Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
My Investment Diary บันทึกการลงทุนคนธรรมดาสร้างตัว
•
ติดตาม
2 ธ.ค. 2021 เวลา 08:29 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ความเสี่ยงในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.posttoday.com/finance-stock/money/477875
ช่วงนี้ถ้าใครติดตามเศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ เช่น สหรัฐ, ยุโรป, หรือจีน เป็นต้น ก็จะเห็นว่ากำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ จากปัจจัยต่างๆ ราคาพลังงานที่สูงขึ้น, ราคาค่าขนส่งไม่ลดลงเป็นปกติซักที, Demand ของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่เพิ่มขึ้นทำให้วัสดุต่างๆแพงขึ้นไปด้วยส่งผลต่อสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตออกมา
โดยเฉพาะพี่ใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาทยอยดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ต้องเตรียมลด QE ก่อนที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
ซึ่งถ้าปีหน้าสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยจริง ประเทศที่พึ่งพาการนำเข้า-ส่งออก อย่างประเทศไทยต้องเดือดร้อนจากการอ่อนค่าของค่าเงินแน่นอน ขนาดที่ว่าแค่สหรัฐประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหรือเร็วๆนี้ที่บอกจะลด QE ในแต่ละครั้งที่จำนวนมากขึ้น เงินบาทก็อ่อนค่าลง แม้ว่าสหรัฐยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลยด้วยซ้ำ
แล้วเมื่อถึงเวลาถ้าประเทศไทยขึ้นดอกเบี้ยจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้น?
แน่นอนว่าในแง่ของดอกเบี้ยเงินฝาก ผมคงไม่กล่าวถึงเพราะคนที่ลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่โดยมีเงินฝากแค่จำนวนเพียงพอสำหรับใช้ชีวิตคงไม่สนใจมากนัก
แต่สำหรับดอกเบี้ยสำหรับคนที่ซื้อบ้านหรือกู้อะไรก็ตามที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคงตัว ต้องระวังและเตรียมตัวให้ดี ถ้าเราสังเกตุรุ่นพ่อแม่เราตอนช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จำนวนเงินต่อเดือนที่ผ่อนบ้านอยู่นั่น เพิ่มขึ้นมหาศาลเป็นเท่าตัว จนผ่อนไม่ไหว บ้านหลุดกันนักต่อนัก
ทีนี้มาพูดเรื่องสำคัญที่ผมจะสื่อในบทความนี้กันครับ
ตอนนี้ผมเริ่มให้ความสนใจกับความเสี่ยงในเรื่องของหนี้สินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เพราะต้นทุนดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ถ่วงการเติบโตของผลประกอบการพอสมควร และเป็นความเสี่ยงที่เกาะกินจนทำให้บริษัทล่มละลายในที่สุด
เป็นไปได้ผมชอบหุ้นที่มีหนี้สินน้อยกว่ากระแสเงินสดซึ่งผมเคยกล่าวในบทความไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่หุ้นลักษณะนี้ก็มีไม่เยอะ ถึงหาเจอแต่ดูจากปัจจัยอื่นๆประกอบแล้วก็ยังไม่น่าสนใจอยู่ดี
ก็อาจจะผ่อนปรน ดูให้ลึกกว่านี้ว่าบริษัทมีหนี้สินจากสถาบันการเงินเยอะหรือไม่ หุ้นกู้มีสัดส่วนเท่าไร
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้บริษัทที่ผมติดตามอยู่ ทยอยจ่ายหนี้ระยะสั้นและระยะยาวของสถาบันการเงินให้หมดเร็วที่สุด และรีบจ่ายหนี้ส่วนที่เหลือต่อไป ก่อนภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจะมา
และด้านล้างคือภาพตัวอย่างใน website ของ ตลาดหลักทรัพย์ครับ
รายการหนี้สินของหุ้น Aqua
- เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน = 5.07 ล้านบาท
- ส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี = 572.66 ล้านบาท
-- สถาบันการเงิน = 572.66 ล้านบาท (*ยอดเดียวกันกับบรรทัดบน)
- หนี้สินระยะยาว - ส่วนที่ถึงกำหนดชำระเกินกว่าหนึ่งปี = 2,025.60 ล้านบาท
-- สถาบันการเงิน = 1,083.85 ล้านบาท
-- หุ้นกู้ = 941.75 ล้านบาท
*1,083.85 + 941.75 = 2025.60 ล้านบาท
ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนไม่มากก็น้อยครับ
และบทความนี้แค่ยกตัวอย่างอ้างอิงข้อมูลเพื่อศึกษาเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำการลงทุนแต่อย่างใดครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีความสุขกับชีวิตและการลงทุนครับ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บทความการเงินการลงทุนทั่วไป
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย