Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
•
ติดตาม
20 พ.ย. 2021 เวลา 00:59 • หนังสือ
=======================
“สัปดาห์ละบทสองบท” || วันเสาร์
======================= 🧸• อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
✍🏻• ซะซะกิ ฟุมิโอะ เขียน || นพัฒน์ หัทยานันท์ แปล
🔖• Minimalist? || How to be a minimalist? || Maximalist Life? || Case 01-05 || เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ 📝• บันทึกใจความแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป พร้อม บันทึกการอ่านของ อิคิ ∙ 生き
==============
Minimalist? มินิมัลลิสต์คืออะไร
==============
มินิมัลลิสต์ คือ การใช้ชีวิตที่มีข้าวของน้อยชิ้นและจำเป็นกับตัวเองเท่านั้น ข้าวของที่น้อยลง ทำให้ชีวิตผลเปลี่ยนไปจากห้องสกปรก ๆ สู่ความเป็นมินิมัลลิสต์
[ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ]
====================
How to be a minimalist? เส้นทางสู่การเป็นมินิมัลลิสต์
====================
1. เก็บกวาดข้าวข้องเครื่องใช้ให้เรียบร้อยและจัดห้องให้ดูสะอาดตาเพื่อหลุดพ้นจากห้องสกปรก
2. เก็บกวาดหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ ออกให้หมด แค่นี้ก็ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นแล้ว
3. ระหว่างวันนำโต๊ะวางของเล็ก ๆ มาแทนที่ฟูกนอน มีแค่โต๊ะ และโทรทัศน์ เพียงแค่นี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่าย
[ อิคิ ∙ 生き : ในหนังสือมีภาพประกอบนะคะ ห้องที่จัดแล้วเป็นแค่ห้องโล่ง ๆ มีโต๊ะตัวเล็ก ๆ วางทีวีอยู่ ไม่มีสิ่งของใด ๆ นอกจากนี้ค่ะ และ มีแสงแดดส่องเข้ามา ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ]
[ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ]
==============
Maximalist Life? สภาพห้องเมื่อก่อน
==============
[ อิคิ ∙ 生き : ในหนังสือมีภาพประกอบค่ะ เป็นห้องที่เต็มไปด้วยสิ่งของเต็มไปหมด แทบไม่มีทางเดิน รกและสกปรก มืดทึม ดูแล้วอึดอัด หายใจไม่ออกค่ะ ]
[ อิคิ ∙ 生き : ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างการจัดบ้านนของชาว minimalist นะคะ หนังสือมีภาพประกอบ แต่ อิคิ ∙ 生き จะพยายามบรรยายให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ค่ะ ]
[ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ]
===================
CASE 01 || Sasaki Fumio
โมเดลบ้านสไตล์มินิมัล
===================
คุณ Sasaki [ ผู้เขียน ] อาศัยอยู่ในห้องเล็ก ๆ ขนาดเพียง 20 ตารางเมตร เพื่อเป็นโมเดลบ้านสไตล์มินิมัลมีขนาดเหมาะสมสำหรับอยู่คนเดียว ไม่วางของอะไรในห้องเลย
ตอนนอนก็จะเอาฟูกบาง ๆ มาปูที่พื้น เตรียมพร้อมกับการตื่นมารับแสงอาทิตย์ยามเช้า
คุณ Sasaki ทำอาหารทานเอง จึงมีเครื่องครัวที่เพียงพอสำหรับ 1 คนเท่านั้น ส่งผลให้เขาไม่ต้องใช้เวลามากจนเกินไปในการล้างจาน
เสื้อผ้ามีครบทุกประเภท แต่ แต่ละประเภทมีแค่เพียงพอเท่านั้น คุณ Sasaki ตั้งใจมีชุดลำลองแบบเดียวกับ สตีฟ จ็อบส์ โดยเน้นเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นหลัก และคุมโทนเสื้อผ้า เท่าที่ อิคิ ∙ 生き เห็นในภาพมีเพียงแค่สี ขาว ดำ เทา กรม ค่ะ
กระเป๋าสตางค์ก็ห้อยกุญแจบ้านและกุญแจจักรยานไว้ แค่ใส่ไอโฟนลงไปในกระเป๋า ก็ออกจากบ้านได้ทันที
[ อิคิ ∙ 生 : คุณ Sasaki ไม่ขับรถค่ะ มีจักรยานเป็นพาหนะคู่ใจ 1 คัน ]
ห้องน้ำไม่มีชั้นวางของ มีเพียงสบู่เหลวใช้อาบน้ำและสระผมเท่านั้น
======================
CASE 02 || Hiji
ผู้บุกเบิกการจัดห้องสไตล์มินิมัล
======================
คุณฮิจิเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกกระแสมินิมัลลิสต์ พักอาศัยในห้องที่แสนเรียบง่ายที่ทำให้รู้สึกถึง “ความว่างเปล่า” มีอุปกรณ์ดิจิทัลวางอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น
Profile || ชื่อ : ฮิจิ || อาชีพ : ตัวแทนจำหน่ายสินค้า || งานอดิเรก : อ่านการ์ตูน || เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมินิมัลลิสต์บล็อกเกอร์ที่ชื่อว่า “มินิมัลลิสต์ที่ว่างเปล่า”
minimarisuto.jp
คุณฮิจิแนะนำฟูกนอนสไตล์มินิมัล เพียงแค่พับและวางหมอนลงไป ก็สามารถแปลงกายเป็นโซฟา 1 ตัวได้
ทางเดินไม่วางอะไรเลยมีแค่ข้าวของที่จำเป็นอย่างตู้เย็น หม้อหุงข้าว และ ไมโครเวฟ
ในตู้เสื้อผ้าก็แทบไม่มีสิ่งของใด ๆ จนเหลือพื้นที่สำหรับทำงานได้ โดยมีชั้นวางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และ เก้าอีกพับ 1 ตัว
ทั้งห้องมีแต่ห้องโล่ง สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เล่นบอร์ดเกมกับกับเพื่อน ๆ ได้
===================
CASE 03 || Ofumi & Tee
ห้องนั่งเล่นของเราสองคน
===================
คุณโอะฟูมิและสามีย้ายจากห้องขนาด 78 ตารางเมตรมาอาศัยในห้องขนาด 44 ตารางเมตร เป็นเหตุให้ต้องกำจัดสัมภาระจำนวน 130 กิโลกรัมออกจากห้อง เพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่ยังคงรักษาของชิ้นโปรดไว้
Profile || คู่สามีภรรยามินิมัลลิสต์ || ภรรยาเจ้าของบล็อก “มินิมัลลิสต์ที่แจ่มใส”
mount-hayashi.hatenablog.com
- Instagram : @ofumi_3 || สามีเจ้าของบล็อก “มินิมัลลิสต์ผู้มาสาย”
minimaltee.hateblo.jp
ห้องนึงที่ว่างเปล่าตกแต่งผนังแค่เพียงภาพแขวน “sou•sou”
คุณโอะฟูมิมักจะเขียนไดอะรี่ ที่มีการวาดภาพและระบายสีเพื่อไปลงบล็อก
ทั้งสองท่านนำของที่ได้มาจากเพื่อน ๆ เช่น นาฬิกา ภาพเล็ก ๆ ของโชว์จิ๋ว อูคูเลเล่ มาตกแต่งอย่างเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป
กำแพงห้องนั่งเล่นตกแต่งอย่างเรียบง่าย โดยการนำผ้าลายสไตล์มินิมัลไปใส่กรอบและแขวนผนัง ข้าง ๆ มีนาฬิกาเรือนเล็กน่ารักจัง
===================
CASE 04 || Yamasan
ครอบครัวสไตล์มินิมัล
===================
จัดบ้านให้เหมือนห้องโชว์เฟอร์นิเจอร์ และ สามารถใช้ชีวิตอยู่ 4 คน [ พ่อ แม่ และ ลูก 2 คน ] ได้อย่างไม่อึดอัด
Profile || คุณยะมะ อาศัยอยู่กับ ภรรยา และ ลูก 2 คน || คุณยะมะมีความฝันว่าอยากจะใส่เสื้อผ้าที่ตัวเองตัดเย็บอยู่บ้านอย่างสบาย ๆ || เป็นเจ้าของบล็อก “อยู่อย่างสบาย ๆ ด้วยข้าวของน้อยชิ้น”
yamasan0521.hatenablog.com
คุณยะมะเปลี่ยนห้องอ่านหนังสือเป็นห้องโล่งที่ไม่มีอะไรเลยสำหรับใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ กับครอบครัว
ต้นไม้ในสวนทำให้สบายตา กั้นผนังห้องด้วยผลงานศิลปะฝีมือคุณยะมะเอง
ของในบ้านมีน้อยชิ้นและเป็นมิตรต่อการทำกิจกรรมร่วมกัน ใช้โทนสีถนอมสายตาในการตกแต่งบ้าน
ห้องญี่ปุ่นใช้เป็นห้องนอนของสามี ภรรยา คุมโทนสีขาว มีกฎว่าจะไม่ก้าวก่ายของอีกฝ่าย ของที่ไม่ใช้เก็บไว้ในตู้ จะนำออกมาต่อเมื่อจะใช้เท่านั้น
เสื้อผ้าของคุณยะมะมีแค่ 8 ตัว จัดเรียงอย่างดี คุมโทนสีเป็นโทนสบายตาเช่นเดียวกัน คุณยะมะชอบช่วงเวลารีดผ้าเป็นพิเศษ
=====================
CASE 05 || Itou Kouta
ไปได้ทั่วโลกกับกระเป๋ามินิมัล
=====================
คุณอิโต ลองผิดลองถูกอยู่นาน ในที่สุดก็ได้ค้นพบว่าการมีกระเป๋าแค่ 1 ใบก็สามารถเดินทางรอบโลกได้แล้ว เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยของในกระเป๋าเพียงใบเดียว
Profile || คุณอิโต โคตะ มินิมัลลิสต์ผู้หลงไหลในการผจญภัย และ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานเพลงไปทั่วโลกด้วย MacBook || เจ้าของบล็อก “Minimalist Producer”
minimalist-music-producer.com
ในกระเป๋าของคุณอิโต จะประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
• MacBook Pro คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวทำงานสร้างสรรค์เพลงได้ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก
• เครื่องกรองน้ำพกพา ไม่ว่าไปอยู่ที่ที่สกปรกแค่ไหนก็กรองน้ำดื่มได้
• กระเป๋าขนาดพกพา เบาและทน ใช้ใส่ของมีค่าต่าง ๆ
• ถุงนอน ใช้นอนในที่หนาว ๆ
• เต๊นท์และเปลญวน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เปลี่ยนเป็นที่นอนได้
• ไฟฉาย สามารถใช้เป็นโคมไฟในหลายโอกาส
• เข็มขัด ที่ปรับความยืดหยุ่นได้ พับเก็บง่าย พกติดตัวไปไหนได้ตลอด
• หูฟัง Sony MDR-1ADAC หูฟังคุณภาพดีที่รับส่งข้อมูลดิจิทัลได้
• iPhone 5s & LOKSAK ซองใส่โทรศัพท์กันน้ำ
• กล้องคู่ใจ Sony NEX-5N
• Amazon Kindle ไว้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
• ผ้าพันคออเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้ง คลุมไหล่ ปิดปาก โพกศรีษะ เช็ดตัว ห่อสิ่งของในเวลาเร่งรีบ
• เชือกสำหรับตากผ้า
• หนังสือเดินทางพร้อมถุงกันน้ำ
• อาหารรีทอร์ท ที่หลังจากกินเสร็จจะเหลือขยะชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น
• ชุดอุปกรณ์พกพา ที่มีทั้งกรรไกร มีด ตะไบ รวมอยู่ในชิ้นเดียวของ Leatherman
• อุปกรณ์ชาร์จไฟและสายชาร์จ เก็บในกระเป๋าแบบพกพา
• ผ้าห่มฉุกเฉิน อยู่ในหีบห่อขนาดเล็ก
• ลำโพง BOSE ขนาดเล็ก ที่ขาดไม่ได้เพราะคุณอิโตทำงานดนตรี
• หัวแปลงปลั๊กไฟ ของ มูจิ
• สมุดโน้ต Moleskine
• ที่อุดหู MOLDEX
• ถุงใส่สบู่แผ่นพกพาง่าย สามารถหยิบสบู่ใช้ทีละแผ่น ไม่เลอะเทอะ [ อิคิ ∙ 生き เพิ่งทราบไม่นานมานี้จากการดูหนังอินเดียเรื่องหนึ่ง ว่าโลกนี้มีสบู่แผ่นด้วย พระเอกวางสบู่แผ่นตรงบันไดเพื่อให้นางเองลื่นล้ม คนอะไรใจร้ายจัง😡 ]
• กระเป๋าใส่ของจุกจิก
[ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ]
===============
เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้
===============
บทที่ 1 ความหมายของคำว่า มินิมัลลิสต์ และสาเหตุของการเกิดมินิมัลลิสต์
บทที่ 2 สาเหตุที่ทำให้ข้าวของเพิ่มขึ้น ทำความเข้าใจนิสัยที่แท้จริงของมนุษย์และความปรารถนาในสิ่งของต่าง ๆ เจาะลึกความหมายของการมีข้าวของมากเกินจำเป็น
บทที่ 3 เทคนิคและกฎต่าง ๆ ในการการจัดการข้าวของ
บทที่ 4 เรื่องราวของผู้เขียนที่เปลี่ยนแปลงไปจากการทิ้งข้าวของ ข้อดีจากการลดของใช้ให้เหลือน้อยที่สุด และ “ความสุข” จากการเปลี่ยนแปลง พร้อมคำอธิบายตามหลักจิตวิทยา
บทที่ 5 ความคิดเห็นของผู้เขียนว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงหลังจากจัดการข้าวของจึงจุดประกายความสุขขึ้นมาได้
หนังสือเล่มนี้จะเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า “มินิมัลลิสต์”
1. คนที่เหลือไว้เพียงแต่ข้าวของที่จำเป็นสำหรับตัวเอง
2. คนที่จัดการข้าวของที่มีอยู่และเหลือไว้เพียงของที่สำคัญกับตัวเอง
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าการมีบ้านหลังใหญ่ พื้นที่กว้าง คงเป็นความฝันของใครหลายคน แต่เรื่องราวของชาวมินิมัลลิสต์ทั้ง 5 คนข้างต้นทำให้ อิคิ ∙ 生き กลับมาหวนคิดค่ะว่า บ้านหลังใหญ่กับบ้านที่น่าอยู่อันครอบครองแล้วจะสุขใจได้มากกว่ากัน
ปัจจุบันบ้านที่ อิคิ ∙ 生き อยู่อาศัยมีด้วยกัน 7 ชีวิตค่ะ นั่นคือ
• อิคิ ∙ 生き และ คุณโอ๋แฟนอิคิ ∙ 生き
• พี่สาว พี่เขยของคุณโอ๋ และ สุนัขพันธุ์ french bulldog นามว่า Almond สุดที่รักของพี่สาวคุณโอ๋และพวกเรา สำหรับ Almond คือ ญาติพี่น้องของเรา จึงนับเป็นอีก 1 คนนะคะ
• แม่บ้านจำนวน 2 คน
สิ่งหนึ่งที่ อิคิ ∙ 生き ต้องยอมรับคือ บ้านที่เราอยู่นั้น มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และ ทำให้ 7 ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสบายค่ะ
แต่ในขณะเดียวกันแม้จะอยู่สบาย แต่ก็มีหลาย ๆ ส่วนในบ้านที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ ไม่ว่าเป็นห้องนั่งเล่นบริเวณโต๊ะทานข้าว ห้องรับแขก ห้องนอน และ ห้องพระ ที่ชั้น 2 ดาดฟ้าที่แทบจะไม่มีใครขึ้นไป ยกเว้น อิคิ ∙ 生き ที่ขึ้นไปออกกำลังกายสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และแม่บ้านที่ขึ้นไปดูแลผักสวนครัวของเธอ
พื้นที่ใช้สอยที่พวกเขา 5 ชีวิต [ ไม่รวมแม่บ้าน ] ใช้บ่อยที่สุดคือ ห้องนอนของใครของมัน ห้อง Fitness โต๊ะทานข้าว Pantry หน้าตู้เย็น ถ้าให้นับเป็นพื้นที่ก็แค่ครึ่งเดียวของบริเวณบ้านทั้งหมดค่ะ
เมื่อพิจารณาเรื่องนี้แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยค่ะว่าทำไมชาวมินิมัลลิสต์ทั้ง 5 ท่านสามารถย้ายมาอยู่ในที่ ๆ มีพื้นที่เล็กกว่าที่เคยอยู่กว่าครึ่ง และสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบาย
อิคิ ∙ 生き อนุมานเรื่องนี้ได้ว่า ถ้าทุกคนบนโลกให้ทรัพยากรแต่พอดี เราจะลดการบริโภคได้กว่าครึ่งเลยทีเดียว สิ่งนี้หมายรวมไปถึง เราจะสร้างขยะน้อยลง ใช้ทรัพยากรโลกลดลง ทำลายโลกลดลง ที่สำคัญ เงินในกระเป๋าก็น่าจะเหลือมากขึ้นด้วยนะคะ 🤑
ดังนั้นการจำกัดพื้นที่ใช้สอยในชีวิตประจำวันของเราก็น่าจะช่วยอะไรได้มากค่ะ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้ สมาชิกในบ้านมีความวุ่นวายเรื่องตู้เย็นกันเล็กน้อย ปัญหาก็คือของในตู้เย็นเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร
ในที่สุดคุณโอ๋และพี่สาวก็ได้ทางออกอันแสนชาญฉลาดนั่นคือ งั้นเราแบ่งชั้นกัน อิคิ ∙ 生き และ คุณโอ๋ เอาไปชั้นนึง ส่วนพี่สาวและพี่เขยก็ครอบครองพื้นที่อีกชั้นนึง
ปรากฎว่าเรื่องนี้แก้ปัญหาตู้เย็นไม่พอได้อย่างดีค่ะ การที่เราไม่แบ่งสัดส่วนกัน ทำให้เราคิดว่าเรามีพื้นที่ทั้งตู้เย็นเพราะฉะนั้นเราจะซื้ออะไรก็ไม่ต้องกังวลกับพื้นที่ว่าจะพอหรือไม่
แต่พอพื้นที่ในการเก็บของกินของเราเหลือเพียงแค่ชั้นเดียว [ ลดลงครึ่งนึง ] ก่อนซื้ออะไรเราคิดมากขึ้นค่ะ ว่าจะมีพื้นที่เก็บไหม ก่อนจะซื้อก็ต้องไปดูตู้เย็นก่อนว่ายังมีของเก่าอีกหรือเปล่า มีอะไรที่เราควรจะบริโภคก่อนซื้อใหม่หรือไม่
ท่านไหนมีปัญหาเรื่องมีตู้เย็นกี่เครื่องก็ไม่พอ [ บ้านพ่อแม่ อิคิ ∙ 生き ปัจจุบันคลอดตู้เย็นออกมาแล้วประมาณ 4 ตู้ค่ะ ] ลองนำวิธีนี้ไปใช้นะคะ
อิคิ ∙ 生き คิดว่าเรื่องตู้เย็นที่เล่ามา ก็ไม่แตกต่างกับเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่ในบ้านค่ะ เราไม่จำเป็นต้องมีบ้านใหญ่เลย ขอแค่มีพื้นที่เพียงพอ สะสาง และ ไม่สะสมอยู่เสมอ เราก็จะมีบ้านที่น่าอยู่ได้นะคะ
เพื่อน ๆ ลองจินตนาการดูว่าถ้าเราอยู่ในบ้านที่มีแต่ของที่เราใช้จริง ๆ บ้านที่มีแต่ของที่มีคุณค่าห้อมล้อมร่างกายเรา บ้านของเราต้องน่าอยู่มาก ๆ เลยค่ะ ที่สำคัญคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าบ้านคือชีวิต ดังนั้นเมื่ออยู่ในบ้านที่น่าอยู่ ชีวิตก็น่าอยู่ เมื่อบ้านสะอาด จิตใจเราก็ไม่สกปรก นะคะ
เอาหล่ะค่ะ ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ทุกท่านพอจะมีแรงมีพลัง ที่จะลุกขึ้นมาสะสางบ้าน สะสางใจกันหรือยังคะ อิคิ ∙ 生き ชวนเพื่อน ๆ ลองใช้เวลา 1 สัปดาห์นับจากนี้สะสางพื้นที่ที่ท่านครอบครองกันดูนะคะ เพื่อเตรียมใจมาพบกับ บทที่ 1 “มินิมัลลิสต์มาจากไหน” ในสัปดาห์หน้ากันค่ะ
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き ขอลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่กับ “อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป” ในวันเสาร์หน้านะคะ สวัสดีค่ะ 🙏🏻😊
หมายเหตุ : หากเพื่อน ๆ ท่านในสนใจเรื่องราวจาก “อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป” จนอดใจรอให้ อิคิ ∙ 生き สรุปทีละสัปดาห์ไม่ไหวก็สามารถสั่งซื้อหนังสือได้ที่ Link ด้านล่างนะคะ
https://www.naiin.com/product/detail/211204?gclid=CjwKCAiAs92MBhAXEiwAXTi259XiEeKtIc7D8sK7dCQUHpSKz1qMEkMQ0le0l3Osi4-8aeW3l0XLphoCx4UQAvD_BwE
#สัปดาห์ละบทสองบท #อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
2 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สัปดาห์ละ. . .บท 2 บท
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย