Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
•
ติดตาม
13 พ.ย. 2021 เวลา 13:19 • หนังสือ
=======================
“สัปดาห์ละบทสองบท” || วันเสาร์
=======================
🧸• อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
✍🏻• ซะซะกิ ฟุมิโอะ เขียน || นพัฒน์ หัทยานันท์ แปล
🔖• คำนำสำนักพิมพ์
🔖• คำนำผู้เขียน 📝• บันทึกใจความแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป พร้อม Note ของ อิคิ ∙ 生き ที่จดบันทึกความคิดที่ได้จากการอ่าน
============ คำนำสำนักพิมพ์ ============
หลายคนเลือกทำงานหนักเพื่อเก็บเงินซื้อข้าวของราคาแพงเพราะคิดว่าจะมีความสุข แต่เมื่อถึงวันที่ได้ของชิ้นนั้นมาครอบครองแล้ว ความสุขนั้นกลับไม่มากเท่าที่คิดฝันไว้. . .เพราะอะไรกันนะ?
บางคนพยายามใช้ของแพงเพื่อยกระดับตัวเองและเชื่อว่าจะทำให้ผู้อื่นยอมรับ แต่กลับพบว่าตัวเองไม่มีความสุขกับมันจริง ๆ เลยสักที?
บางคนเติมเต็มชีวิตประจำวันที่น่าเบื่อด้วยการซื้อของมาปรนเปรอตัวเอง แต่กลับลงท้ายด้วยการต้องเสียเวลาและใช้เงินทองไปกับการดูแลรักษาข้าวของเหล่านั้น?
[ อิคิ ∙ 生き : สรุปเราเป็นเจ้าของสิ่งของ หรือ สิ่งของเป็นเจ้าของเรากันแน่เนี่ย 🤔 ]
นี่เป็นเพียงตัวอย่างความรู้สึกของผู้คนที่ตามหาความสุขโดยที่ไม่รู้เลยว่า “ความสุข” นั้นหาได้ง่าย เพียงแค่ “ทิ้งข้าวของที่ไม่สำคัญ” ไปซะ
ฟังเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ลองลงมือทิ้งข้าวของรอบ ๆ ตัวดูสิ แล้วจะรู้ว่าเราทำใจยากและใช้เวลาอาลัยอาวรณ์มันมากแค่ไหน
[ อิคิ ∙ 生き พูดได้คำเดียวค่ะว่า “จริง!!!” 😆 ]
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่บอกเล่าประสบการณ์ตรงของคุณซะซะกิ ฟุมิโอะ ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “มินิมัลลิสต์” คนหนึ่งที่เคยวิ่งไล่หาความสุขผ่านสิ่งของ และทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพียงแค่เขาทิ้งข้าวของที่ไม่สำคัญเพื่อให้ได้พบกับสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับตัวเองจริง ๆ
“มินิมัลลิสต์” หมายถึง บุคคลผู้เรียบง่าย มีข้าวของเท่าที่จำเป็น และมีความสุขในชีวิต
สำนักพิมพ์ STEP
มีนาคม 2560
========= คำนำผู้เขียน
=========
“พอข้าวของน้อยลง ชีวิตก็มีความสุขมากขึ้น”
“ผมจึงได้สะสมความสุขไว้เท่าที่จะทำได้ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“ถ้าความรู้สึกของคนเป็นสิ่งที่ซื้อได้ก็คงซื้อความสุขได้ด้วยเช่นกัน”
คุณซะซะกิ ฟุมิโอะ เป็นชายโสด อายุ 35 ปี ทำงานเป็นบรรณาธิการที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในจังหวัดโตเกียว ปัจจุบันย้ายบ้านเช่ามาอยู่ใกล้สถานนีรถไฟ มีขนาดเล็กลง และค่าเช่าถูกลง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณซะซะกิ คงรู้สึกละอาย ที่จะบอกคนอื่นว่าเขาย้ายมาอยู่บ้านหลังที่เล็กลง และ ค่าเช่าถูกมากขึ้น
ย่ิงไปกว่านั้นหลาย ๆ ครั้งเขาก็ยอมที่จะตีพิมพ์หนังสือเพื่อความอยู่รอด แทนที่จะทำหนังสือที่เขาเห็นว่ามีคุณค่า
แต่ค่านิยมของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากการที่คุณซะซะกิทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ไป
ข้อดีที่คุณซะซะกิได้เห็นผ่านการใช้ชีวิตแบบมินิมัลลิสต์ คือ ห้องที่อยู่ดูโล่งสบายตา ทำความสะอาดง่าย จึงทำให้เห็นคุณค่าในข้าวของมาขึ้นด้วย
เมื่อก่อนคุณซะซะกิป็นคนที่มีข้าวของเยอะเต็มไปหมด และมีแต่ของที่ไม่สามารถตัดใจทิ้งได้
เขารู้สึกสมเพชตัวเองที่เมื่อก่อนเป็นคนที่มีข้าวของมากมายเกินจำเป็นและมักนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่เสมอ อีกทั้ง วัน ๆ ก็สับสนว่าไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง ใช้เวลาอย่างสูญเปล่า
ในห้องของเขามีข้าวของเกี่ยวกับงานอดิเรกที่เขายกเลิกกลางคันวางเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์สำหรับฝึกหัด หรือกล้องฟิล์มที่ไม่เคยแม้แต่จะใส่ฟิล์ม
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเอาแต่เปรียบเทียบตนเองกันคนอื่น เช่น คุณซะซะกิเปรียบเทียบตนเองกับเพื่อนของเขา ซึ่งอาศัยอยู่ในแมนชั่นหรู่ มีครอบครัวอบอุ่น ในขณะที่ตัวเขาอยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ แถมยังโสดอีกด้วย คำถามที่เกิดในใจคุณซะซะกิ คือ อะไรที่กั้นกลางระหว่างเขาและเพื่อน ทั้ง ๆ ที่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเขาและเพื่อนแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
คุณซะซะกิ พยายามซ่อนความรู้สึกต่ำต้อยและความอิจฉาเหล่านั้นเอาไว้อย่างแนบเนียน พร้อมแสร้งทำว่าไม่รู้สึกอะไร เขากล่าวว่าเมื่อก่อนเขาเป็นเพียงแค่มนุษย์ห่วย ๆ ที่สะสมของไว้มากมาย
หลังจากที่เขาลดจำนวนข้าวของให้น้อยลง ทุก ๆ วันก็เริ่มมีความสุขมากขึ้น และเริ่มเข้าใจทีละนิดว่า สิ่งที่เรียกว่าความสุขนั้นคืออะไร
สำหรับคนที่เป็นเหมือนคุณซะซะกิ หรือ คนที่เอาแต่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่ตลอด หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีความสุข คุณซะซะกิ แนะนำให้ลองนำตัวเองออกห่างจากข้าวของที่มีอยู่ดู แล้วเราจะสัมผัสได้ว่าข้าวของที่เรามีอยู่ให้ความสุขแก่พวกเราได้แค่เพียงหยิบมือเท่านั้น
ดังนั้นการลดจำนวนข้าวของที่มากจนเกินจำเป็นคือการได้ทบทวนถึงความสุขอีกครั้ง
ซะซะกิ ฟุมิโอะ
[ อิคิ ∙ 生き’s Memo ]
หลายคนอาจมีคำถามว่า “แค่ทิ้งข้าวของไป” มันจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนขนาดนั้นเลยหรือ
จากประสบการณ์ของ อิคิ ∙ 生き บอกได้เลยค่ะว่าจริง
ชีวิตที่ถูกขับเคลื่อน ด้วยสิ่งของที่เราเลือกแล้วว่าสำคัญกับชีวิต มันเป็นชีวิตที่มีความสุขจริง ๆ นะคะ และ แตกต่างจากการใช้ชีวิตด้วยการถูกกระตุ้นให้ซื้อมากค่ะ
อิคิ ∙ 生き บอกได้เลยค่ะว่าการอนุญาตให้เฉพาะสิ่งของที่มีคุณค่าหรือจำเป็นจริง ๆ เข้ามาในชีวิต นอกจากเราจะเห็นคุณค่าทุกสิ่งรอบกายมากขึ้นแล้ว เรายังรับรู้ได้ถึงคุณค่าของตัวเองอีกด้วยค่ะ เราจะเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น อีกทั้งได้ใช้เวลาดีขึ้น Focus ในสิ่งที่ทำมากขึ้น เพราะเราได้เวลาคืนมาจากการที่เราจะต้องเฝ้าใฝ่ฝันที่จะซื้อของสิ่งนั้นสิ่งนี้นั่นเอง
เมื่อก่อน อิคิ ∙ 生き ก็เป็นแบบคุณซะซะกิค่ะ และปัจจุบันก็กำลังพยายามปลดเปลื้องตัวเองออกจากสิ่งของอยู่ ต้องบอกว่า อิคิ ∙ 生き เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ แต่แค่เริ่มต้นความรู้สึกที่มีต่อตัวเองและทัศนคติต่อการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไปมากแล้วค่ะ
ผลพลอยได้ก็คือ เราจะเหลือเงินมากขึ้นแบบไม่น่าเชื่อเลยค่ะ แบบที่เราต้องถามตัวเองว่า “เมื่อก่อนเราใช้เงินมากมายขนาดนั้นไปได้อย่างไร”
สมัยก่อน อิคิ ∙ 生き เป็นคนที่เสพติดการใช้จ่ายค่ะ แม้จะทำหลาย ๆ วิธีเพื่อที่จะแก้นิสัยนี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนเสียที แต่ COVID-19 ทำให้ อิคิ ∙ 生き ไม่ได้ไปห้างสรรพสินค้าเป็นเวลาหลายเดือน ถือว่าเป็นช่วง [ Department Store Retreat ] เลยก็ว่าได้ค่ะ ช่วงเวลานี้เปิดโอกาสให้เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น
จากประสบการณ์ของ อิคิ ∙ 生き ไม่ว่าเราจะเรียนรู้เรื่องการเงินมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าหากไม่มีจิตสำนึกด้านการใช้จ่าย เราจะไม่สามารถสร้างวินัยด้านการเงินได้อย่างยั่งยืน
นอกจากการไม่ไปห้างสรรพสินค้าจะช่วยให้มีวินัยด้านการใช้จ่ายดีขึ้นแล้ว แต่การอ่านหนังสือประเภทที่จูงใจให้เราละทิ้งสิ่งของ ก็เป็นอีกกิจกรรมที่สร้างจิตสำนึกที่ดีมาก ๆ ค่ะ
หลัง ๆ อิคิ ∙ 生き มักจะอ่านหนังสือประเภทนี้เป็นระยะเพื่อที่จะตอกย้ำและสร้างจิตสำนึกด้านการใช้จ่ายให้ติดแน่นทนนาน และหนังสือที่ อิคิ ∙ 生き เคยอ่านมีดังต่อไปนี้ค่ะ . . .
• ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว
• Your Money or Your Life
• Stuffocation
• 1 ปีที่พวกเราจะไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย
และนี่คือผลผลิตจากการอ่านหนังสือเหล่านี้ค่ะ
https://www.blockdit.com/series/601735c3d4623c0bc2eeb4af
หากเพื่อน ๆ ท่านใดที่สนใจก็สามารถติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับการเงินของ อิคิ ∙ 生きและ นักวางแผนการเงินท่านอื่น ๆ จากเว็บไซต์ของทีม Avenger Planner [
http://www.avenger-planner.com/blog/
] ได้นะคะ อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าก็จะประโยชน์กับเพื่อน ๆ เช่นกันค่ะ
ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเป็นที่มาของการที่ อิคิ ∙ 生き อาจจะชวนเพื่อน ๆ มาอ่านหนังสือ “อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป” ด้วยกันค่ะ เรามาค่อย ๆ ละทิ้งสิ่งของนอกกาย และสัมผัสคุณค่าภายในตัวเรากันนะคะ
ปัจจุบันนี้ อิคิ ∙ 生き ค่อย ๆ พิจารณาทิ้งสิ่งของเกินจำเป็นออกไปทีละชิ้นสองชิ้น อย่างเมื่อวานก็เพิ่งขาย Macbook 13” ปี 2018 และ iPad 12.9” ปี 2018 ที่ไม่ได้ใช้มานมนาม เพราะรู้สึกเสียดายที่ต้องปล่อยไป เนื่องจากจิตใจมัวแต่คิดว่าเก็บไว้ก่อนเผื่อได้ใช้
ในที่สุดเมื่อตัดสินใจปล่อยไป สิ่งที่ได้กลับมาอย่างเป็นรูปธรรมคือเงินมูลค่า 22,500 บาทค่ะ
😆😆😆 อ่านถึงตรงนี้แล้วผิดคาดใช่ไหมคะ เชื่อว่าหลายท่านอาจคิดว่า อิคิ ∙ 生き จะบอกว่าได้คุณค่าทางใจอะไรซักอย่าง จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ เงินนั่นแหละที่จับต้องได้มากที่สุด
ตอนนี้อิคิ ∙ 生き กำลังคิดว่าห้องนอนของ อิคิ ∙ 生き ที่บ้านคุณพ่อกำลังเป็นโกดังเก็บของเก่าที่ไม่มีคุณค่าอันใด เดี๋ยวต้องการโอกาสไปสะสางเช่นเดียวกันค่ะ เดี๋ยวจะไปดูว่าของอะไรในห้องนี้จะแลกมาเป็นเงินได้บ้าง
ตอนนี้ อิคิ ∙ 生き กำลังเขียนไปขำตัวเองไปอยู่ค่ะ ว่าทุกวันนี้เราได้กลายมาเป็นแบบนี้แล้วหรือเนี่ย 😆
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き ขอลาไปก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่กับ “Don't Sweat The Small Stuff” ในวันพรุ่งนี้กันนะคะ สวัสดีค่ะ 🙏🏻😊
#สัปดาห์ละบทสองบท #อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สัปดาห์ละ. . .บท 2 บท
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย