26 พ.ย. 2021 เวลา 00:59 • ปรัชญา
"ผลของความเพียร"
5
" ... การจะวัดความเข้มแข็งของใจเราจริง ๆ
ก็ต้องวัดช่วงของวิกฤตชีวิตนั่นเองนะ
สามารถประคับประคองสติ
มีจิตใจที่ตั้งมั่นอยู่หรือไม่ ?
เหมือนทหาร เขาฝึกกันมา
เป็น 10 ปี 20 ปี ก็เพื่อทำสงคราม
รบกันวันเดียวนะ
ที่ครูบาอาจารย์บอกว่า
ฝึกมาทั้งชีวิตก็เพื่อดวงจิตดวงสุดท้าย
ก่อนที่จะตายนั่นเองนะ
เรียกว่า ช่วงคับขัน
เป็นช่วงเวลาที่ทดสอบชีวิตที่แท้จริงเลยว่า
ที่เราเพียรฝึกมาได้ผลจริง ๆ หรือไม่นั่นเอง
ถ้ากำลังเรายังไม่ดีนี่
สติไม่สามารถตั้งตัวได้ ก็เตลิดเปิดเปิงไปหมด
เกิดความเสียหายได้
แต่แม้กระทั่งช่วงสถานการณ์คับขันหรือ วิกฤต
เราประคับประคองสติได้ เป็นผู้มีจิตใจตั้งมั่น
อันนี้เป็นการสะท้อนผลของการฝึกนั่นเองนะ
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
เมื่อจิตเศร้าหมอง ทุคติเป็นอันหวังได้
เมื่อจิตผ่องใส สุคติเป็นอันหวังได้
ดวงจิตดวงสุดท้าย ก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป
ใครล่ะจะรู้ว่าเวลาที่เราจะตายเมื่อไหร่ ?
เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถเตรียมใจ วางใจได้ถูก
แม้ในขณะเสี้ยววินาทีที่เราจะตายได้เลย
ถ้าเราไม่เพียรฝึกปฏิบัติมาทั้งชีวิตนั่นเอง
เพราะใครก็ไม่รู้เวลาตายของเราแน่นอน
เราไปเข้าห้องน้ำ อาจจะวูบตายไปเลยก็ได้
ถามว่า แล้วเราบอก
ขอต่อรองกับมัจจุราชก่อนว่า
เดี๋ยวขอนั่งสมาธิวางใจก่อนตาย ทำได้ไหม ?
... มันทำไม่ได้
ในสถานการณ์วูบเดียว
ชั่วขณะเดียวก็ไปหมดแล้ว
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราทำได้
ก็คือการเพียรฝึกมาทั้งชีวิตนั่นเอง
เราไม่รู้หรอกสถานการณ์อะไร
จะเกิดขึ้นกับชีวิตเราบ้าง
นอนอยู่บ้าน อยู่ ๆ มันเกิดอะไรขึ้นมาก็ได้
หรือแม้ขณะนั่งฟังธรรมอยู่เนี่ย
บางคนอาจจะล้มไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยก็ได้
ความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราทุกคน
อย่างแน่นอน
แล้วทำยังไงล่ะ ?
ที่ว่าดวงจิตดวงสุดท้าย
ที่ว่าจิตผ่องใส สุคติเป็นอันหวังได้
ก็ต้องอาศัยการเพียรฝึกปฏิบัตินั่นเองนะ
ฝึกซ้อมอยู่เนือง ๆ
นั่นแหละ ผลย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดานะ
อันนี้เป็นเครื่องชี้วัดได้ ค่อย ๆ ฝึกปฏิบัติไป
ให้เห็นคุณค่าของการฝึกปฏิบัตินะ
ถ้าเราไม่เพียรฝึกปฏิบัติ แล้วเราจะไปคาดหวัง
ว่าก่อนตายแล้วเราจะมีจิตใจผ่องใส
ถ้าจิตเศร้าหมองก็มาตีโตยตีพาย
ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
ผู้ที่มีปัญญาก็ต้องขวนขวาย พากเพียร
ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอนะ
ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ... "
1
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา