16 มี.ค. 2022 เวลา 04:03 • ครอบครัว & เด็ก
#เจ้าปันสตอรี่ ตอนที่๑๗
"ลูกเครียดจนอาเจียน....เพราะคุณครู!"
"เครียด..!" ลูกตรูนี่นะ?
เป็นไปได้เหรอเนี่ย? 🤔😥
ผมเริ่มไปส่งลูก(และหลานสาว)ทุกเช้าตั้งแต่ลูกย้ายมาเรียนประถม๔ ที่โรงเรียนสารสาสน์ฯนิมิตรใหม่
พวกเรา ๓ คนมีความสุข สนุกในรถกันทุกเช้า เพราะผมตั้งใจจะทำให้บรรยากาศไปโรงเรียนของทุกวันเป็นเช่นนี้ จะหาเรื่องสนุกๆมาเล่า พูดคุยกันด้วยน้ำเสียง ท่าทาง ที่คึกคักสดใสอยู่เสมอ ตอนจะลงจากรถก็จะให้พวกเค้าเตรียมตัวให้พร้อม พอรถจอดสนิทก็จะรอให้ปลอดภัย แล้วบอกว่า "ไปได้! เรียนให้สนุกนะ!"
พวกเค้า ๒ คน จะลงรถอย่างกระฉับกระเฉง หันมายิ้มแฉ่งให้โดยจะเจอรอยยิ้มของผมที่ค้างอยู่แล้วตอบรับเสมอ 😍
แต่เช้าวันนึงตอนประถม๕ เจ้าปันตื่นมาพร้อมกับบ่นว่า"ไม่สบาย" แถมยังอ้วกอีกด้วย! จึงให้เค้าพักอยู่บ้าน ส่วนผมไปส่งหลานสาวที่โรงเรียนก่อนโดยไม่ลืมที่จะฝากทางบ้านให้พาลูกไปหาหมอเพื่อตรวจดูอาการ เพราะร้อนใจมาก! อยากจะรู้ผลทันทีเมื่อกลับมาบ้าน
พอกลับถึงบ้านคุณแม่ยายบอกว่าหมอตรวจแล้วว่าไม่เป็นอะไร น่าจะมาจากความเครียด..........! 😓
เครียด! แม้จะไม่อยากจะเชื่อ..แต่ก็ต้องพิสูจน์ดู อย่างน้อยก็เคยรู้มาว่าอาการทางใจก็ส่งผลกับร่างกายได้ ลองจับตัวลูกก็ปกติ สังเกตดูกิริยาท่าทางก็ปกติ ไม่มีเห็นอาการเหมือนตอนตื่นนอนเมื่อเช้าเลย
มั่นใจและเชื่อใจในตัวเค้าครับ! เค้าไม่โกหกแน่นอน เค้าไม่ใช่คนแบบนั้น!
มันต้องมีสาเหตุ...ต้องหาให้เจอ! 😶
คุยกับเค้า ถามไปถามมาได้รู้ว่า เค้ารู้สึกว่ามีคุณครูประจำวิชาท่านนึงไม่ชอบเค้ามากๆ ถึงขนาดแสดงกิริยารำคาญ รังเกียจพฤติกรรมที่กระตือรือร้นของเค้า(อาจจะดูเกินปกติในสายตาคุณครู) ทั้งว่า แซว ให้เค้ารู้สึกอาย แย่ๆต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นอยู่เสมอ และวันนี้ก็มีการเรียนวิชานั้นซะด้วย 😥
แว่บแรกที่ได้ฟังเรื่องนี้! ผมนึกถึงภรรยาทันที นึกถึงเรื่องราวที่เธอเล่าให้ฟังตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ เรื่องราวที่ผมรับรู้แล้วเห็นถึงความบกพร่องในการแสดงออกของตัวเอง เช่น การตอบสัมภาษณ์งานของเธอ การจัดการกับผู้คนที่แสดงอารมณ์ร้ายๆที่เธอเจอตอนไปทำงาน ฯลฯ เรื่องเหล่านี้ทำให้ผมได้คิด และพยายามฝึกฝน ปรับปรุงตัวเองมาทีละนิดตั้งแต่นั้นมา เมื่อชื่นชมก็ต้องเอาเป็นแบบอย่างครับ!
วันนี้เค้าไปทำงาน! ขาดคนช่วยคิด ช่วยตัดสินใจ จะรอให้ภรรยากลับมาก็คงช้าเกินไป เหตุการณ์คราวนี้จึงท้าทายผมมาก จะต้องจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีให้ได้! 😏
เมื่อผมสอบถามลูกจนแน่ใจแล้วว่าเป็น"เรื่องจริง" ผมจึงบอกเค้าว่า "ไม่เป็นไรค่ะ!! พ่อจะช่วยแก้ปัญหาให้! 👌
ผมเขียนจดหมายถึงคุณครูประจำชั้น แล้วมอบหมายให้ลูกนำไปให้คุณครูตั้งแต่เช้าของวันรุ่งขึ้น ย้ำกับเค้าว่าต้องตั้งแต่เช้าเพื่อความสบายใจของลูก และต้องเป็นคุณครูประจำชั้นเท่านั้นนะ เพราะนี่เป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง เรื่องนี้คุณครูประจำชั้นต้องรับรู้และเป็นความรับผิดชอบของเค้า ลูกพยักหน้าเข้าใจ!
ในจดหมายผมเล่าว่าเช้านี้เกิดเหตุการณ์อะไรและคำวินิจฉัยของคุณหมอต่ออาการของลูกสาวว่าอย่างไร
ผมแนะนำว่าตัวเองทำงานอะไร ซึ่งงานของผมก็มีลักษณะคล้ายๆกับคุณครู ผมเข้าใจในความเหนื่อยยาก ความพยายามของคุณครูที่ต้องดูแลเด็กๆหลายๆคนในเวลาเดียวกัน ว่ามันต้องใช้พลังขนาดไหน
ดังนั้นผมจึงอบรมลูกอยู่เสมอว่าเค้าจะต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือคุณครู ช่วยส่งพลังงานดีๆกลับไปเพื่อให้พลังงานมันหมุนเวียนเป็นก้อนที่ใหญขึ้น คุณครูจะได้มีพลังในการถ่ายทอดความรู้ หรือจัดการให้การเรียนวิชานั้นผ่านไปด้วยดี (*เรื่องนี้เคยเล่าไว้ตอนลูกไปเรียนว่ายน้ำแล้ว) ตลอดจนลูกจะต้องให้ความเคารพคุณครูในลักษณะอื่นๆด้วย
ซึ่งผมก็เห็นว่าลูกสาวของผมปฏิบัติตัวแบบนี้สม่ำเสมอมา
จึงค่อนข้างมั่นใจว่าผมและลูก เราทำหน้าที่นี้ได้ประมาณนึงแล้ว
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมเองก็ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรเพิ่มได้อีกบ้าง คงต้องรบกวนคุณครูประจำชั้นช่วยหาทางออกให้กับผมด้วย จะรอฟังข่าวดีครับ!
เนื้อความในจดหมายก็ประมาณแบบนี้ เป็น"จดหมายขอความช่วยเหลือ"ครับ! 😉
ในวันที่ลูกเอาจดหมายไปยื่นให้คุณครู ผมรีบกลับมาย้านและรอฟังผลด้วยใจระทึก! ตื่นเต้น! พยายามไม่คิดอะไร ทำใจสบายๆ ลองฟังเรื่องราวดูก่อน
พอลูกกลับถึงบ้านก็รีบถาม(โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าท่าทางเค้าเลย 😁) ลูกก็บอกว่าถึงโรงเรียนปุ๊บก็เอาไปให้คุณครูประจำชั้นปั๊บ ครูได้อ่านก็ตกใจ! ขอโทษ!และบอกว่าจะช่วยเหลือ ผมได้ฟังแค่นี้ก็เบาใจไปเยอะ!
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนคือ ตอนบ่ายวันนั้นในวิชาที่คุณครูดังกล่าวมาสอน คุณครูท่านนั้นได้กล่าวขอโทษนักเรียนทั้งห้อง และสัญญาว่าจะปรับปรุงตัว จะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีกแล้ว ผมได้ฟังตรงนี้แล้วมีความสุขมาก! 😍
ในความสุขนี้มีความคิดแล่นเข้ามาหลากหลายไปหมด!
นอกจากผมได้ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกได้อย่างทันท่วงทีแล้ว! ลูกยังได้เห็นว่าวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมและสร้างสรรค์
จากเรื่องส่วนตัวของลูก กลับกลายเป็นได้แก้ปัญหาให้กับเด็กคนอื่นๆในชั้นเรียนด้วย (และอาจจะเป็นเด็กชั้นเรียนอื่นๆ และต่อๆมาอีกก็ได้ อันนี้คิดได้ทีหลัง!) ช่วยยืนยันกับลูกได้อีกครั้งว่า การกระทำของเรามีผลต่อคนอื่นๆเสมอ
ผมกับลูกรู้สึกขอบคุณและโชคดีที่มีคุณครูประจำชั้นที่มีคุณภาพ เข้าใจในหน้าที่ บทบาทของตัวเอง ตลอดจนคุณครูประจำวิชาที่เปิดใจกว้างพร้อมรับคำแนะนำ.และปรับปรุงตัวเอง ทั้ง ๒ ท่าน ทำตัวสมกับคำว่า "ครู" ครับ
และยังมีอีกหลายความคิด ความรู้สึก ที่เข้ามาพร้อมๆกัน
ลูกเล่าว่า บังเอิญไปเจอคุณครูท่านนี้ตอนที่ลูกอยู่มัธยมปลาย (โรงเรียนอื่นแล้ว) ท่านยังเข้ามาทักทายและขอบคุณลูก แถมบอกว่ายังเก็บจดหมายฉบับนั้นไว้ดูอยู่เรื่อยๆ กลายเป็นความทรงจำที่ดีต่อกัน ชื่นใจ!
ผมจดจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นตัวอย่างในการตัดสินใจหลายๆเรื่องของตัวเองจนปัจจุบัน
จากการที่ผมไม่ตำหนิใคร ให้ความเข้าใจทั้งลูก คุณครูประจำชั้น คุณครูประจำวิชา และลำดับขั้นของการบริหารโรงเรียน จึงทำให้เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขและจบลงได้ด้วยดี
ถ้าผมละเลยขั้นตอนไปโวยวายกับผู้บริหาร โวยวายกับคุณครูท่านนั้น ตั้งวงซุบซิบนินทา ทำอะไรหลายๆอย่างแบบที่เราเห็นในข่าวหรือที่ได้ยินได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เรื่องราวคงไม่คลี่คลายในลักษณะนี้แน่ๆ
แต่นี่! เจ้าปันกลับมามีความสุขทันที!
การเดินทางไปโรงเรียนทุกเช้าของเราก็กลับมาสู่สภาวะสนุกสนาน ตลกเฮฮา และเป็นเช้าที่สดใสเช่นที่เคยมา
แถมยังเป็นความประทับใจขนาดใหญ่ที่ีลูกมีต่อตัวผมในหลายๆด้าน เพราะลูกบอกว่า "หลังจากเหตุการณ์นี้.. หนูยกย่อง และฟังพ่อขึ้นอีกเยอะมาก....."
ผมก็บอกเค้าว่า "พ่อไม่รู้หรอกว่าพ่อเก่งมั้ย? แต่พ่อ....ศักดิ์สิทธิ์..!" 🙄
แฮปปี้เอ็นดิ้ง! ❤️
*รูปไม่ตรงกับเรื่อง(อีกแล้ว!) แต่จะให้เห็นว่าปกติแล้วเค้าร่าเริง สนุกสนานตลอดเวลา เรื่อง"เครียด"นี้ ห่างไกลจริงๆ!
#คนโชคดี #ทำบุญ #mystyle #mysoul #เจ้าปันสตอรี่ #ในระหว่างความคิดถึง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา