตถุประสงค์แห่งกรรมและแผนชีวิตทั้งหมด เขาสะดุ้งตื่นเหมือนโดนความฝันตอกเข้าไปในหัวอย่างแรง เขาพลิกไปหาภรรยา “นี่คุณ ผมเพิ่งฝันประหลาดมากเลย” เขาตั้งท่าเล่าแต่โดนภรรยาชิงเล่าก่อน
“ฉันก็ฝัน❗” เธอร้องออกมา “ฝันว่าลูกสาวเรามาหาฉัน...” ชื่อเดียวกัน อดีตชาติเหมือนกัน แผนชีวิตตรงกัน รายละเอียดทุกอย่างตรงเผง ฝันเดียวกันเป๊ะ
สองสามีภรรยาช็อก ทั้งพ่อทั้งแม่ได้รับสารเดียวกันในฝันเป็นการยืนยันข้อมูลและทำให้ความรู้ที่ได้รับทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก
ห้าเดือนต่อมา พวกเขาได้ลูกสาวครับ
(มีต่อ)
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
