10 ธ.ค. 2021 เวลา 05:00 • ข่าวรอบโลก
โจเซฟีน เบเกอร์ วีรสตรีต่อต้านนาซีและเผ่าสายรุ้งของเธอ
หากชอบบทความ อย่าลืมกดติดตามเพจ “เล่าฝรั่งเศส” นะคะ คุณโจเซฟีนไม่ได้กล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว โจเซฟีน เบเกอร์ นักแสดงผิวดำ ได้รับเกียรติสูงสุดจากประเทศฝรั่งเศสในการนำร่างของเธอเข้าไปฝังที่สุสานในปองเตอง (Panthéon) กรุงปารีส ที่ซึ่งฝังร่างเฉพาะวีรบุรุษและวีรสตรี ปูชนียบุคคลที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส
ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ในอดีต มีบุคคลสำคัญที่ได้รับการฝังในนี้ เช่น ปิแยร์ และ มารี คูรี, หลุยส์ ไบรย์ (ผู้คิดค้นอักษรเบรลล์)
กระบวนการคัดเลือกบุคคลสำคัญเข้าสู่ปองเตอง จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐบาล รวมไปถึงประชาชน
โจเซฟีน เบเกอร์ (เกิดในปี ค.ศ. 1906 เสียชีวิตในปี 1975)
เกิดที่เซนต์ หลุยส์ มิสซูรี ประเทศอเมริกา เธอถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี
หลังจากชีวิตการแต่งงานสองครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ เธอก็เดินทางมาปารีสพร้อมเพื่อนในคณะละครเมื่ออายุ 19 ปี และตกหลุมรักเมืองปารีสตั้งแต่นั้น
เธอเป็นนักเต้นแนวเซ็กซี่ แบบที่เรียกว่า burlesque ประจำโรงละครช็องเซลีเซ ใจกลางกรุงปารีส โด่งดังในปี 1925 เธอแต่งกายบนเวทีแบบโชว์เนื้อหนัง เปลือยอก (แต่มีสร้อยบังนิดหน่อย) สวมเพียงกระโปรงสั้น
ด้วยสีผิว สเน่ห์และการเต้นที่คล่องแคล่ว รวมไปถึงการตีมการแสดงที่ยึดโยงไปกับแนวคิดอาณานิคม ทำให้ผู้คนฮือฮาและพากันเข้ามาดูโชว์ของเธอ
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ยุคแจ๊ส ผู้คนยังมีความอนุรักษ์นิยม รวมทั้งการที่โจเซฟีน เบเกอร์เป็นสาวผิวดำและใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการบังคับของผู้จัดการโรงละครเพื่อสร้างกระแส)
ทำให้สื่อแนวอนุรักษ์นิยมเขียนบทความโจมตีเธอต่างๆ ในปี 1934 เช่นว่า “ชั่วช้าเลวทราม” “คนดีๆย่อมไม่ไปดูโชว์ของเบเกอร์”
เบเกอร์ผ่านความลำบากในชีวิตหลายอย่าง ถูกบังคับให้เลิกเรียนหนังสือ เพื่อมาทำงานเป็นสาวใช้หาเลี้ยงครอบครัว ถูกบังคับแต่งงานเพื่อหนีจากความยากจน ก่อนจะได้มาเริ่มชีวิตใหม่ที่ปารีส
เธอได้แสดงทั้งในโรงละครชื่อดัง โฟลี แบร์แชร์ ในย่านมงมาตร์ แสดงในคาสิโนกรุงปารีส เป็นนักร้องและนักแสดงดีว่า
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอยังเป็นนาตาชา (=รับบทสายลับสาวสองหน้า) เพื่อล้วงข้อมูลจากฝ่ายนาซีมาให้ฝ่ายสัมพันธมิตร จนสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย
ก่อนที่จะมีแองเจลินา โจลี โจเซฟีน เบเกอร์ และสามีชาวฝรั่งเศสรับอุปการะเด็ก 12 คนจากหลากหลายประเทศเป็นลูก นับเป็นเด็กเผ่าเดียวกับเธอ
เธอเรียกพวกเขาว่า “เผ่าสีรุ้งของฉัน” (my rainbow tribe) และกล่าวอีกว่า “มนุษย์มีแค่ชาติพันธุ์เดียวเท่านั้น”
จากการแต่งงานกับสามีชาวฝรั่งเศส เธอจึงกลายเป็นคนฝรั่งเศส
และด้วยภารกิจด้านมนุษยชน เธอจึงกลายเป็นคนฝรั่งเศสที่ช่วยเหลือสังคมและได้รับเกียรติจากประเทศให้เข้าไปฝังที่ปองเตองเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีพิธีการอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้เกียรติสุภาพสตรีคนนี้
มีการนำชื่อเธอไปตั้งชื่อสถานที่ต่างๆในปารีส เพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา