8 ธ.ค. 2021 เวลา 03:52 • หนังสือ
✴️ บทที่ 7️⃣ ด้วยรักและเมตตา ✴️ (ตอนที่ 2)
◾ให้โดยไม่คาดหวังอะไรตอบแทน◾
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
เราทั้งหลายมักจะชอบร้องขอรางวัลตอบแทนอยู่ร่ำไป ขอรางวัลกับคำยืนยันว่าเราทำดีแล้ว...ทั้งที่รางวัลไม่มีหรอก รางวัลที่เราอยากได้จริงๆ เพราะตัวรางวัลอยู่ในการได้ลงมือทำนั่นเอง แต่จะเป็นการทำโดยไร้ความคาดหวังว่าจะได้สิ่งใดมาทั้งสิ้น...เป็นการทำโดยไร้ความเห็นแก่ตัวอย่างสิ้นเชิง
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
ภรรยาผมเองแหละครับที่เป็นคนสอนบทเรียนยิ่งใหญ่ให้ผมรู้จักว่ารักคืออะไร เธอสนับสนุนช่วยเหลือผมทุกอย่างอยู่หลังเงามืด โดยไม่เคยคิดแม้แต่จะใฝ่หาแสงส่อง ทั้งยังช่วยจนแน่ใจว่าแสงสปอตไลท์ซึ่งก็มักจะส่องฉายมาที่ผมตลอดนั้นจะไม่หันไปที่เธอ เธอเฝ้าทำงานทุกอย่างอยู่หลังฉากอย่างเงียบๆ และทำด้วยมือเธอเองโดยไม่เคยร้องขออะไรจากผมเป็นการตอบแทนแม้สักครั้ง เธอได้แต่เฝ้ามองอย่างอดทนอดกลั้นยามที่คนอื่นๆ รอบกายดึงเอาเวลาและพลังกายใจของผมไปหมด ซึ่งเหมือนขโมยตัวผมไปจากเธอ เพราะว่าแท้จริงแล้วผมควรจะได้อยู่ใกล้ชิดดูแลเธอมากกว่านี้ แต่...เธอเข้าใจผมตลอดมา
ในบางครา เธอก็จะพูดกับผมด้วยน้ำเสียงกระเซ้าตามแบบของเธอว่าเธอรักผมมากกว่าที่ผมรักเธอเสียอีก ผมมักจะตอบไปทุกครั้งเลยว่าเปล่านะ ผมรักเธอมาก มากเท่ากับที่เธอรักผมนั่นแหละ
แต่ในใจผมเชื่อว่าเธอพูดถูกครับ เธอรักผมมากกว่าผมรักเธอจริงๆ ด้วยว่าแม้ผมจะรักเธออย่างมากมายสุดหัวใจเพียงใด เธอรู้ว่าความรักคืออะไรมากกว่าที่ผมรู้แน่นอน เธอรู้ดีว่า #รักอย่างไร จึงจะรักอีกฝ่ายได้มากกว่า
ผมทำได้แค่สัญญากับเธอว่า ผมจะเรียนรู้และผมจะทำความเข้าใจครับ
. . .
◾ เมตตาธรรม ◾
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยไว้ว่า “มนุษย์คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราเรียกว่าจักรวาล เป็นส่วนที่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่และเวลา (𝘁𝗶𝗺𝗲 & 𝘀𝗽𝗮𝗰𝗲) คนคนหนึ่งคิดว่า...รู้สึกว่า...และมีประสบการณ์ว่า...ตัวของเขาแยกขาดออกจากสรรพสิ่งอื่น การเห็นอย่างนี้เกิดจากจิตสำนึกที่มันพรางตาหรือลวงตาเราให้เห็นผิดจากความเป็นจริง (𝗼𝗽𝘁𝗶𝗰𝗮𝗹 𝗶𝗹𝗹𝘂𝘀𝗶𝗼𝗻) ภาพลวงตาจนเห็นผิดนี้เองคือคุกที่ขังเรา เป็นคุกที่คอยตีกรอบเราให้รู้จักแต่ความปรารถนาส่วนตนและให้ความรักความชอบใจแก่คนเพียงไม่กี่คนที่อยู่ใกล้ตัวเท่านั้น ภารกิจของมนุษย์คือการปลดปล่อยตัวเองออกจากคุกไปสู่อิสรภาพ★ แผ่ขยายวัฏจักรแห่งรักและเมตตาให้กว้างไกล แล้วโอบกอดสรรพสิ่งอันมี ชีวิตทั้งหลาย กอดธรรมชาติทั้งมวลไว้ในอ้อมแขนโดยแท้จริง”
★ นี่คือ 𝗺𝗮𝗶𝗻 𝗰𝗼𝗻𝗰𝗲𝗽𝘁 ของหนัง 𝗦𝗰𝗶-𝗳𝗶 𝗠𝗲𝘀𝘀𝗶𝗮𝗵 เรื่อง 𝗧𝗵𝗲 𝗠𝗮𝘁𝗿𝗶𝘅 ซึ่งประสบความสำเร็จท่วมท้นในการส่งสารนี้ต่อผู้ชม : ผู้แปล
สิงหาคม ปี 𝟭𝟵𝟵𝟲 ผมไปเยือนประเทศบราซิลเป็นครั้งแรก ท่ามกลางช่วงเวลาที่ได้อยู่ในหมู่ผู้คนที่น่าตื่นใจ กลางทิวทัศน์ชวนพิศวงของแผ่นดินแห่งจิตวิญญาณ ผมก็ได้พบได้รู้จักกับเฮรัลโด้ เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือของผมในบราซิล
ในคำนำพิเศษที่ผมตีพิมพ์ในหนังสือ 𝗧𝗵𝗿𝗼𝘂𝗴𝗵 𝗧𝗶𝗺𝗲 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝗛𝗲𝗮𝗹𝗶𝗻𝗴 ซึ่งตอนนั้นกำลังวางขายอยู่ในบราซิล ผมเขียนข้อความดังต่อไปนี้ถึงเฮรัลโด้ด้วยว่าเขาเองที่เป็นคนแสดงให้ผมเห็นจริยธรรมแห่งรักกับตาด้วยการลงมือทำ
“หนึ่งในความทรงจำที่ผมรักมากที่สุดเกี่ยวกับบราซิลคือใบหน้าของเด็กหญิงคนหนึ่ง เธอวัยแค่ 𝟭𝟮 ขวบ แต่ผมก็มองเห็นแววตาที่สดใสเป็นประกาย ได้ยินเสียงหัวเราะเบิกบานเต็มที่ของเธอยามที่เด็กหญิงและเพื่อนๆเดินผ่านผมไปที่ ‘บ้านงาน’ ”
“เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือของผม เฮรัลโด้ ฮอร์ดาโอ้ เปรีเอร่า ผู้ชายจิตใจงามคนนี้เป็นคนพาผมไปเจอสถานที่แสนพิเศษแห่งนี้เอง เขากับภรรยาชื่อเรจีน่าเป็นคนวิ่งเต้นในการเปิดและดำเนินโครงการที่ช่วยเด็กหญิงด้อยโอกาสในเขตสลัมของริโอ เดอ จานิโร เด็กหญิงเหล่านั้นจะมายังศูนย์ที่มีอาคารเล็กๆอยู่ไม่กี่หลัง มาเรียนทักษะการฝีมือต่างๆ อย่างเย็บผ้า พิมพ์ดีด ทำผมทำเล็บต่างๆ เด็กๆมารวมตัวช่วยเหลือกัน ความรู้สึกว่าตัวเองมีค่าเพิ่มพูนขึ้น พวกเธอเรียนจนเชี่ยวชาญการฝีมือที่มีประโยชน์และขายได้ในตลาดงาน ความสุขความชื่นใจของเธอฉายชัดออกมายามที่เธอทั้งหลายโชว์ฝีมือให้ผมดูว่าเก่งขนาดนี้แล้วนะ”
“พลังในศูนย์และจากหมู่มวลเด็กๆจับหัวใจผมมาก และเฮรัลโด้ที่เป็นคนพาผมไปดูศูนย์ในวันนั้นก็เป็นตัวอย่างให้ผมได้เห็นจิตวิญญาณแห่งบราซิลจริงๆ นี่คือผู้ชายที่เก่งกาจภูมิฐานยิ่ง เป็นผู้ที่มีแต่ให้อย่างมากมาย ให้ด้วยความรู้สึกอยากให้อย่างสุดหัวใจแก่บ้านเกิดเมืองนอนและเพื่อนร่วมชาติ...”
✨ “นี่เองครับคือเหตุว่าทำไมเราถึงลงมาเกิดที่นี่ บนโลกมนุษย์ใบนี้ ก็เพื่อจะได้เรียนรู้การยื่นมือไปหาเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยรักด้วยเมตตาโดยไม่พะวงนำพาว่าแล้วตัวเราล่ะจะได้อะไร ยามผมได้เห็นสีหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความร่าเริงและความรักของเด็กหญิงน้อยๆทั้งหลาย ผมก็รู้ดีว่า เฮรัลโด้กับบราซิลทำสำเร็จแล้ว” ✨
ผมเคยฝันเห็นเมตตาธรรมและความร่วมแรงร่วมใจในสังคมของเราอยู่ครั้งหนึ่ง ในฝันผมเห็นบ้านเรือนและผู้คนในหมู่บ้านอุดมคติแห่งหนึ่ง ตัวผมรู้สึกในฝันเลยว่าคนในหมู่บ้านอุทิศตัวเองรับผิดชอบต่อสังคมที่พวกเขาอยู่ และช่วยเหลือเพื่อนบ้านจริงๆ นี่แหละครับคือสิ่งที่สร้างชุมชนตัวจริงขึ้นมาได้ นี่เองคือสิ่งที่จะมาช่วยเปลี่ยนแปลงชุมชนมนุษย์ของเราให้กลายเป็นทิพยวิมานได้ นี่แหละคือวิถีที่โลกนี้ประสงค์จะให้เป็น
เมื่อเราลืมหรือไม่รู้ตัว คนก็จะดิ้นรนแต่แสวงหาอำนาจ หาความร่ำรวย หาชื่อเสียงความโด่งดัง หาอภิสิทธิ์ให้กับตัวเองถ่ายเดียว หากไม่มีเมตตาธรรมต่อกัน ไม่มีความร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเสียแล้ว การปกครองแบบแบ่งแยกชนชั้นก็ยังจะคงอยู่ แล้วเราก็ยังจะตกเป็นทาสความเหลื่อมล้ำของชั้นวรรณะกันอยู่ไม่จบสิ้น
การรู้จักเมตตาต่อกัน รู้จักช่วยเหลือกันคนละไม้ละมือ อาทรต่อเพื่อนบ้านและการรับผิดชอบต่อชุมชนถิ่นที่อยู่ไม่ได้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจแม้แต่น้อย คุณสมบัติอย่างนี้เป็นเรื่องของหัวใจที่จะมาออกกฎข้อบังคับหรือวางบทลงโทษไม่ได้จากนอกกายเรา มันต้องเรียนรู้จากข้างในตัวเองสถานเดียว
และด้วยเหตุนี้เอง มันจึงไม่สำคัญตรงไหนเลยว่าชนชาติหนึ่งหรือชุมชนหนึ่งจะวางกฎระเบียบทางเศรษฐศาสตร์หรือการเมืองเก่งหรือไม่ เพราะผลไม้จากพรสวรรค์ของพวกเรา จากน้ำพักน้ำแรงที่ลงไปของเราจะพึงแจกจ่ายแบ่งปันกันให้ถ้วนทั่วสังคม ให้ต่อๆกันทั่วหลังจากเราเก็บส่วนที่เราต้องใช้เลี้ยงดูครอบครัวเราแล้ว ก็แจกจ่ายให้ไปด้วยจิตใจที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาและปรานีแก่ผู้อื่น ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นเมตตาของมนุษย์แต่ละชีวิต นี่แหละที่เป็นตัวแจกจ่ายผลิตผลที่เขาหรือเธอลงแรงสร้างมากับมือ ไม่ใช่แจกจ่ายด้วยระบบแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจข้อไหนเลย★
★ สารธรรมอันงดงามของ ดร.ไวส์ ข้อนี้ต้องตรงกับปัญหาบ้านเมืองไทยในเวลานี้อย่างยิ่ง และต้องตรงกับพระดำริในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราเลย คือการแก้ปัญหาด้วยหลักการทางเศรษฐศาสตร์ เป็นเพียงกฎระเบียบนอกกาย การแก้ไขที่แท้ต้องแก้ที่หัวใจ...หัวใจของผู้ปกครองบ้านเมืองก่อนสำคัญที่สุด และการกู้ระบบเศรษฐกิจที่ล่มสลาย คือการสอนให้ประชาชนคนไทยรู้จัก “แบ่งปัน” กัน ทุกคนก็จะร่ำรวยขึ้นทุกฝ่ายได้อย่างแน่นอน แล้วไทยก็จะพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ : ผู้แปล
🌟 เราได้รับมาแล้วเราก็ให้ไป แล้วเมื่อให้ไปเราก็จะได้จากผู้อื่นกลับมาเช่นกัน ความสุขความชื่นใจสถิตอยู่ในภาวะสมดุลต่อกันระหว่างการให้และการรับ 🌟
ยามที่สังคมของเราร่วมแรงช่วยเหลือกันและรักเมตตาต่อกัน ยามที่คนในสังคมรู้จักรับผิดชอบและมีจิตใจปรานีแก่กัน เมื่อนั้นแหละที่พวกเราจะช่วยกันสร้างแม้เพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งของสรวงสวรรค์ให้เกิดได้อีกครั้งบนโลกมนุษย์
(จบ — บทที่ 7)
โฆษณา