5 ม.ค. 2022 เวลา 05:32 • ครอบครัว & เด็ก
#เจ้าปันสตอรี่ ตอนที่๙
"มาตกลงกันก่อน...แล้ว..สร้างความสุขระหว่างเดินทาง"
เรื่องที่จะเล่าครั้งนี้ต้องท้าวความย้อนหลังไป ๒ เรื่องครับ
เรื่องแรกคือ หลังจากที่ผมได้ไอเดียจากการคุยกับจิตใต้สำนึก แล้วมาปรับวิธีการกล่าวราตรีสวัสดิ์กับลูก เห็นว่าการพูดด้วยประโยคที่ตรงกับที่ต้องการด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่เหมาะสม มันมีพลังอย่างไร
เรื่องที่๒ เกิดขึ้นในวันหนึ่งหลังจากกลับมาจากทำงาน มาทราบจากที่บ้านว่าต้องไปงานแต่งงานของคนที่พ่อแม่รู้จัก(แต่ผมไม่สนิทเท่าไหร่) ในใจไม่อยากไปแต่รู้ว่าต้องไป จึงแสดงออกมาไม่ค่อยดีจนภรรยาทักว่า "ไม่รู้นะ!...ถึงแม้จะไม่อยากไป แต่ถ้าหมวยต้องไป หมวยก็จะไปอย่างมีความสุข.."
ผมได้ยินแล้ว"อึ้ง" เหมือนโดนสาดน้ำเย็นๆใส่ "ตื่น"ทันที รีบปรับความคิด ปรับท่าที แป๊บเดียวก็กลายเป็นมีความสุขขึ้นมา ตลอดตั้งแต่ออกจากบ้าน อยู่ในงาน แถมกลับบ้านมาก็ยังมีความสุขอยู่เลย
เข้าใจแล้วว่า"ทัศนคติ"พร้อมกับ"การตกลงใจ"ที่ดี มันมีพลังขนาดไหน
ปัจจุบันก็ยังใช้วิธีนี้อยู่ครับ! พร้อมทั้งยกระดับความคิดและการแสดงออกขึ้นอีกด้วย ต้องขอบคุณภรรยาที่"กระตุก"ในวันนั้น 😘
จึงคิดนำวิธีการนี้มาปลูกฝังให้เจ้าปัน(และ"ต้นว่าน"หลานชาย)บ้าง ความจริงก็ไม่ใช่เพื่อพวกเค้าซะทีเดียว แต่เพื่อตัวเองมากกว่าครับ คิดเอาว่าถ้าตกลงกันแต่เนิ่นๆจะได้มีปัญหาที่จะต้องแก้ไขน้อยลง ถ้ามีขึ้นมาก็จะแก้ไขและคุยกันง่าย
คนขี้เกียจก็งี้! ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากเจองานหนัก 🙄
เลยอาศัยการไปเดินห้างสรรพสินค้าแทบทุกสุดสัปดาห์ และการไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกันเป็นที่ฝึกฝน
ก่อนออกจากบ้านก็จะเรียกทุกคนมาคุยกันคร่าวๆ เน้นน้ำเสียงสนุกๆ คึกคัก ว่าเราจะไปทำอะไรกันบ้าง แบบไหน พยายามนึกให้ได้เยอะที่สุดว่าสถานการณ์จะเป็นแนวไหน จะได้ดักเอาไว้ให้หมด (ถึงไม่หมด! ก็เหลือน้อยมากล่ะน่า!)
พอเด็กๆโตขึ้นมาอีกหน่อยก็เพิ่มการกำหนดบทบาท หน้าที่ไปด้วย เช่นใครจะกดลิฟต์ ใครจะขอบคุณ จะต้องช่วยผมถือของ สารพัดที่จะทำให้ตัวผมสบาย และง่ายต่อการดูแล 😌
ขึ้นรถกันพร้อมแล้ว! ก่อนออกเดินทางก็ต้องทำเสียงให้คึกคัก แล้วก็ชวนคุยไปตลอดทาง
ผมไม่ชอบให้เด็กหลับในรถ เพราะจะเสียโอกาสได้เห็นข้างทางที่มีเรื่องราวต่างๆที่เราสามารถหยิบเอามาคุยได้มากมาย ทั้งเพื่อความบันเทิงและเป็นข้อมูลชีวิต
บางทีก็จะเตรียมเรื่องไปเล่าในรถ เรื่องที่พบเจอมาบ้าง เรื่องตลกบ้าง เน้นให้้สนุกไว้ก่อน ยังจำความรู้สึกบนรถได้จนถึงเดี๋ยวนี้ว่าเรามีความสุขกันขนาดไหน
ที่สุดยอดเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ พอตอนที่เค้าโตขึ้นมาอีกหน่อย(น่าจะช่วงเข้าเรียนอนุบาลไปแล้ว) พวกเด็กๆก็จะมีเรื่องราวมาเล่าบ้าง ผมจึงถอยไปทำหน้าที่"ลูกคู่"แทน คอยถาม คอยแหย่ คอยแซว หลักๆก็เพื่อให้เค้าเล่าให้รู้เรื่อง
คนเคยคุยกับเด็กจะเข้าใจดี ว่าถ้าปล่อยให้พูดไปเอง ไปเรื่อย บางทีเล่าจบแล้วยังฟังไม่รู้เรื่องเลย!
พอเค้าได้เล่าบ่อยขึ้น เริ่มกล้าถึงขนาดเอาเรื่องตลกมาเล่า ได้ยินแบบนี้ก็เลยนึกขึ้นว่า เฮ้ย! นี่มันกำลังเข้าสู่การเล่าเรื่องขั้นสูงแล้วนี่หว่า! ใครเล่าเรื่องตลกได้ดีแสดงว่าเข้าใจเรื่อง ปกปิดและเปิดเผยข้อมูลที่เป็นแกนเรื่องเป็น และรู้จักจังหวะ ผู้ใหญ่หลายๆคนยังไม่มีความสามารถด้านนี้ ตกม้าตายให้้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
อย่างนี้ดีเลย! จะได้ถือโอกาสขัดเกลาให้ เช่น "ถ้าเมื่อกี้หยุดตรงนั้นนิด..แล้วค่อยพูดต่อ ก็จะตลกขึ้นนะ" หรือ "คำนี้..ถ้าใช้คำนี้..หรือพูดแบบนี้แทน ก็จะตลกกว่านี้นะ" เป็นต้น บางทีก็เอามาเล่าให้ฟังใหม่ไปเลย เล่าใหม่ก็ขำกันใหม่ เด็กๆนี่น่ารัก! เรื่องเดิมเอามาเล่าบ่อยๆก็ยังขำ ยังสนุกได้ตลอด
กลายเป็นช่วงเวลาฝึกพูดของเด็กไปโดยปริยาย ใครได้เคยคุยกับลูกสาวและหลานชายผมคงนึกออก ว่าพวกเค้ามีมุก จังหวะ และลีลากันขนาดไหน 😍
พอถึงที่หมาย ก่อนลงจากรถก็จะทบทวนตอกย้ำข้อตกลงด้วยน้ำเสียงสนุก คึกคักกันอีกครั้ง
ทำให้การไปไหนมาไหนด้วยกันของพวกเราจะมีแต่ความสุข กลมกลืน กลมเกลียว และประทับใจ ชวนไปกี่ครั้งก็อยากไป แม้จะไม่ได้ของอะไรติดมือกลับมาก็ตาม
ถามตอนถึงบ้านว่า "อาทิตย์หน้า(คราวหน้า) ไปกันอีกมั้ย?" เสียงแจ๋วๆตอบกลับมาเสมอว่า "ไป้!"
ผมอาจจะโชคดีที่สมัยนั้นทีวีในรถยังไม่แพร่หลาย มือถือยังไม่มี จึงทำให้เด็กๆไม่พุ่งความสนใจไปอยู่กับในรถ กับตัวเอง
แต่พอนึกอีกที! ต่อให้เป็นยุคนี้ก็ตาม ผมเชื่อว่าผมก็สามารถทำให้เด็กๆหันมาสนุกด้วยกันในระหว่างเดินทางได้อยู่ดี ของพวกนั้นมัน"อุปกรณ์เสริม" ผมต่างหากที่เป็น"อุปกรณ์หลัก"
ผมไม่ให้คนอื่นที่ไหน ใครไม่รู้ มามีอิทธิพลต่อลูกหลานมากกว่าผมหรอก ผม"สนุก"และ"มีสีสัน"กว่าเยอะ!
ผมทำหน้าที่นี้เองได้อยู่แล้ว! ❤️
#คนโชคดี #ทำบุญ #mystyle #mysoul #ในระหว่างความคิดถึง #เจ้าปันสตอรี่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา