Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ChristianThai
•
ติดตาม
7 ธ.ค. 2021 เวลา 14:30 • การศึกษา
ราชาแห่งความรอด
ที่มาของวันคริสต์มาส
เมื่อพูดถึงเทศกาลของประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้ นับว่ามีหลายเทศกาลด้วยกัน แต่มีอยู่ 2 เทศกาลที่คนทั่วโลกทำการฉลองพร้อมกัน นั่นก็คือ
เทศกาลปีใหม่ และ
เทศกาลคริสต์มาส
ซึ่งเทศกาลปีใหม่นั้นทุกคนคงรู้จักดี แต่ในที่นี้จะพูดถึงเทศกาลคริสต์มาสว่ามีความหมายอะไร? และเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?..
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเทศกาลคริสต์มาสเป็นวันฉลองปีใหม่ของฝรั่งเป็นเทศกาลที่สนุกสนานมี ซานตาครอสมีต้นคริสต์มาส มีการให้ของขวัญ มีบทเพลงไพเราะ ฯลฯ
แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนกับกระดาษห่อของขวัญที่สวยงามเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่กระดาษห่อ แต่อยู่ที่ของขวัญชิ้นนั้นต่างหาก ถ้ามีคนหนึ่งได้รับของขวัญ แล้วเอาแต่ชื่นชมกับกระดาษห่อ โดยที่ไม่ยอมแกะกระดาษที่ห่อออกมาดูว่าข้างในคืออะไร ก็คงเป็นเรื่องที่น่าแปลกไม่น้อย
แล้วของขวัญที่เป็นเนื้อแท้ของวันคริสต์มาสคืออะไร? ซึ่งถ้าเราอยากรู้ความหมายของวันคริสตมาสว่าคืออะไรนั้น เราก็สามารถดูได้จากคำว่า CHRISTMAS ในภาษาอังกฤษ ซึ่งคำนี้มาจาก 2 คำประสมกัน คือ คำว่า CHRIST และคำว่า MASS
คำว่า CHRIST แปลว่า “ผู้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์” ส่วนคำว่า MASS หมายถึง “การประชุม” ดังนั้นCHRISTMAS จึงแปลว่า “การประชุมเพื่อระลึกถึงผู้ที่ได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์”
ซึ่งผู้ที่ได้รับการเจิมผู้นั้นก็คือ
องค์พระเยซูคริสต์
ผู้ซึ่งเป็นเนื้อแท้ของขวัญที่แท้จริงของวันคริสต์มาสนั่นเอง เพราะฉะนั้นวันคริสต์มาสจึงเป็นวันที่ระลึกถึงการที่พระเจ้าทรงให้พระเยซูคริสต์มาบังเกิดในโลกนี้
อะไรคือจุดประสงค์ของพระเยซูคริสต์ในการเข้ามาในโลกนี้?เป็นความบังเอิญที่ลงตัว ที่อักษรของไทยที่มาประสมกันเป็นคำว่า คริสต์มาส นั้น ได้บอกจุดประสงค์ของการที่พระเยซูคริสต์ได้มาบังเกิดในโลกอย่างชัดเจน คือ
คริสต์มาส
ค หมายถึง ความ
ร หมายถึง รอด
ส หมายถึง ส่ง
ต หมายถึง ตรง
ม หมายถึง มา
ส หมายถึง จากสวรรค์
เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาในโลกก็เพื่อที่จะนำความรอดที่ส่งตรงมาจากสวรรค์มาให้แก่มนุษย์นั่นเอง
พระเยซูคริสต์เกี่ยวข้องกับท่านอย่างไร
บางทีท่านอาจมีความสงสัยว่า แล้วการมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์นั้นเกี่ยวข้องกับชีวิตของฉันอย่างไร
เราก็ต้องย้อนกลับไปดูถึงที่มาของชีวิตมนุษย์เราว่ามาจากไหนในคริสตธรรมคัมภีร์ซึ่งเป็นถ้อยคำที่เปิดเผยความจริงที่มาจากพระเจ้าได้บันทึกไว้ว่า
มนุษย์เรานั้นไม่ได้เกิดขึ้นเองแต่พระเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมา ซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้างทุกสิ่งในโลก แต่ได้ทรงสร้างมนุษย์ขี้น มาอย่างพิเศษกว่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ นั่นก็คือ ทรงให้มนุษย์มีจิตวิญญาณที่สามารถมีสัมพันธภาพกับพระองค์ให้มนุษย์มีความคิดมีสติปัญญาและมีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี
ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงรู้ดีว่าสิ่งไหนควรทำหรือสิ่งไหนไม่ควรทำ ซึ่งพระเจ้าก็ทรงให้มนุษย์มีอิสระในการเลือกหรือตัดสินใจได้เอง แต่มนุษย์ก็จะต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง แต่เราจะเห็นว่ามนุษย์เรามักจะทำในสิ่งที่เรารู้ดีแก่ใจว่าไม่สมควรทำอยู่เสมอ
เคยมีการสำรวจพฤติกรรมของคนเรา พบว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับว่าเคยลาป่วยโดยมิได้ป่วย และมีคนจำนวนมากยอมรับว่าโกหกเป็นประจำ นอกจากนั้นก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เคยเอาของของคนอื่นมาเป็นของตน
และถ้าเราหันกลับมามองดูตัวเราเอง ก็ต้องยอมรับว่า ตลอดชีวิตของเราที่ผ่านมานั้น เราได้ทำหลายสิ่งที่ไม่ดีจนนับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเป็นการนินทา ซึ่งเรารู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่เราก็ชอบนินทา
เรารู้ว่าโลภไม่ดี แต่เราก็โลภ
เรารู้ว่าพูดคำหยาบไม่ดี แต่เราก็พูด
เรารู้ว่าทำให้พ่อแม่เสียใจไม่ดี แต่เราก็ทำให้ท่านต้องร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้ง
และยังมีการกระทำอีกหลายอย่างที่เรารู้ว่าไม่ดี แต่เราก็ตัดสินใจที่จะทำสิ่งเหล่านั้น
ซึ่งนี่เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เราเห็นว่า มนุษย์เราทุกคนล้วนเป็นคนบาปทั้งสิ้น และหลายครั้งเราก็พยายามที่จะต่อสู้กับความบาปเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้เลย
บางครั้งเมื่อเราทำแล้ว เราก็รู้สึกผิด รู้สึกละอายใจ และอยากได้รับการยกโทษ แต่เรากลัวคนจะตำหนิ กลัวคนอื่นจะว่าเราใช้ไม่ได้
ดังนั้นเราจึงเก็บซ่อนความผิดบาปของเราไว้และสะสมความบาปเหล่านั้นอยู่ในชีวิตอย่างมากมาย และลึก ๆ ในใจของมนุษย์ต่างรู้ดีว่า หลังจากที่จากโลกนี้ไปแล้วก็จะต้องรับการลงโทษในความผิดที่ตนเองได้กระทำลงไปซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
เพราะพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บันทึกว่า หลังจากที่มนุษย์จากโลกนี้ไปแล้ว เขาก็จะต้องรับการพิพากษาโทษบาปจากพระเจ้าตามการกระทำของแต่ละคน และบทลงโทษก็คือ ต้องอยู่ในบึงไฟนรกเป็นนิจนิรันดร์
แต่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ที่พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้นมา พระองค์ทรงเข้าใจถึงความอ่อนแอของมนุษย์และทรงทราบว่ามนุษย์ทุกคนต่างใช้อิสระในการตัดสินใจของตนเองในทางที่ผิด จึงต้องรับโทษเช่นนั้น แต่พระองค์ไม่อยากให้มนุษย์เราตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เลย พระองค์อยากช่วยมนุษย์ให้พ้นโทษ เพื่อจะไม่ต้องทนทุกข์ในนรก
ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงจัดเตรียมหนทางในการช่วยมนุษย์ให้รอดจากบาป โดยทรงกำหนดว่า ถ้ามนุษย์จะรอดจากการพิพากษาโทษบาปได้ ก็จะต้องมีผู้หนึ่งมารับโทษแทนเขา ซึ่งผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีบาปเลย แต่พระองค์ทรงทราบว่า มนุษย์ในโลกล้วนแต่เป็นคนบาปทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องรับโทษบาปของตนเอง จึงไม่สามารถเป็นผู้รับโทษบาปแทนคนอื่นได้
ดังนั้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว พระองค์จึงได้ส่งพระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ให้มาบังเกิดเพื่อรับสภาพเป็นมนุษย์ในโลกนี้ก็เพื่อที่จะใช้ร่างกายของพระองค์ที่ปราศจากบาปนั้น มารับการลงโทษแทนมนุษย์
ในพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่าขณะที่พระเยซูทรงอยู่ในโลกนี้ พระองค์ไม่เคยทำบาปแม้แต่น้อยและไม่มีใครสามารถเอาผิดพระองค์ได้เลย แต่การที่พระองค์ทรงยอมถูกตรึงจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนั้นก็เพื่อเป็นการไถ่โทษความผิดบาปให้แก่มนุษย์ ซึ่งหลังจากที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว ในวันที่ 3 พระองค์ก็ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตาย และยังทรงพระชนม์อยู่จนถึงทุกวันนี้และตลอดไปเป็นนิตย์
ผู้อ่านที่รัก แท้จริงแล้วพระเยซูคริสต์ไม่จำเป็นจะต้องเสด็จเข้ามาในโลกนี้เลย ถ้ามนุษย์เราไม่เคยทำความผิดบาป หรือถ้ามนุษย์เรามีกำลังในการต่อสู้กับความบาปและเอาชนะบาปได้ พระเยซูคริสต์ก็ไม่จำเป็นต้องมา และที่สำคัญก็คือ ถ้ามนุษย์เราสามารถช่วยตนเองให้พ้นจากความผิดบาปได้ พระเยซูคริสต์ก็ไม่จำเป็นต้องมา แต่เพราะเหตุที่มนุษย์เราไม่สามารถทำได้
ดังนั้นพระเยซูคริสต์จึงต้องมาเป็นผู้ช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดจากบาปของเขา ซึ่งการที่พระองค์ทรงยอมรับความเจ็บปวดจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ก็เพราะความรักที่พระองค์ทรงมีต่อมนุษย์เรานั่นเองมาถึงตรงนี้บางคนอาจมีคำถามว่า “พระเจ้าทรงทราบล่วงหน้าไหมว่ามนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมานั้นจะทำบาป” คำตอบก็คือพระองค์ทรงทราบอย่างแน่นอน “ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมพระองค์ยังจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาอีกล่ะ?”
ถ้าเราไปถามคนที่กำลังจะเป็นคุณแม่ (ที่กำลังตั้งครรภ์) ว่า “คุณผู้หญิงครับ! ขอถามหน่อยเถิดว่า คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ลูกของคุณที่กำลังจะคลอดออกมานั้น ในอนาคตเขาอาจจะดื้อไม่ฟังคุณ หรือบางที่อาจจะเถียงคุณ หรือทำให้คุณเสียใจ”
“เป็นไปได้ค่ะ!” เธอตอบ “ในเมื่อคุณรู้ว่าลูกของคุณอาจจะเป็นอย่างนั้น แล้วทำไมคุณยังจะให้กำเนิดเขาออกมาอีกล่ะครับ?”… “ก็เพราะว่ารักและอยากมีเขา ถึงแม้รู้ว่าลูกจะต้องทำผิด แต่ดิฉันผู้เป็นแม่ก็พร้อมที่จะให้อภัยแก่ลูกเสมอ”...นี่เป็นคำตอบของคุณแม่ที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อลูก...
ผู้อ่านที่รัก ความรอดที่พระเยซูคริสต์ทรงประทานให้แก่มวลมนุษย์นั้น พระองค์ทรงให้ฟรี ๆ (โดยที่มนุษย์เราไม่ต้องทำอะไรเลยเพื่อที่จะได้รับความรอดจากพระองค์)
แต่ถึงแม้จะฟรี พระองค์ก็ทรงประทานให้เฉพาะผู้ที่ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์เท่านั้น ถ้าวันนี้ท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการรับการอภัยโทษบาปจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างชีวิตของท่าน ก็ขอให้ท่านเปิดใจของท่านต้อนรับพระเยซูคริสต์ผู้เป็นราชาแห่งความรอดเดี๋ยวนี้เถิดพระองค์พร้อมแล้วที่จะรับโทษบาปและประทานความรอดให้แก่ท่าน ถ้าท่านปรารถนาที่จะได้รับความรอดที่มาจากพระเจ้า ขอให้ท่านอธิษฐานทูลต่อพระองค์ดังนี้
“ข้าแต่พระเยซูคริสต์ ข้าพระองค์ขอยอมรับว่าข้าพระองค์เป็นคนบาปและได้เก็บซ่อนความบาปไว้มากมาย ข้าพระองค์รู้ดีว่าไม่สามารถปิดซ่อนบาปเหล่านั้นให้พ้นจากพระองค์ได้ ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตายกโทษความผิดบาปให้แก่พระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์ขอเปิดใจต้อนรับพระเยซูคริสต์ให้เป็นพระผู้ช่วยข้าพระองค์ให้รอดจากบาปตั้งแต่บัดนี้ ขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้าอาเมน”
ถ้าท่านได้อธิษฐานทูลต่อพระองค์ด้วยใจจริงแล้วขอให้ท่านมั่นใจเถิดว่า พระเจ้าได้ทรงอภัยโทษบาปให้แก่ท่านแล้วอย่างสิ้นเชิง ท่านจึงรอดพ้นจากการพิพากษาแล้วอย่างแน่นอน และพระองค์จะทรงให้ท่านได้อยู่ในสวรรค์กับพระองค์ตลอดไปเป็นนิจนิรันดร์
ผู้เขียน : อาจารย์นิกร สิทธิจริยาภรณ์
4 คำถาม ที่น่าประหลาดใจในวันคริสต์มาส
https://www.blockdit.com/posts/618e83d424fe4e0ec05ed304
คริสต์มาสนี้มีความหมาย
https://www.blockdit.com/posts/61926c3cde34c92ade4ca35a
สารบัญ Blockdit christianthai
https://www.blockdit.com/posts/62bc6a5483c9c7afe1978688
ซีรีส์ หนังสือเสียงคริสเตียน
https://www.blockdit.com/series/6494669e4e915381ad23f92e
ซีรีส์ แบ่งปันข้อพระคัมภีร์โดย ChatGPT
https://www.blockdit.com/series/6442a9778df4b54742d64a3f
ซีรีส์ ใบปลิวคริสเตียน
https://www.blockdit.com/series/6443f153175a891238f59001
ความรู้รอบตัว
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ใบปลิวคริสเตียน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย