5 ธ.ค. 2021 เวลา 12:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หนังทำเงินในอเมริกาเหนือ 29-30 พฤศจิกายน: หนังดิสนีย์ ‘Encanto’ คว้าแชมป์สุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าแบบเหงา ๆ ส่วน ‘House of Gucci’ ออกตัวน่าประทับใจ
รายงานหนังทำเงินในอเมริกาเหนือ 29-30 พฤศจิกายน จากวาไรตี้ - ดิสนีย์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับช่วงสุดสัปดาห์ขอบคุณพระเจ้า เมื่อหนังเพลง-แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ ‘Encanto’ เปิดตัวด้วยอันดับ 1 รายได้ 40.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 3,980 จอ นับตั้งแต่วันพุธ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีในยามที่ผู้ชมกลุ่มครอบครัวที่เป็นเป้าหมายของหนัง ยังไม่อยากกลับเข้าโรงหนัง
ถือเป็นธรรมเนียมช่วงเทศกาลอยู่แล้ว ที่ดิสนีย์จะปล่อยหนังครอบครัวในวันขอบคุณพระเจ้า และ ‘Encanto’ แอนิเมชั่นที่ได้รับคำชม ก็แสดงให้เห็นว่า บรรดาพ่อ-แม่เริ่มมีความเชื่อมั่นในการพาลูก ๆ เข้าโรงภาพยนตร์ ซึ่งฮอลลีวูดหวังว่า สถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อบรรดาเด็ก ๆ อายุ 5-12 ปีได้รับวัคซีนมากขึ้น
รายได้ห้าวันของหนังถือว่าห่างจากที่หนังวันขอบคุณพระเจ้าของสตูดิโอเคยทำได้ไม่น้อย โดย ‘Frozen II’ เคยทำรายได้เอาไว้ในปี 2019 - 123.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, ‘Ralph Breaks the Internet’ ทำไว้ 84.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2018 และ ‘Coco’ ทำได้ 71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2017 แต่ ‘Encanto’ ก็เป็นงานแอนิเมชั่นที่เปิดตัวได้ดีที่สุดในช่วงโรคระบาด ที่รายได้ของหนังทำได้ไม่เท่ากับงานเรื่องอื่น ๆ ก็เพราะหนังพุ่งเป้าไปที่ผู้ชมกลุ่มครอบครัว ที่ไม่ง่ายในการขายตั๋ว แต่ถ้าเป็นในช่วงปกติ แอนิเมชั่นคืองานที่มักจะทำงานมากที่สุด หรือหนึ่งในงานที่ทำรายได้มากที่สุด
ถึงวันขอบคุณพระเจ้าปีนี้ ถูกมองว่าน่าจะเงียบเหงามากกว่าหลายปีที่ผ่านมา แต่บรรดาโรงหนังและสตูดิโอก็มีความหวังอยู่บ้าง เมื่อ ’Encanto’ ไม่ใช่หนังเรื่องเดียวที่เก็บเงินได้ หนังดราม่า-อาชญากรรมของเอ็มยีเอ็ม ‘House of Gucci’ ที่ทำเงิน 14.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ และ 21.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการฉาย 3,477 จอ ใน 5 วัน ก็แสดงให้เห็นว่า คนดูหนังผู้ใหญ่ยังมี หนังเปิดตัวด้วยอันดับ 3 แม้จะได้คำวิจารณ์ก้ำกึ่ง ผู้ชมในซีนีมาสกอร์ให้คะแนนหนัง บีบวก และนักวิจารณ์ที่เว็บมะเขือเน่า ให้คะแนน 61%
หนังได้เลดี้กาก้ามาเล่นเป็น แพทรีเซีย เรจจิอานี คนนอกที่ได้แต่งงานเข้ามาอยู่ในอาณาจักรของกุชชี ซึ่งกาก้าถูกมองว่าเป็นหนึ่งแรงขายตั๋ว หนังที่กำกับโดยริดลีย์ สก็อตต์เรื่องนี้ นำเสนอให้เห็นถึงการล่มสลายของครอบครัว ที่อยู่เบื้องหลังตราแฟชันสุดหรู หนังมีอดัม ไดรเวอร์, อัล พาชิโน, จาเร็ด เลโท และซัลมา ฮาเย็ก ร่วมแสดง
“นี่เป็นการเปิดตัวที่ดีมาก ๆ สำหรับหนังดรามา-อาชญากรรม ที่ไม่ใช่งานภาคต่อ” เดวิด เอ. กรอสส์ ผู้บริหารบริษัทให้คำปรึกษาด้านภาพยนตร์ แฟรนไชส์ เอนเทอร์เทนเมนต์ รีเสิร์ช กล่าว “เช่นเดียวกับกลุ่มครอบครัว คนดูหนังผู้ใหญ่เป็นพวกที่ลังเลในการกลับมาดูหนัง”
สำหรับรายได้เปิดตัว ‘House of Gucci’ ทำเงินในสัปดาห์แรกได้มากกว่าหนังสำหรับคนดูกลุ่มผู้ใหญ่เรื่องอื่น ๆ เช่น หนังดรามา-กีฬาของวิลล์ สมิธ ‘King Richard’ (11.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ), หนังรวมดาราว่าด้วยอัศวินยุคกลางของสก็อตต์ ‘The Last Duel’ (10.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และตอนก่อนของ ‘The Sopranos’ - ‘The Many Saints of Newark’ (7.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทำได้ตลอดโปรแกรม มีหนังที่เข้าข่ายพุ่งเป้าไปที่คนดูผู้ใหญ่เรื่องเดียว ที่ขายตั๋วได้มากกว่า แต่หนังก็มาพร้อมสเปเชียล เอ็ฟเฟ็กต์ และฉากแอ็กชั่นมากมาย นั่นก็คือ หนังเจมส์ บอนด์ ‘No Time to Die’ ของเอ็มยีเอ็ม ที่ทำรายได้ในอเมริกาเหนือ 155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และหนังไซ-ไฟของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ‘Dune’ ที่ทำเงินผ่านร้อยล้านไปแล้วแบบฉิวเฉียด ในสุดสัปดาห์นี้ เมื่อทำเงินรวมไปแล้ว 102 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพราะใช้ทุนสร้างถึง 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ‘House of Gucci’ ยังต้องพึ่งรายได้จากต่างประเทศเพื่อให้ได้กำไร หนังเรต-อาร์เรื่องนี้ได้เงินจากการฉายใน 40 ประเทศมาแล้ว 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแหล่งทำเงินอยู่ที่ สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ - 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ,​ฝรั่งเศส 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเม็กซิโก - 1 ล้านเหรีญญสหรัฐฯ
‘Encanto’ เองก็เป็นงานทุนสูง โดยสตูดิโอต้องลงเงินไปถึงกว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยังไม่รวมค่าทำตลาด ทั้ง ‘Encanto’ และ ‘House of Gucci’ ต่างก็ฉายเฉพาะในโรงหนัง ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากการขายตั๋วเต็ม ๆ ผิดจากหนังเรื่องอื่น ๆ ในช่วงโรคระบาด ที่มักจะปล่อยลงสตรีมมิงในวันเดียวกับการเปิดตัวในโรง ซึ่งทำให้ยอดขายตั๋วไม่สวยนัก
หนังที่ได้เพลงจากผู้สร้างสรรค์ละครเพลง ’Hamilton’ ลิน-มานูเอล มิแรนดา ‘Encanto’ น่าจะได้แรงส่งจากปากต่อปาก ส่งอีกแรง เมื่อหนังพูดถึงครอบครัวหนึ่งที่ใช้ชีวิตในหมู่บ้านเวทย์มนต์ ที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาของโคลัมเบีย ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ถึง 92% จากมะเขือเน่า และได้ เอ จากผู้ชมในซีนีมาสกอร์ สำหรับต่างประเทศ ‘Encanto’ เปิดตัวใน 47 ประเทศและทำรายได้ไป 29.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับตั้งแต่วันพุธ หนังแอนิเมชันเรื่องนี้ทำเงินทั่วโลกไปถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนังใหม่อีกเรื่องในโรงก็คือ ‘Resident Evil: Welcome to Raccoon City’ จากโซนี ที่เป็นการรีบูตซีรีส์สยองที่สร้างต่อเนื่องกันมานาน หนังได้เรต-อาร์ และเปิดตัวด้วยอันดับ 5 รายได้ห้าวัน 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่คาดกันไว้ แต่การที่หนังใช้ทุนสร้างแค่ 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หนังคงไม่ต้องออกแรงมากนักเพื่อให้บัญชีไม่ติดตัวแดง
อันดับ 2 เป็นหนังภาคต่อ งานไซ-ไฟ, เบาสมองของโซนี ‘Ghostbusters: Afterlife’ ที่ได้เงินมาอีก 24.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ และรายได้ 5 วันอยู่ที่ 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังฉายมา 10 หนังได้เงินไปแล้ว 87.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าน่าประทับใจ
‘Eternals’ หนังดิสนีย์อีกเรื่องมาเป็นที่ 4 ด้วยรายได้ 7.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสุดสัปดาห์ และ 11.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 5 วัน โดยฉายไป 3,165 จอ นับตั้งแต่เปิดตัวในโรงช่วงต้นเดือนพฤศจิกาฯ หนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลทำเงินไปถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนรายได้ทั่วโลกหนังทำรายได้ถึง 368 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สำหรับกลุ่มหนังอินดี้ งานดรามา/ ก้าวพ้นวัยของพอล โธมัส แอนเดอร์สัน ‘Licorice Pizza’ ทำรายได้ 335,000 เหรีญญสหรัฐฯ จากการเปิดตัวแค่ 4 โรงในนิว ยอร์กและลอส แองเจลีส และทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงถึง 83,852 เหรีญญสหรัฐฯ ต่อจอ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในช่วงโรคระบาด หนังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในซาน ฟรานซิสโกยุค 1970s นำแสดงโดย อลานา ไฮม์ สมาชิกวงไฮม์, คูเพอร์ ฮอฟฟ์แมน (ลูกชายของฟิลลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน), ฌอน เพ็นน์ และแบรดลีย์ คูเพอร์ โดยผู้ชม 72% อายุระหว่าง 18-34 ปี, 66% เป็นชาย หนังเอ็มยีเอ็มและยูไนเท็ด อาร์ทิสต์เรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไป 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแผนจะเพิ่มโรงในช่วงคริสต์มาส
13 หนังตอนแยก ที่แยกออกมาแล้วเยี่ยม "จากหนังภาคต่อหรือหนังเหตุการณ์ก่อนหน้า ในระยะหลังเริ่มมีการสร้างภาพยนตร์ที่เรื่องราวแตกหน่อต่อยอดออกไป ซึ่งถูกเรียกว่าหนังตอนแยก ที่หลาย ๆ เรื่องประสบความสำเร็จ หรือได้รับคำชื่นชมไม่แพ้หนังหลักเลย และนี่คือหนังตอนแยก 13 เรื่องเยี่ยมที่คุณไม่ควรพลาดชม > https://bit.ly/3oJX8bA
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา