Social jetlag เมื่อการนอนไม่มีการใช้หนี้เหมือนบัตรเครดิต
นอนตื่นเช้าในวันที่ต้องทำงานและนอนตื่นสายในวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างเต็มอิ่ม เพื่อชดเชย คุณเคยมีความคิดแบบนี้หรือไม่?
หากคำตอบคือ ใช่! นั่นอาจจะเสี่ยงต่อการมีอาการ Social Jetlag ได้ ดังนั้นปัญหานี้จึงมักพบได้มากในกลุ่มวัยรุ่น เพราะจากการสำรวจพบว่า 88% ของกลุ่มวัยรุ่นจะนอนดึกเมื่อวันต่อไปไม่มีเรียนหรือวันหยุดนั่นเอง
ซึ่งอีกประเด็นอาจเกิดจากแรงกดดันทางวิชาการที่รุนแรง จำนวนงานที่เพิ่มขึ้นซึ่งจำเป็นต้องได้รับมาตรฐานที่สูงขึ้น และการใช้เวลากับการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ดนตรีอย่างไม่สมส่วน ส่วนหนึ่งเพื่อบรรเทาความเครียดในชีวิตนักศึกษา เวลานอนที่สั้นลงเช่นนี้ทำให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ตามมามากมาย
ตัวอย่างปัญหาที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นคือช่วงปิดเทอม เพราะการเข้านอนดึกตื่นสายอาจจะไม่เป็นปัญหา แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นต้องรีบเข้านอนและตื่นเช้าไปโรงเรียนในวันแรกของการเปิดเทอม มีความเสี่ยงที่อาการของ Social Jetlag จะมีผลต่อร่างกายอย่างมาก และคนที่นอนดึกตื่นสายมักมีความเสี่ยงมากกว่าคนนอนเร็วตื่นเช้าอีกด้วย
Social Jetlag เป็นชื่อที่กำหนดตามภาวะที่รูปแบบการนอนหลับแตกต่างกันอย่างมากระหว่างวันทำงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจะชดเชยการอดนอนในวันธรรมดาด้วยการนอนเยอะขึ้นในวันหยุด ซึ่งอาจสร้างความสับสนอย่างรุนแรงและขัดขวางจังหวะการเต้นของหัวใจตามธรรมชาติของร่างกาย โดยมีผลการเผาผลาญที่เป็นอันตราย ผลกระทบดังกล่าวนี้จะรวมถึงโรคอ้วนและโรคเบาหวานซึ่งพบได้บ่อยในบุคคลดังกล่าว
มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการอดนอนหรือจังหวะการนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอกับผลการเรียน ผลการศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมการนอนของคน 85,000 คนในสหราชอาณาจักร พบว่าวงจรการนอนหลับมีแนวโน้มที่จะรายงานภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความรู้สึกดีมีแนวโน้มลดลงทั้งนี้เป็นเพราะการนอนหลับ REM ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นประเภทของการนอนหลับพักผ่อนและเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้อย่างถาวร
โดยพื้นฐานแล้ว มีสองปัจจัยที่กำหนดเวลาที่เราตื่นหรือหลับในเวลาใดเวลาหนึ่ง อย่างแรกคือเราตื่นมานานแค่ไหนและยิ่งเราตื่นนานเท่าไหร่เราก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยและหลับง่ายขึ้น ในขณะที่มีอีกพลังหนึ่งที่ทำให้เราตื่นระหว่างวันซึ่งต่อต้านพลังง่วงนอนหรือหนี้การนอนที่ก่อตัวขึ้นเรียกว่านาฬิการ่างกายของเราหรือจังหวะชีวิต (Circadian Rhythms)
Circadian Rhythms ทำหน้าที่ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนแต่ละช่วงเวลา การปรับอุณหภูมิร่างกาย การเต้นของหัวใจและอารมณ์ต่างๆ ทำงานร่วมกับประสาทส่วนที่รับแสงจากดวงอาทิตย์ จดจำการขึ้นลงของแสง หากไม่มีความสม่ำเสมอจะทำให้ระบบรวนเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีการทำงานที่เป็นรูปแบบเฉพาะ
อาการที่พบจากผลกระทบของ Social Jetlag มีดังนี้
- นอนไม่หลับแต่ตื่นเช้าหรือง่วงนอนมากเกินไป
- ความเหนื่อยล้าสะสมในเวลากลางวัน
- มีปัญหาในการจดจ่อหรือทำงานในระดับปกติ หรือ สมาธิแย่ลง
- ปัญหากระเพาะอาหาร (ท้องผูกหรือท้องเสีย)
- ความเสี่ยงจากการเผาผลาญ ทำให้เกิดโรคอ้วนได้
ข่าวดีคือมีวิธีแก้ไขได้ยังไม่สายเกินไป เนิร์ดจึงเอา Tips เล็กๆมาฝากทุกคนด้วยครับ
- นอนและตื่นเวลาเดิมทุกวันไม่ว่าวันทำงานหรือวันหยุด
- เข้านอนให้เร็วขึ้น อย่างน้อย 30 นาทีจากปกติ
- ห้องนอนของคุณควรเอื้อต่อการนอนหลับ นั่นคือ เงียบสงบ อุณหภูมิที่สบายตัว
- ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 30-60 นาทีก่อนนอนและทำอะไรที่ผ่อนคลายที่จะช่วยให้สมองพร้อมสำหรับการนอนหลับ
ผลประโยชน์สูงสุดสำหรับสุขภาพ ควรจะเข้านอนเร็วขึ้นในวันธรรมดา (ควรเร็วกว่า 23.00 น.) และเพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในวันหยุดสุดสัปดาห์
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์และสามารถโน้มน้าวใจให้หลายคนเห็นความสำคัญของการนอนมากขึ้นนะครับ 🙏🏻🥰
ที่สำคัญ!! คืนนี้อย่านอนดึกกันน้าา 🤣
- 17
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
