23 ก.พ. 2022 เวลา 04:11 • ครอบครัว & เด็ก
#เจ้าปันสตอรี่ ตอนที่๑๕
"แค้มป์ของครอบครัว"
หลังจากได้ยินแฟนของน้องสาว(ลูกพี่ลูกน้อง)พูดว่าครอบครัวของเค้ามีธุรกิจรีสอร์ทเล็กๆที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ทำให้ผมสนใจขึ้นมาทันที เพราะเป็นจังหวัดที่ไม่เคยไปและอยากไปมานานแล้ว ดีเลย!
ครั้นพอเค้าออกตัวว่า "เป็นรีสอร์ทเล็กๆ บ้านๆ ไม่ได้หรูหราอะไร แนวๆเอาไว้จัดรับน้องมหาวิทยาลัยนะครับ...." อ้าว! อย่างนี้ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่เลย ไอ้แบบนี้แหละที่ผมชอบและอยากให้ลูกได้สัมผัส เด็ก ๖-๗ ขวบ(วัยเรียนรู้และสนุกแบบง่ายๆ) เจออะไรแบบนี้ น่าจะได้อะไรดีๆเยอะ จัดไป!
ผมเลยรบกวนขอให้เค้าช่วยเตรียมมี่พักให้สำหรับ ๕วัน๔คืน วันธรรมดา (น่าจะเป็นวันอังคาร-เสาร์) ไม่เอาบังกะโลแต่ขอเป็นแค่ห้องจากเรือนแถว ๑ ห้อง โดยมีเงื่อนไขว่าให้เอาทีวีออกจากห้องด้วย ถ้าครอบครัวเราจะดูทีวี เราจะไปดูที่พื้นที่ส่วนกลางกันเอง
น้องเค้าบอก"ไม่มีปัญหา!" ดูสีหน้าแววตาแล้วเหมือนจะสนุกกับความต้องการของผมด้วย เอ๊ะ! หรือว่ามีอะไรแฝงอยู่? 😅
ผม ภรรยาและลูก ตื่นเต้นกันตั้งแต่รู้ตัวว่าจะไป เราจัดกระเป๋ากันด้วยความสนุก และเช่นเคย! เจ้าปันเองก็มีส่วนร่วมในการจัดข้าวจัดของเหมือนทุกๆครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้ผมแนะนำให้เค้าเอาหนังสือที่ชอบและอยากให้อ่านให้ฟังไปมากเป็นพิเศษ และไม่ลืมที่จะบอกให้เตรียมสมุดภาพระบายสี กระดาษ(ใช้แล้วด้านนึง)ปึกใหญ่ๆ สีสารพัดแบบ ดินสอกับยางลบไปด้วย
ไม่เอาของเล่นไปเลย แต่อนุญาตให้เอาตุ๊กตาตัวโปรดไปได้ ผมมีแผนกิจกรรมในหัวไว้แล้ว ไม่กลัวว่าเค้าจะเบื่อเลย อยู่กับผมถ้าเบื่อหรือไม่สนุก ก็แปลกแล้วล่ะ! 😄
แรกเห็นที่พักก็ยิ่งประทับใจกว่าที่คิดไว้ เก่าแต่ไม่โทรม ดูรกๆแต่สะอาด(ในสายตาคนที่โตมาในต่างจังหวัด) มีแค่คนสวนเฝ้าอยู่คนเดียว ไม่มีแขกกลุ่มอื่นเลย มีแต่เรา...!
ที่เด็ดสุดคือด้านหลังที่พักจะติดกับทะเลโดยมีแค่รั้วเตี้ยๆกั้นเท่านั้น แม้หาดทรายจะเล็กแต่บรรยากาศเป็นแบบที่ต้องการเป๊ะ คือ เงียบสงบ ส่วนตั๊วส่วนตัว แถมยังมีเพิงขายอาหารตามสั่งเล็กๆอยู่หนึ่งเจ้าไว้ฝากท้อง เพอร์เฟค!
ผมจึงเริ่มทำหน้าที่สร้างความตื่นเต้นทันที!
ตื่นเต้นในการเอาข้าวของมาจัดวางในห้อง บอกให้ลูกรู้ว่ามุมของเค้าอยู่ตรงไหน โดยผมเลือกมุมที่อยู่ใกล้ๆโคมไฟให้เค้า เพื่อให้เค้าสะดวกในการอ่าน และขีดเขียนในตอนกลางคืน เป็นมุมที่อยู่ใกล้คุณแม่เพื่อความอบอุ่นใจ และเอาข้าวของของเค้าไปจัดวางบริเวณนั้นอย่างครบครัน
จัดข้าววางของเสร็จแล้วก็ชวนกันเดินสำรวจบริเวณที่พัก รอบที่พักและแนวชายหาดทั้งหมด จากที่เห็นคาดว่าวันเสาร์-อาทิตย์คงมีคนท้องถิ่นมากันเยอะ แต่นี่วันธรรมดาเลยเงียบเป็นพิเศษ แจ๋ว!
ปฏิบัติการต่อไปคือ"ผูกมิตร"กับร้านค้าหนึ่งเดียวที่มีอยู่ ด้วยการสั่งอาหารมาทานและสอบถามโน่นนี่ ทั้งข้อมูลที่อยากรู้และเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆต่อกัน นี่ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ผมชอบทำต่อหน้าลูก ผมจะแอบสอนวิธีการพูดคุย สอบถาม ปฏิสัมพันธ์ ให้เค้าซึมซับไว้ มันเป็นเสน่ห์และมีประโยชน์ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น! 😉
หลังจาก"ผูกมิตร"แล้ว เราก็เลย"ผูกพัน"ต่อ ด้วยการขอให้สามีภรรยาเจ้าของร้านช่วยเปิดร้านเร็วขึ้นอีกนิดและปิดร้านช้าลงอีกหน่อย โดยมีเงื่อนไขว่าเราจะทานกับร้านเค้าวันละ ๒ มื้อ(เช้าและเย็น) ขอให้ช่วยจัดซื้ออาหารเช้าแบบบ้านๆจากตลาดมาให้ และเตรียมอาหารทะเลสดๆเล็กๆน้อยสำหรับมื้อเย็นด้วย ครอบครัวเราทานไม่เยอะครับ!
ส่วนมื้อกลางวันเราจะออกไปทานกันข้างนอกเอง เจ้าของร้านก็เต็มใจและดูมีความสุขกับข้อเสนอของเรา เค้าคงไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้ เลยสนุกไปด้วย!
กิจวัตรของเราส่วนใหญ่ก็คือ ตื่นนอนตอนเช้าผมจะพาลูกเดินเล่น แลปลา ดูนก ชมไม้ไปเรื่อย พูดคุย หยอก เล่าเรื่องราวของผมตอนเด็กๆพร้อมสอนเทคนิค และให้ความรู้ในการเอาตัวรอดหรือดูแลตัวเอง เช่น เวลาเดินผ่านพื้นที่รกๆจะต้องถือไม้แล้วแกว่ง ตีข้างทางให้เกิดเสียงอยู่เป็นระยะๆ เพื่อไล่งูหรือสัตว์มีพิษออกนอกเส้นทาง เอาไม้แหย่พื้นที่มองไม่เห็นเพื่อเช็คระดับพื้น เป็นต้น
ลูกก็ทำตามด้วยความสนุก ทำให้เวลาเราปล่อยให้เค้าเดินไปไหนมาไหนเอง เราก็รู้สึกสบายใจไปด้วย ยิ่งแอบเห็นเค้าทำตามที่บอกก็ยิ่งมีความสุข เค้ากำลังเรียนรู้และเติบโตขึ้นอีกรูปแบบนึง
ผมแค่บอกพร้อมรอยยิ้มว่า "ระวังตัวด้วยนะคะลูก!" 😘
ช่วงกลางวันเราจะขับรถตระเวณเที่ยวที่ต่างๆ แวะไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบ จะใช้เวลาแต่ละที่นานนิดนึง หลงบ้าง อ้อมบ้าง แต่สนุกดี! ทุกอย่างเป็นประสบการณ์และความรู้ครับ!
ที่ประทับใจและนึกถึงจนปัจจุบันคือ "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" (ตามรูป) ที่จัดการได้อย่างน่าทึ่ง เดินชมกันอย่างสนุกสนานและได้ความรู้ โดยมีผมเป็นวิทยากรจำเป็น สบายมากครับ! คนมันโตมากับป่าชายเลย แค่นี้ขนม! 😝
แม้แดดจะแรง อากาศร้อน แต่เราเตรียมเสบียงไปพร้อม แถมการบรรยายและการพาชมของผมจะแทรกด้วยความตื่นเต้นสนุกสนานตลอดเวลา ระยะทางเดินเกือบ ๒ กิโลเมตรจึงไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
มีกิจกรรมทำในตอนกลางวันมันก็เพลิดเพลินง่ายครับ แล้วกลางคืนล่ะ?
เย็นย่ำค่ำมืดแล้วสิ!
แม้ลูกจะเป็นเด็กที่เข้านอนแต่หัวค่ำก็ตาม แต่ด้วยความที่เราอยู่ต่างจังหวัดและในสถานที่แบบนี้ ช่วงค่ำจะมาเร็วและมืดมาก ถึงเราจะเดินชมโน่นนี่กันก่อน แต่ไม่นานก็ต้องเข้าที่พัก
ผมและภรรยาจะคอยชวนลูกคุย อ่านหนังสือให้ฟัง วาดรูป ทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน เพื่อให้ลูกเพลิน สลับกับอ่านหนังสือของตัวเองไปด้วย (ของผมจะเป็นพ็อกเกตบุ๊กกับแมกกาซีน ส่วนภรรยาจะเป็นหนังสือพิมพ์สารพัดฉบับ ที่เราเตรียมไป)
ผ่านไปคืนสองคืน! ผมเริ่มสังเกตเห็นว่าเค้าเรียกหาเราสองคนน้อยลง ก้มหน้าก้มตาอยู่ที่มุมของตัวเอง งึมงำๆ เปลี่ยนกิจกรรมที่ทำไปเรื่อยจนหลับ เราแอบดูแล้วยิ้ม เค้าก็หันมายิ้มให้บ้าง!
อยู่กันแบบอบอุ่นในมุมของตัวเอง พูดคุยกันเบาๆเป็นระยะๆ สงบและมีความสุขมาก ยังจำบรรยากาศได้ดี! ❤️
ในคืนสุดท้าย! ผมเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่าลูกอ่านหนังสือได้ดีขึ้นมาก ผิดกับวันแรกลิบลับ!
ไม่น่าเชื่อ! เวลาแค่ ๔-๕ วัน การอ่านของเค้าจะพัฒนาไปเร็วขนาดนี้ ผมดีใจสุดๆ
ก่อนมาหวังลึกๆแค่ให้ลูกได้ฝึกฝน เรียนรู้ความสุขแบบง่ายๆกับสิ่งรอบตัวและเรื่องทั่วๆไปเอง แต่นี่มันมากกว่านั้น!
การตัดสินใจมาแค้มป์ครอบครัวครั้งนี้ สำเร็จเกินความคาดหมาย ชื่นใจ! แถมส่งผลให้ตอนกลับมาเรียนหนังสือลูกดูมีความสุขขึ้นด้วย
เอาล่ะ! นอกจากลูกจะอยู่ง่าย กินง่าย สุขสนุกง่ายขึ้น ข้อแม้ชีวิตน้อยลง แถมยังเห็นว่าจะมีอะไรหลายอย่างที่จะพัฒนาได้อีก อย่างนี้ต้องจัดให้มีเรื่อยๆแน่นอน 😍
ผมคิดเอาเองว่า การอ่านออก อ่านได้ ก็เป็น"อิสรภาพ"ของชีวิตเหมือนกัน เหมือนเราได้หลุดออกจากพันธนาการอะไรบางอย่างเลยล่ะ จึงทำให้เห็นว่าเวลาลูกอ่านหนังสืออยู่ แววตา สีหน้า ดูเป็นประกายมาก 👁️😎
เป้าหมายที่อยากเห็นลูกเป็น "คนรักการอ่าน" ดูมีแววเป็นไปได้แล้วโว้ย!
แม้ต่อมาจะเจอว่าจริงๆแล้ว มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นก็ตาม 😅😂
#คนโชคดี #ทำบุญ #mystyle #mysoul #เจ้าปันสตอรี่ #ในระหว่างความคิดถึง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา