Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เดชา ปราการะนันทน์
•
ติดตาม
8 พ.ย. 2021 เวลา 14:27 • ประวัติศาสตร์
-- สีบัวแดง โดย เดชา ปราการะนันทน์ --
จากลุ่มน้ำมูล เมืองอุบลราชธานี
นักสู้ผู้เรืองฝีมือ เดินทางมาสร้างชื่อเสียงบนผืนผ้าใบเมืองกรุง ติดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย คนแรกก็คือ เปงสูน เทียมกำแหง เจ้าของสมญา “หมีดำ” ต่อมาก็สมเดช ยนตรกิจ “ซ้ายฟ้าฟาด” ผู้ครองตำแหน่งแชมป์ตะวันออกด้วยระยะเวลาอันยาวนาน และอีกคนหนึ่งก็คือ “ดาราเท้าไฟ” วรเทพ เลือดอุบล ผู้เคยไปโชว์ศิลปะมวยไทยถึงสหรัฐอเมริกา
และในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันนี้ นักมวยเลือดอุบลอีกคนหนึ่ง ก็ทำให้แฟนมวยเกิดพิศวงและศรัทธาในชั้นเชิงอันแพรวพราว จากการชกไม่กี่ครั้งก็ได้รับการกล่าวขวัญอยู่ทั่วไป
นักมวยผู้นี้คือ สีบัวแดง เลือดอุบล
สีบัวแดง เลือดอุบล ขอบคุณภาพจาก Pitagpong Eksuk
ในระยะนั้นที่อุบลมีการแข่งขันชกมวยเป็นประจำ และนักมวยที่ขึ้นชกอย่างสม่ำเสมอส่วนมากก็มาจากค่าย “ควรตั้ง” ของครูกู้ ควรตั้ง ซึ่งในอดีตเคยมาโชว์ฝีมือที่เวทีเมืองกรุงสมัยสนามสวนเจ้าเชตุหรือสนามหลักเมืองมาแล้ว
ลูกศิษย์ของครูกู้มีอยู่มากมาย สมเดชก็เคยฝึกฝนชนเชิงกับครูกู้มาก่อน และในจำนวนศิษย์รุ่นใหม่ก็มีอยู่คนหนึ่งที่รูปร่างกำยำล่ำสัน แม้จะต่ำเตี้ยไปบ้าง แต่ลีลาการชกคล่องแคล่วว่องไว ถนัดในการใช้อาวุธทุกอย่าง ทั้งศอกเข่าเท้าหมัด โดยเฉพาะแข้งซ้ายขวาใช้ได้ดีเป็นพิเศษ ลูกศิษย์คนนี้มีนามว่า สีบัวแดง ควรตั้ง
สีบัวแดง มีน้ำหนักอยู่ในรุ่นเฟเธอร์เวทโดยประมาณ และเริ่มสร้างชื่อเสียงที่เวทีเมืองอุบลจนโด่งดังขึ้นมาเป็นลำดับ และหลังจากเฆี่ยนนักมวยจากเวทีกรุงเทพฯ จนพ่ายอย่างย่อยยับกลับมาหลายราย สีบัวแดงเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะล่องลงมาขุดทองบนผืนผ้าใบเวทีราชดำเนิน เช่นเดียวกับนักมวยรุ่นพี่คนอื่น ๆ
1
เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ เขาก็แสดงฝีมืออันยิ่งยงปราบนักมวยรุ่นเก่า และก็เอาชนะได้อย่างสบาย จนนักวิจารณ์คาดหมายกันว่า สีบัวแดงจะต้องเป็นนักมวยชั้นนำอีกคนหนึ่ง หลังจากได้โชว์ฝีมือให้เห็นเพียงไม่กี่ครั้ง
สมัยนั้นเวทีราชดำเนินมีนโยบาย สร้างนักมวยเอก ๆ ขึ้นมาด้วยวิธีจัดเป็นมวยรอบแล้วคัดเลือกนักมวยหน้าใหม่ฝีมือดีมาชิงเสื้อสมารถ และส่วนมากนิยมตั้งชื่อมวยรอบประเภทสิงห์สาราสัตว์เช่น “4 เสือลายพาดกลอน” “6 สมิงเอก” “6 ราชสีห์” “6 เสือดำ” “10 เสือโคร่ง” และในที่สุดก็ตั้งมวยรอบขึ้นมาใหม่อีกรุ่นหนึ่ง คือรุ่น “10 เสือเหลือง”
สีบัวแดง เลือดอุบล ก็ถูกคัดเลือกให้เข้ารอบนี้ด้วย และก็เป็นตัวเก็งว่าจะได้ชิงชนะเลิศรุ่นนี้ แม้ว่านักมวยในรอบอีก 9 คน จะมีฝีมืออยู่ในขั้นยิ่งยงเช่นเดียวกันก็ตาม
เสือร้ายจากลุ่มน้ำมูลใต้ แสดงให้แฟนมวยได้เห็นถึงเชิงชกอันสุนทรของเขา ไม่ว่าจะเป็นศอก หรือเข่า หรือเท้า หรือหมัด เขาใช้ได้คล่องแคล่วและหนักหน่วง จึงสามารถผ่านคู่ต่อสู้ในรอบไปได้อย่างน่าดู และทำคะแนนนำไปจนถึงรอบสุดท้าย ก็ได้ขึ้นชิงชนะเลิศ และผลก็ปรากฏว่าสีบัวแดงเป็นผู้มีชัยอย่างงดงามได้ครองเสื้อสามารถรุ่น 10 เสือเหลือง เช่นเดียวกับ สมเดช ยนตรกิจ ที่ได้ครองรุ่น 6 สิงห์ทองมาแล้ว
เมื่อได้เป็นนักมวยชั้นเสื้อสามารถ คู่ต่อสู้ก็ต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ในสมัยนั้นยังไม่มีการชิงแชมป์เปี้ยนกันเป็นทางการ บรรดาผู้ครองเสื้อสามารถถ้าอยู่ในรุ่นเดียวกันก็มักจะถูกจัดให้พบกันเพื่อพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ เช่นรุ่น “4 เสื้อสามารถ” เป็นต้น
สีบัวแดงได้ทำศึกใหญ่กับนักมวยชั้นดีในสมัยนั้น น้ำหนักตัวของเขาเพิ่มขึ้นไปอยู่ในรุ่นไลท์เวท และทำท่าจะพุ่งขึ้นไปถึงเวลเตอร์เวท เรือนร่างที่ได้รับการฝึกซ้อมอย่างสมบูรณ์ ก็เพิ่มความพ่วงพีกำยำยิ่งขึ้น
เขากลายเป็นดาราหน้าปกในหนังสือพิมพ์ประเภทข่าวสารการมวย และทำท่าจะเป็นแม่เหล็กใหญ่อีกคนหนึ่ง ซึ่งคู่ต่อสู้ในรุ่นเดียวกันเกิดคร้ามเกรง ไม่อยากขึ้นไปต่อกรด้วย
ดวงดาวประจำชีวิตของสีบัวแดง ทำท่าว่าจะเรืองรองผ่องอำไพอย่างเหลือเกิน เมื่อเขาเพิ่มสถิติชัยชนะให้แก่ตัวเองอีกหลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ได้รับการต่อต่อให้ไปชกในฐานะมวยคู่เอกในงานประจำปีของเวทีชลบุรี โดยพบกับดาราประจำถิ่น ซึ่งกำลังมีชื่อเสียงเกริกไกรอยู่แถบหัวเมืองชายทะเลตะวันออก
คู่ต่อสู้ผู้นั้นคือ ศักดิ์ชัย นาคพยัคฆ์ เจ้าของเสื้อสามารถรุ่น 10 สมิงพราย ซึ่งเปรียบเทียบถึงชั้นเชิงฝีมือและส่วนสัดของร่างกายแล้วสีบัวแดงเป็นรองอยู่หลายประตู
แต่เมื่อเห็นว่า เป็นการชกที่มีรายได้ค่อนข้างงดงาม และตนเองก็หาคู่ยากอยู่แล้ว สีบัวแดงจึงตอบตกลงไปพบกับศักดิ์ชัยตามกำหนด
ท่ามกลางแฟนชาวน้ำเค็มที่หลั่งไหลไปเชียร์ “จอมสมิงพราย” ศักดิ์ชัย นาคพยัคฆ์ อย่างแน่นขนัด
สีบัวแดง เลือดอุบล ย่างเข้าไปเผชิญหน้ากับคู่ปรปักษ์ด้วยลักษณะอันสงบ และสำรวมตามแบบฉบับของเขา กิริยาไม่บอกถึงความหวั่นพรั่นพรึงเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเริ่มต้นการต่อสู้แม้ว่าจะเสียเปรียบที่ต่ำเตี้ยกว่า เขาเป็นฝ่ายบุกเข้าหา และนำด้วยการเตะกราดพร้อมกับทะลวงด้วยหมัดอย่างดุเดือด
จอมสมิงพรายถอยออกไปในระยะห่าง แล้วอาศัยช่วงยาวให้เป็นประโยชน์ด้วยการเตะกระหน่ำไม่ยอมให้สีบัวแดงเข้าใกล้ ทั้งคู่จึงดวลแข้งกันอย่างรุนแรง สีบัวแดงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะช่วงที่สั้นกว่าทำให้พะวงต่อการป้องกันแข้งของศักดิ์ชัยที่ประเดเข้าใส่เป็นพายุบุแคม
ยกหนึ่ง ผ่านไปแล้ว... ขึ้นยกที่สองสถานการณ์ที่ผ่านยกนี้ไปเขาก็เห็นว่าถ้ายังขืนรีรออยู่ในระยะห่าง ก็จะเป็นเป้าการเตะของคู่ต่อสู้มากขึ้น จึงตัดสินใจในยกที่สาม โดยจะบุกทะลวงให้รู้ผลแพ้ชนะกันให้เด็ดขาดไปเลย
สีบัวแดงปราดเข้าไป ขณะที่ศักดิ์ชัยดีดแข้งฟาดเข้ามาที่ต้นขาซ้ายของเขาอย่างจัง
มันเจ็บแปลบเข้าไปถึงหัวใจ พญาเสือเหลืองทรุดลงไปกองอยู่กับพื้นพยายามจะลุกขึ้นมา แต่ความปวดระบมแสนสาหัสทำให้เขาต้องนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งกรรมการนับสิบไป
สีบัวแดงถูกประคองลงมาจากเวที เขาปวดที่ขาแต่ก็พยายามจะโขยกเขยกกลับไปเข้าห้องพัก และคิดว่าเมื่อได้นอนพักสักคืนก็คงจะหาย
แต่วันรุ่งขึ้นมันกลับปวดยิ่งขึ้น และปวดจนเขาลุกเดินแทบไม่ไหว หัวหน้าคณะพาไปให้แพทย์รักษาอาการก็ยังไม่ทุเลา
ยอดมวยเมืองอุบลต้องนอนซมอยู่กับที่และก็ปรากฏว่า ขาซ้ายของเขายังใช้การไม่ได้ ไม่แต่เท่านั้น มันยังลีบเล็กลงไปอีก...
เขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว และการต่อสู้กับศักดิ์ชัยก็เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขา
สีบัวแดง เลือดอุบล จึงกลับคืนสู่ถิ่นกำเนิดในฐานะผู้พิการ เหมือนกับขุนศึกผู้กลับจากสนามรบ โดยมีตำแหน่งผู้ชนะเลิศรุ่นเสือเหลืองแทนเหรียญกล้าหาญ และแฟนมวยชาวอุบลฯ ก็ยังภูมิใจในตัวเขาอยู่จนกระทั่งบัดนี้ !
#มวย #มวยไทย #ประวัตินักมวย
กีฬา
1 บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สังเวียนชีวิต -- เดอะริง
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย