2 ม.ค. 2022 เวลา 02:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
คุยกับตัวเอง (ทำไมถึงลงทุนในตลาดหุ้น?)
ความเป็นจริง
ชีวิตผมตั้งแต่วัยเด็กจนถึงตอนเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมไม่เคยสนใจและรู้สึกไม่ถนัดกับอะไรที่เป็นตัวเลข และเศรษฐกิจเลย
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกเลยอย่างแรกคือ ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน !
มีโอกาสน้อยมากที่คุณคิดว่าชีวิตเราทั้งชีวิตจะทำแบบนี้แบบนั้น แล้ววางแผนเป็นรูปเป็นร่าง และทำได้ทั้งหมดตามที่วางแผน 100%
ผมถามกับตัวเองว่า แล้วทำไมผมต้องมาสนใจลงทุนในตลาดหุ้นด้วยหละ?
ทีนี้ก่อนผมจะตอบคำถามนี้ ผมถามตัวเองก่อนว่า แล้วตัวผมเก่งและถนัดทางด้านใด เพื่อจะทำอาชีพอะไร ?
พอผมตั้งคำถามนี้ขึ้นมา ผมอึ้งกับตัวเองทันที เพราะคำตอบของผมคือ
ผมเป็นคนธรรมดาแบบขั้นสุด เรียนเกรดเฉลี่ยรวมไม่เคยเกิน 2.50 ทั้งชีวิต
กีฬาฟุตบอลที่ตัวเองรัก ก็ได้แค่ระดับโรงเรียนที่ไม่โดดเด่นอะไร
ความสามารถทางภาษา ? ก็ธรรมดา
เรื่องเทคโนโลยี ก็งูๆปลาๆ พอเข้าใจแบบคนทั่วไป
เนื่องด้วยเป็นคนหัวช้า ไม่ได้เรียนรู้เร็ว และบางครั้งก็ขี้เกียจ
แต่... มีสิ่งเดียวที่ผมคิดว่ายังพอไปไหวคือ ความอดทน และพร้อมจะเรียนรู้ ถ้าสิ่งนั้นผมต้องการเรียนรู้จริงๆ ถึงจะไปอย่างเชื่องช้า แต่ก็เป็น เต่าที่อดทน
อีกหนึ่งข้อคือ ผมเป็นคนยอมรับและทำใจกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดกับชีวิตได้พอสมควร
พอผมหาคำตอบข้อแรกได้แล้ว ผมจะมาตอบคำถามข้อถัดไปว่า ทำไมตัวเองถึงลงทุนในตลาดหุ้น ?
สิ่งแรกคือ เนื่องจากเป็นคนธรรมดา
ถ้าให้ทำงานประจำเงินเดือนสูง ? = โอกาสน้อยมาก
ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ? = เคยค้าขายแล้ว แต่ก็ไม่ได้สำเร็จอะไร
งานอิสระ ฟรีแลนส์ ? = ก็ไม่ได้ถนัดอะไรเป็นพิเศษ
สุดท้ายเนื่องจาก 2 คุณสมบัติที่ผมมีคือ ความเป็นเต่าที่อดทน (ความพยายามและความอดทน) ผมจึงได้เลือก การเป็นนักลงทุน
แล้วนอกจากปัจจัยเรื่องความสามารถของตัวผมเองแล้วยังมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ ?
นี่คือคำตอบที่ผมตอบกับตัวผมเองและคิดว่ามันสำคัญมากครับ
ถ้าเกิดวันพรุ่งนี้มีเงินโปรยลงมาจากฟากฟ้าแล้วประชาชนทุกคนบนโลกนี้เก็บได้ในจำนวนที่เท่ากัน จะเกิดอะไรขึ้น ? ความเหลื่อมล้ำจะหายไปไหม ?
เรื่องความเหลื่อมล้ำจะลดลงนั้น คำตอบคือ ไม่มีทาง !
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ?
คำตอบมันง่ายมากคนส่วนใหญ่รู้คำตอบอยู่แล้วในจิตใต้สำนึก แต่ผมอยากให้ทุกคนมองภาพตามผมครับ ให้ลึกลงไปจนเป็นธรรมชาติของชีวิต
หลังจากประชาชนทุกคนตั้งแต่คนธรรมดาไปจนถึงคนฐานะร่ำรวย หรือเจ้าของธุรกิจเก็บเงินได้ สิ่งที่ต้องทำแน่ๆคืออะไรกับเงินนั้น
อาหาร / ไฟฟ้า / น้ำ / เครื่องนุ่งห่ม / โทรศัพท์ / บ้าน / รถ / ยารักษาโรค และอื่นๆ
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะฐานะยากจนหรือร่ำรวยต้องใช้กันถึงจะไม่ครบทุกข้อก็ตาม
สุดท้ายเงินก็ไหลออกจากเราไปสู่เจ้าของธุรกิจหรือภาครัฐอยู่ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จนสุดท้ายวันหนึ่งเงินที่เก็บได้จากฟ้าก็หมดลงอย่างแน่นอน แต่เจ้าของธุรกิจจะร่ำรวยขึ้นต่อไป
เงินชอบอยู่กับคน 2 แบบในคนเดียวกันคือ คนที่ประหยัดและต่อยอดเงินนั้นต่อไป
ทั้งหมดนี้จึงเป็นคำตอบที่ผมมาลงทุนในตลาดหุ้น เพราะอาชีพนักลงทุน นั้นถ้ามองใน ***มุมหนึ่ง*** ก็เป็นอาชีพที่ฉลาดมาก คือ - ไม่ต้องรวยที่สุด แต่สบายที่สุด -
คำว่าสบายไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องตั้งใจศึกษาหาความรู้หรือข้อมูล และไม่ต้องทำอะไรเลยนะครับ
แต่หมายถึง นักลงทุนนั้น ร่ำรวยขึ้น, (แต่ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนเจ้าของกิจการที่ต้องบริหารบริษัทตัวเองให้เติบโตและอยู่รอด) มีเวลาใช้ชีวิตมากกว่าเจ้าของกิจการ, เครียดน้อยกว่า เป็นต้น
เพียงเราลงทุนในกิจการที่เติบโตในราคาที่ถูก กำไรของบริษัทที่ทำได้ก็เป็นเครื่องผลิตเงินจ่ายเป็นเงินปันผลให้เราทุกปี และออกไปใช้ชีวิตที่แสนสั้น ที่มีแค่ไม่เกิน 100 กว่าฝน ให้คุ่มค้าที่สุด ก็เป็นอะไรที่ดีมากแล้วสำหรับผมครับ
คำสุดท้ายที่ผมอยากจะบอกสั้นๆและให้นำไปคิดกันเอง คือ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" ครับ
ขอบคุณและสวัสดีปีใหม่ 2565 ขอให้ทุกคน
มีความสุข / สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ / มีบุญวาสนาที่ดี / มีสติปัญญาที่ดี / มีกัลยาณมิตรที่ดี / มีจังหวะชีวิตที่ดี / เฮงๆ / ตลอดทั้งปีและตลอดไปครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านรวมถึงตัวผมเองด้วยครับ อิอิ
#My Investment Diary บันทึกการลงทุนคนธรรมดาสร้างตัว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา