Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
DiffiCULTURE
•
ติดตาม
9 มี.ค. 2022 เวลา 03:36 • ครอบครัว & เด็ก
#เจ้าปันสตอรี่ ตอนที่๑๖
"เมื่อลูกไม่ทำการบ้าน...ติดต่อกันหลายวัน"
ช่วงที่เจ้าปันอยู่ประถม ๑-๓ นั้น ผมทำงานเลิกค่ำและกลับบ้านดึกบ่อยครั้ง (หลังจากสอนกอล์ฟเสร็จก็จะซ้อมต่อ รอให้รถบนถนนเหลือน้อยๆ แล้วค่อยกลับ) และยังไม่ได้ตื่นมาส่งลูกไปโรงเรียนในตอนเช้าอีก จึงทำให้การเอาใจใส่เรื่องเรียนของเค้าพลอยลดลงไปด้วย
แม้จะพยายามจะตรวจเช็คสมุดจดการบ้านและเปิดดูการบ้านว่าทำครบเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่สม่ำเสมอ ต้องไล่เซ็นชื่อรับรู้ย้อนหลังอยู่เรื่อยๆ ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีตลอด จนคิดว่าไม่มีอะไร!
พอประถม๓ (เทอม๒) คืนนึงผมกลับมาจากทำงาน ตั้งใจจะเซ็นสมุดจดการบ้านและตรวจว่าทำการบ้านครบหรือมีปัญหาตรงไหนบ้างหรือปล่าว?
ผมเจอว่าลูกจดการบ้านไม่ครบติดต่อกันมาได้ ๒-๓ วันแล้ว มีเครื่องหมาย"?"เขียนด้วยหมึกสีแดง แถมด้วยความเห็นของคุณครูอีกเล็กน้อย พอเปิดดูการบ้านก็เห็นว่าทำไม่ครบหลายวันแล้วเช่นกัน เฮ้ย! ลูกตรูเป็นแบบนี้ด้วยเหรอวะ! 😓
โมโหครับ! แต่ลึกๆก็สนุก ตื่นเต้น! ถึงเวลาจะได้ลงมือทำอะไรอีกแล้ว (พอไม่มีปัญหาก็ไม่รู้จะทำอะไร!)
ดูซิว่าถ้าจัดการเรื่องนี้เสร็จ มันจะพาไปสู่สิ่งไหนเรื่องอะไรต่ออีก น่าสนใจ!
ผมยังไม่ทำอะไรในคืนนั้นครับ! จะรอดูซัก ๒-๓ วันแล้วค่อยจัดการ เอาให้ตายใจและรู้สึกผิดลึกๆเพิ่มขึ้นอีกหน่อย ตอนสอน ตอนอบรม มันจะได้"อิน" 🙄
คนมันเคยเป็นเด็กแบบนี้มาก่อน (แย่กว่านี้ด้วยซ้ำ) เข้าใจอารมณ์ เข้าใจสาเหตุ ไม่ตื่นเต้นตกใจครับ!
ดีซะอีกที่เกิดตอนนี้ อายุยังน้อย ถ้าจัดการได้ดีตั้งแต่ตอนนี้ โตขึ้นก็สบาย คอยดูฝีมือผมแล้วกัน!
หลังจากคืนนั้นผมก็แอบดูสมุดจดการบ้านและการบ้านของเค้าทุกคืน (ตอนเค้าหลับแล้ว) และก็เป็นไปตามคาดคืองานค้างมากขึ้นเรื่อยๆ มีความเห็นของครูประจำชั้นร่ายยาวมาเกือบครึ่งหน้าในวันหลังๆ ทำให้นึกถึงตัวเองสมัยก่อนเลย โดนรุมลงโทษจากทั้งบ้านและโรงเรียน แล้วไง! ชินมาก เฉยสนิท! ๕๕๕
แต่ตอนนี้เป็นพ่อ (ผู้รู้ผลกระทบของการทำแบบนี้มาแล้ว) ต้องคิดใหม่ทำใหม่!
เจอว่า! นี่ถ้าผมจัดการปัญหานี้ได้ ไม่ใช่แค่ลูกจะมีความประพฤติดีขึ้นเท่านั้น มันยังทำให้ทัศนคติที่ครูมีต่อลูกผมจะยกระดับขึ้นอีกด้วยนะเนี่ย!
เข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้คือเรื่องอะไร! ทำไมตอนเด็กๆคิดไม่ออกฟะ! 😄
วันจัดการปัญหามาถึงแล้ว! ผมรีบกลับบ้านให้เร็วกว่าปกติ (แต่ลูกเข้านอนและหลับไปได้ซักชั่วโมงแล้ว) ผมตรงไปที่นอนเค้าและกระซิบข้างหูเสียงแข็งนิดๆ "เจ้าปัน...ตื่นค่ะลูก!"
เค้างัวเงียลุกขึ้นมาถามว่ามีอะไร? ผมบอกเค้าว่า "หนูค้างส่งการบ้านครูมาหลายวันแล้ว...ลุกขึ้นมาทำให้เสร็จค่ะ! เดี๋ยวพ่อจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าจะทำเสร็จ.."
เค้าลุกขึ้นมาโดยดี เริ่มลงมือทำ...ทำไปหาวไป งอแง..ซักพักเดียวก็ร้องไห้ ผมเลยบอกว่า "ระวังน้ำตาจะเลอะสมุดนะ..เดี๋ยวสมุดเปียกกันพอดี เช็ดน้ำตาซะ!"
ผมไม่ห้ามที่เค้าจะร้องไห้หรอกครับ แม้เสียงร้องไห้จะทำให้ผมเป็นทุกข์เพิ่มก็ตาม แต่รู้ตัวว่ากำลังทำสิ่งที่สำคัญอยู่ ต้องหนักแน่นมีสติ (เกือบๆจะหลุดอยู่หลายครั้งเหมือนกัน 😂)
ผมพอเดาได้ว่าเกิดจากอะไร และพอเป็น"ดินพอกหางหมู"มันก็เลยเถิดไปกันใหญ่ ได้แต่คุมน้ำเสียง ท่าทาง เพื่อให้กำลังใจและพูดให้คิดไปเรื่อยๆว่า "ถ้าหนูใช้ความพยายาม พลัง เพิ่มอีกนิดเดียวต่อวัน เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น....อดทนอีกนิดนะ!"
พอเห็นว่าเกือบๆเที่ยงคืนแล้ว ก็บอกให้ลูกไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นมาแล้วไม่สดชื่น เรียนก็ไม่สนุก ไม่รู้เรื่อง!
กลับมาจากโรงเรียนแล้วค่อยมาสะสางกันต่อ เค้าก็เดินไปนอนอย่างอ่อนเพลียและหลับไปพร้อมคราบน้ำตา! 😫
แม้ในใจผมจะเจ็บแปล๊บๆ แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่า "สิ่งดีๆรออยู่!" เราบอกให้เค้าอดทน ตัวเราเองก็ต้องอดทนด้วยสิ!
วันถัดมาผมรีบกลับบ้านให้ทันลูกกลับจากโรงเรียน ภาพที่เห็นคือเค้าลงมือทำงานค้างอยู่ตั้งแต่ถึงบ้าน เห็นแบบนั้นผมจึงคอยอยู่ใกล้ๆเพื่อให้กำลังใจเค้า คอยเตือนให้พักทานข้าว ดื่มนมเป็นระยะ เค้าเองก็ทำตาม บรรยากาศเป็นไปด้วยดี!
วันนี้ไม่ร้องไห้แล้ว! แถมอดทนทำจนเสร็จ(ราวๆ ๔ ทุ่ม) ตอนพาเค้าไปนอนผมจึงถือโอกาสพูดคุยย้ำอีกครั้ง!
"สบายใจมั้ย?" เค้าพยักหน้า
"รู้มั้ยว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?" เค้าก็พยักหน้าอีก
"ชีวิตเราจะมีความสุขกว่านะ...ถ้าเราใช้พลัง ความตั้งใจ เพิ่มอีกนิดต่อวันในการทำหน้าที่ให้สำเร็จ...หนูจำความรู้สึกของทุกวันที่หนูรู้ว่ายังงานค้าง ยังทำไม่เสร็จได้มั้ย?.." เค้าบอกว่าจำได้
"แม้มันดูเหมือนเป็นความรู้สึกเล็กๆ..แต่มันก็รู้สึกไม่ดีใช่ป่าว?" เค้าพยักหน้า
"ปรับปรุงตัวเองนะ!" แล้วผมก็ห่มผ้า หอมแก้ม และกล่าว "หลับให้สบาย..ตื่นมาสดชื่นค่ะลูก!" เหมือนทุกๆครั้ง แต่คราวนี้นี้เพิ่มกอดแน่นๆไปอีกหน่อย ❤️
ผ่านไปซัก ๒-๓ วัน ผมถามเจ้าปันว่าหลังจากที่เค้าสะสางการบ้านหมดและกลับมาเป็นเด็กที่"มีความรับผิดชอบ"แล้ว เป็นไงบ้าง! เค้าบอกว่า "ดีค่ะพ่อ!..ครูก็ชมด้วย!" ผมยิ้มให้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้!
รอให้ผ่านไปอีกซักพักจะขยายเรื่องนี้ต่อ! ☺️
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ ยังเกิดขึ้นเล็กๆอีกครั้งสองครั้ง แต่พอย้ำให้เค้านึกถึงเหตุการณ์และผลที่เกิดขึ้น เรื่องแบบนี้ก็หายไปอย่างถาวร หมดห่วง! 😉
อยู่ประถม๔ไปซักพัก ผมถามเค้าว่า "ถึงตอนนี้หนูไม่ขาดส่งการบ้านเลย แต่เรายังทำอะไรเพิ่มได้อีกนะ สนใจป่าว?"
"สนใจสิพ่อ!..อะไรล่ะ?" เค้าตอบด้วยแววตาคึกคัก แววตานี้แหละที่ผมชอบนักชอบหนา!
"ทำให้ดีสุดๆและส่งเร็วกว่ากำหนดบ่อยๆ" เค้าถามว่า "ทำไมเหรอ?"
ผมบอก "เรามาสร้างความน่าเชื่อถือให้คุณครูเห็นกัน" ยกตัวอย่างให้เค้าเห็นว่าเวลาเราจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศตอนปิดเทอม ตั๋วที่เราใช้จากสิทธิ์ของแม่ทำให้เราต้องรอว่าจะมีที่นั่งว่างมั้ย? และก็ลุ้นระทึกกันทุกครั้ง(ทั้งไปและกลับ) เพราะคนเดินทางช่วงนั้นเยอะมาก เราน่าจะไปเที่ยวกันตอนเปิดเทอมดีกว่า
ผมเห็นว่าการท่องเที่ยวก็คือการเรียนรู้(โดยเฉพาะถ้าไปกับผม) และเราไม่จำเป็นจะต้องมาติดกับอยู่กับการต้องไปโรงเรียนทุกวัน เราแค่รับผิดชอบหน้าที่ให้ครบ มีคุณภาพ และทำตัวตามเงื่อนไขหรือข้อตกลงของโรงเรียน ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว!
อาจจะไม่ตรงใจหรือความคิดของอีกหลายคนก็ได้! อันนี้ส่วนตัวล้วนๆ! 😁
"ถ้าหนูทำแบบนี้ได้สม่ำเสมอ..มาคอยดูนะ! เวลาเราจะไปเที่ยวกัน พ่อจะเขียนใบลาแบบตรงไปตรงมาเลย รับรอง! ครูอนุญาตแน่นอน!" เค้ารับฟังอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นงานที่รับผิดชอบก็ดีขึ้นตามลำดับและส่งก่อนเวลาอยู่บ่อยๆ กลายเป็นนิสัยที่ติดตัวถึงเดี๋ยวนี้
นิสัย "Early Bird" ของเค้า คงเริ่มจากตอนนี้นี่เอง! 😘
หลังจากที่เค้าลงมือทำอย่างที่เราคุยกันไว้ ครอบครัวเราก็ปรับการท่องเที่ยวมาอยู่ในระหว่างเปิดเทอม อยากจะไปเมื่อไหร่ก็ไป ผมก็พิสูจน์ให้ลูกเห็นว่า"ความน่าเชื่อถือ"ที่เค้าสร้าง มันเป็นความน่าเชื่อถือของครอบครัวเราด้วย จดหมายลาจึงได้ผล มันทรงพลังและส่งผลดีขนาดไหน!
ในขณะเดียวกันลูกเองก็เข้าใจบทบาทและหน้าที่ว่า กลับมาจากเที่ยวก็ต้องไล่เก็บงานให้ครบ และยังคงต้องส่งงานที่ดี มีคุณภาพเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อไป มันเป็นวงจรของการใช้ชีวิต!
พอลูกเข้าใจและผ่านการพิสูจน์ว่าเป็นจริง มันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกแล้วครับ!
นี่คืออีกครั้ง! ที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เป็น"ปัญหา" มันคือ"โอกาส"ในการสร้างสิ่งที่ดีกว่าได้จริงๆ
ลูกเองก็ย้ำนักย้ำหนาว่า "พ่อต้องเล่าเรื่องนี้ให้ได้นะ!..หนูว่ามันดีมาก!" 😍
*รูปไม่ตรงกับเหตุการณ์ตามเรื่องเล่า แต่ตรงกับวัย หาได้แค่นี้จริงๆ!
เป็นการเล่น Bayblade ของเล่นสุดฮิตของเด็กยุคนั้น ลูกเพิ่งบอกว่าตอนนั้นเธอทำเด็กผู้ชายในห้องร้องไห้บ่อยมาก เพราะโดน Bayblade ของเธอชนกระเด็นกระดอน กระจุยกระจาย แพ้ราบคาบ! 😅
#คนโชคดี #ทำบุญ #mystyle #mysoul #เจ้าปันสตอรี่ #ในระหว่างความคิดถึง
แม่และเด็ก
ครอบครัว
เลี้ยงลูก
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
#เจ้าปันสตอรี่
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย