เรื่อง : ความลับที่ถูกเก็บไว้ในถังเหล็กนานถึง30ปี
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดยประมาณ : 10นาที
Part 1 : เกริ่นนำ
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่งในเขต Long Island รัฐ New York ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่บ้านแห่งนี้มีถังเหล็กอายุเก่าแก่กว่า30ปี เก็บซ่อนอยู่ในห้องใต้ดิน โดยต่อมาถังเหล็กใบนี้ได้ถูกเปิดออกโดยเจ้าของบ้านรุ่นที่4 และแล้วความลับที่น่าสะพรึงก็ได้ปรากฏขึ้น
Part 2 : เริ่มเรื่อง
ในปี 1999 เจ้าของบ้านหลังหนึ่งในเขต Nessau ของ Long Island ที่มีชื่อว่า Cohen ซึ่งเขาได้อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้มาเป็นเวลา 9ปีแล้ว มีอยู่วันหนึ่งเขาได้คิดถึงแผนที่จะย้ายออกจาก Long Island และในขณะที่เขากำลังขนของเพื่อที่จะทำการย้ายบ้าน เขาได้พบเข้ากับถังเหล็กใบหนึ่งโดยบังเอิญ และสิ่งที่เขาพบในถังเหล็กนั้นก็ทำให้เขาลืมมันไม่ลงไปตลอดชีวิต
ในวันที่ 2 กันยายน 1999 Cohen ซึ่งต้องการจะย้ายบ้านได้ว่าจ้างคนงานมาช่วยขนของหลายคน พวกเขาได้ขับรถบรรทุกมาที่บ้านของ Cohen และเริ่มขนย้ายเฟอร์นิเจอร์และของต่างๆที่ต้องการทิ้งออกมาจากตัวบ้าน หนึ่งในคนงานรับจ้างขนของได้ไปพบเข้ากับถังเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ในชั้นใต้ดินของบ้าน ซึ่งพื้นผิวของถังเต็มไปด้วยสนิม สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเก็บมาหลายปีแล้ว เหล่าคนงานได้ช่วยกันยกถังเหล็กที่มีน้ำหนักมากกว่า100กิโลกรัมนี้ขึ้นมาขึ้นมาไว้ที่หน้าบ้านของ Cohen และบอกกับทาง Cohen ว่าถังนี้มีน้ำหนักมากเกินไปจนไม่สามารถขนขึ้นรถบรรทุกได้ และขอให้ Cohenจัดการกับถังเหล็กใบนี้ด้วยตัวเอง
บ้านหลังดังกล่าว
Cohen ได้นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อ 9ปีก่อน ซึ่งเขาจำได้ว่าถังเหล็กใบนี้ก็ได้อยู่ที่ห้องใต้ดินอยู่ก่อนแล้ว ตัวเขานั้นอยากรู้มากว่ามีอะไรในถังเหล็ก เขาจึงได้เอาชะแลงมาพยายามเปิดฝาถังเหล็กออก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สามารถงัดฝาถังออกมาเป็นช่องเล็กๆได้สำเร็จ โดยทันทีที่ฝาถังถูกงัดออกก็มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา Cohen อดทนกับกลิ่นเหม็นนั้นและเปิดฝาถังออกมาทั้งหมดจนได้ เขาพบว่าด้านในของถังเหล็กมีวัตถุสีดำเต็มไปหมด แต่เขาไม่รุ้ว่าข้างในมันมีอะไร จากนั้นเขาจึงจ้องมองอย่างละเอียดและได้พบกับรองเท้า1ข้าง ข้างๆร้องเท้านั้นยังมีแขนของมนุษย์อีก1ข้าง เขาตกใจมากจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านและโทรแจ้งตำรวจ
Part 3 : เริ่มการสืบสวน
หลังจากที่ตำรวจได้รับสายของ Cohen แล้วก็ได้รุจหน้าไปยังที่เกิดเหตุทันที ตำรวจได้เริ่มตรวจสอบถังเหล็กนั้น โดยเบื่องต้นพวกเขาสันนิฐานว่ามีศพอยู่ในถังเหล็ก และเพื่อไม่ให้เป็นการทำลายหลักฐาน พวกเขาจึงได้นำถังเหล็กกลับไปไว้ที่ห้องปฏิบัติการ ถังเหล็กนี้มีความจุ 55 แกลอน น้ำหนัก 160 กิโลกรัม ช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการต้องใช้เวลากว่า3ชั่วโมงถึงจะสามารถเอาของทั้งหมดภายในถังออกมาได้
ด้านในถังนั้นตรวจพบร่างผู้หญิงคนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าเต็มตัวแต่เป็นสไตล์แบบเก่า ซึ่งเป็นสไตล์ยอดนิยมเมื่อประมาณ30ปีก่อน อีกทั้งยังตรวจสอบพบสิ่งของอื่นๆอีก กล่าวคือ เม็ดพลาสติกสีดำและสีขาวจำนวนมาก ของเหลวสีเขียวอีกจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบพบว่าของเหลวนี้เป็นสีย้อมชนิดหนึ่ง โดยสิ่งของที่แช่อยู่ในของเหลวนั้นคือกระเป๋าถือ1ใบ ในกระเป๋าถือนั้นมีกล่องเครื่องสำอาง หวี1อัน ที่ดัดขนตา1อัน สมุดโทรศัพท์1เล่ม แหวนโลหะ2วง โดย1ในแหวนนั้นมีคำว่า M.H.R สลักอยู่ และยังมีจี้โลหะ1อัน บนจี้สลักไว้ว่า “To Patrice-Love Uncle Phil”
สิ่งของที่พบในถังเหล็กใบนั้น
ตำรวจพุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบสมุดโทรศัพท์ที่พบในถังก่อน เพราะทางตำรวจเชื่อว่าหากสามารถกู้ข้อมูลในสมุดเล่มนี้ขึ้นมาได้ อาจจะทำให้รู้ตัวตนของผู้หญิงที่ถูกพบในถังก็เป็นได้ แต่เนื่องจากสมุดโทรศัพท์นี้ถูกแช่ไว้ในของเหลวมาเป็นเวลานาน จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะกู้ข้อมูลคืนมาได้ทั้งหมด โดยในระหว่างการชันสูตรศพของผู้หญิงคนนั้น ตำรวจยังพบอีกว่ามีศพของเด็กทารกอยู่ในร่างกายของเหยื่อด้วย และมีอายุครรภ์ได้9เดือนแล้ว จากการชันสูตรพบว่าการเสียชีวิตของหญิงสาวรายนี้เกิดจากถูกทุบด้วยของแข็งที่ด้านหลังของศรีษะหลายครั้ง
สมุดโทรศัพท์เล่มดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สืบสวนพยายามยืนยันตัวตนของหญิงคนดังกล่าว โดยดูจากรายชื่อผู้สูญหายทั่วรัฐ New York พวกพวกเขาได้ทำการค้นหาบุคคลที่มีรูปร่างผอม ซึ่งเป็นผู้หญิงเชื้อสายสเปน มีส่วนสูงประมาณ 150 เซ็นติเมตร อย่างไรก็ตามจากเงื่อนไขการคัดกรองดังกล่าวนั้นยังไม่เพียงพอ มีผู้สูญหายมากมายที่มีลักษณะตรงกับ2สิ่งนี้ ดังนั้นทางตำรวจจึงต้องฝากความหวังไว้กับหลักฐานในถังเหล็ก โดยตำรวจได้พบกับตัวเลขชุดหนึ่งและชื่อของโรงงานผู้ผลิตทีได้พิมพ์อยู่ที่ข้างถัง ตำรวจจึงได้มาถึงที่ New Jersey ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานดังกล่าว
ตามหมายเลขที่พิมพ์อยู่ในถังเหล็ก ทางโรงงานแจ้งว่ามันคือวันที่ผลิตของถัง นั่นหมายความว่าถังเหล็กใบนี้ได้ถูกผลิตขึ้นในปี 1965 ซึ่งนั่นก็ผ่านมาแล้วกว่า34ปี ถังเหล็กนี้มีไว้สำหรับบรรจุสีย้อมชนิดหนึ่ง คนในโรงงานนั้นกล่าวว่า สีย้อมชนิดนี้ได้ยกเลิกการผลิตไปแล้วในปี 1971 และในเวลาเดียวกันทางตำรวจก็ได้ทำการสอบสวน Cohen โดยเขาได้บอกกับตำรวจไปว่าเมื่อ 9ปีที่แล้วหรือในปี1990 ที่เขาได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ ถังเหล็กใบนี้ก็มีอยู่ในห้องใต้ดินแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังนี้เคยมีเจ้าของทั้งสิ้นมาแล้ว4คน ตำรวจจึงได้สืบย้อนขึ้นไปเรื่อยๆและได้ทราบว่าถังเหล็กใบนี้มีมาตั้งแต่เจ้าของบ้านคนแรกแล้ว
ในปี 1960 เจ้าของบ้านคนแรกได้ครอบครองบ้านหลังนี้ โดยเขามีชื่อว่า Howard Elkins คนๆนี้ได้เกษียณไปแล้วและได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในรัฐ Florida ทางตำรวจได้สอบถามได้สอบถามผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามีหลายคนที่รู้จักกับ Elkins โดยพวกเขาบอกกับตำรวจว่าElkinsเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเม็ดพลาสติกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน Manhattan เมื่อตำรวจได้ยินเรื่องเม็ดพลาสติก พวกเขาก็คิดถึงของในถังเหล็กขึ้นมาทันที และทำการตรวจสอบจากเบาะแสนี้ต่อไป
Howard Elkins
ตำรวจยังได้พบอีกว่าในปี 1960 Elkins เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท Manhattan Melrose Plastic Products Company ซึ่งบริษัทนี้จะผลิตดอกไม้พลาสติก หญ้าพลาสติกและผลิตภัณฑ์อื่นๆ และทางตำรวจก็ได้รู้มาว่าก่อนหน้านั้นมีโรงงานเคมีแห่งหนึ่งใน New Jersey ใส่สีย้อมสีเขียวลงในถังเหล็ก ซึ่งบริษัท Melrose Plasticใน Manhattan ก็ได้สั่งซื้อสีย้อมสีเขียวนี้เพื่อใช้ย้อมผลิตภัณฑ์พืชพลาสติกของพวกเขา
เรื่องการพบศพหญิงสาวในถังเหล็ก ได้สร้างความฮือฮาให้สื่อมวลชนเป็นอย่างมาก และไม่นานหลังจากนั้นทางตำรวจก็ได้รับโทรศัพท์ที่ไม่ระบุชื่อ คนในโทรศัพท์กล่าวว่าเขารู้จักโรงงานผลิตพลาสติกแห่งนั้นในManhattan และยังรู้อีกด้วยว่า ในช่วงปี 1960 Elkins ได้มีชู้กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นคนงานของโรงงานดังกล่าว ทำให้ตำรวจนั้นยิ่งสงสัยในตัว Elkinsมากขึ้นและเริ่มออกตามหาตัวเขาอย่างจริงจัง
ตำรวจได้ออกเดินทางไปยังบ้านของ Elkins ซึ่งในปีนั้นเขาได้กลายเป็นคนแก่อายุกว่า 70ปี ที่เกษียณอายุแล้ว หลังจากที่เจอตำรวจมาเยี่ยมถึงบ้าน เขาก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือมากเท่าไร แต่เขาก็ยินยอมที่จะตอบคำถามของตำรวจประมาน 2-3ข้อ โดยเขาบอกกับตำรวจว่าโรงงานของเขาไม่เคยใช้ถังเหล็กแบบที่ตำรวจพบ และไม่เคยใช้สีย้อมสีเขียวที่อยู่ในถังด้วย แต่ยิ่ง Elkinsปฏิเสธมากเท่าไหร่ ทางตำรวจก็ยิ่งมั่นใจว่า Elkinsนี่แหละคือคนที่พวกเขากำลังตามหาอยู่ ทางตำรวจจึงได้ถามกับ Elkins ต่อว่าเขาเคยมีชู้หรือไม่ ซึ่ง Elkinsกลับให้การยอมรับว่าเขาเคยมีชู้จริงแต่นั่นมันก็ผ่านมากว่า 30ปีแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่สามารถจำรายละเอียดอะไรได้แล้ว จากนั้นตำรวจจึงขอตัวอย่าง DNA จาก Elkins ซึ่งตำรวจจะสามารถนำไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับ DNA ของทารกในท้องของหญิงสาวปริศนาได้ แต่ Elkinsก็ได้ปฏิเสธไปเพราะตำรวจนั้นไม่มีใบอนุญาต
Howard Elkins ในวัย70ปี
ในห้องปฏิการ การกู้คืนสิ่งของในถังเหล็กนั้นคืบหน้าไปมาก ในที่สุดช่างเทคนิคก็สามารถกู้คืนข้อมูลในสมุดโทรศัพท์ได้ส่วนหนึ่ง พวกเขาพบว่าในบรรทัดที่2ของหน้าที่ 1 ได้เขียนคำว่า Mr.Elkins นอกจากนี้ยังได้เขียนที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ใน Manhattan และในอีกหน้าหน้าหนึ่งยังมีเขียนชื่อ “Kathy Andrade” และมีเบอร์โทรไว้ด้านล่างด้วย ตำรวจจึงได้โทรติดต่อเธอในทันที
Kathy Andrade ถึงจะผ่านมาแล้วกว่า 30ปีแต่เธอยังคงอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งเดิมและใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิม ทางตำรวจได้อธิบายเรื่องเราที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง โดยหลังจากที่ Kathy ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วเธอก็เอ่ยชื่อหญิงสาวที่อยู่ในถังเหล็กออกมาทันที เธอคือ Reyna Marroquin, Kathy ได้บอกกับตำรวจว่า Reyna มาจากเอลซัลวาดอร์ เมื่อ30ปีที่แล้ว Reyna เป็นนักเรียนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษของเธอ และเนื่องจาก Reyna และ Kathy มีอายุที่ไล่เลี่ยกัน ทั้ง2จึงกลายมาเป็นเพื่อนกันในที่สุด
Kathy Andrade
ในปี 1966 Reyna อายุ25ปี เธอจากบ้านเกิดของเธอมาถึง New York เพียงคนเดียวและได้เช่าอพาร์ทเม้นท์ในพื้นที่เพื่ออยุ่อาศัย หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้งานในบริษัทดอกไม้พลาสติกใน Manhattan และเธอมีความฝันที่จะได้เป็นพลเมืองอเมริกัน, Kathy ยังบอกอีกว่าก่อนที่ Reyna จะหายตัวไปเธอได้บอกว่าเธอนั้นกำลังตั้งท้อง แต่ไม่ได้บอกว่าใครคือพ่อของเด็ก บอกเพียงว่าผู้ชายคนนั้นได้แต่งงานแล้ว และมีลูก3คน
Reyna Marroquin
Kathy ยังบอกตำรวจอีกว่า Reyna เคยโทรศัพท์ไปที่บ้านผู้ชายคนนั้นเพราะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่คิดที่จะรับผิดชอบเธอเลย แต่พอโทรไปกลับเป็นภรรยาของผู้ชายคนนั้นรับโทรศัพท์ เธอจึงได้บอกเรื่องราวระหว่างเธอและผู้ชายคนนั้นให้ปลายสายได้ฟัง และหลังจากที่เธอวางสายได้ไม่นาน ผู้ชายคนนั้นก็โทรกลับมาด้วยความโกธรและขู่ที่จะฆ่าเธอ
หลังจากที่ Reyna ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกลัวมากเธอจึงได้โทรหา Kathy, โดยหลังจาก Kathy ทราบเรื่องก็รู้สึกเป็นห่วง จึงรีบเดินทางมาที่บ้านของ Reyna แต่ Reynaก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว และหลังจากนั่งรอเป็นเวลา 3ชั่วโมง Kathy เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปรกติจึงได้ออกไปแจ้งความยังสถานีตำรวจ แต่ตำรวจนั้นไม่ค่อยสนใจเพราะคิดว่า Reyna อาจแค่ออกไปซื้อของ
เวลาล่วงเลยมา 30ปี Reynaไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย การหายตัวไปของเธอกลายเป็นคดีที่ยังไม่คลี่คลาย จนกระทั้งชายชื่อ Cohenได้พบกับถังเหล็กนั่นโดยบังเอิญ ตอนนี้พนักงานสืบสวนเชื่อมั่นว่า Elkins นั้นมีความสัมพันธ์นอกสมรสกับReyna โดยสันนิฐานว่า Elkinsได้ลงมือฆ่า Reyna และได้เคลื่อนย้ายศพกลับมาที่บ้านตน และคงตั้งใจจะนำศพของเธอใส่ลงไปในถังเหล็ก และจะนำไปถ่วงน้ำ โดยเขาได้ใส่เม็ดพลาสลติกลงไปในถังเหล็กปริมาณมากเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าถังเหล็กจะจมลงไปที่ก้นทะเลจริงๆ แต่เขาก็ทำพลาดไป เพราะถังเหล็กที่บรรจุสิ่งของมากขนาดนั้นได้มีน้ำหนักมากถึง160กิโลกรัม ซึ่งนั่นหนักเกินกว่าที่เขาจะขนย้าย เขาจึงเปลี่ยนใจและซ่อนถังเหล็กใบนั้นไว้ที่ห้องใต้ดินแทนนั่นเอง
Part 4 : บทสรุป
ทางตำรวจได้ระบุชื่อ Elkins เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับ1 และที่สำคัญคือคดีอาญาในรัฐ New Yorkนั้นไม่มีการจำกัดอายุความ ตำรวจจึงเร่งรวบรวมหาหลักฐานให้เพียงพอและส่งฟ้อง Elkinsในข้อหาฆาตกรรม โดยตำรวจกำลังขอใบอนุญาตตรวจ DNA ของElkinsอยู่ โดยในขณะเดียวกันนั้นก็ได้รับแจ้งความจากภรรยาของ Elkins ว่าสามีของเธอนั้นได้หายตัวไปแล้ว และสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นั้นก็คือ Elkinsได้กลายเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ในโรงรถของเพื่อนบ้าน โดยศพของElkins นั้นอยู่บนเบาะหลังของรถเพื่อนบ้าน บริเวณพื้นมีคราบเลือด และมีปืนไรเฟิลอยู่ข้างๆ1กระบอก
สถานที่พบศพของ Howard Elkins
หลังจากตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว ทางตำรวจก็ได้สรุปว่า Elkinsนั่นยิงตัวตายเพื่อหนีความผิด โดยหลังจากนั้นตำรวจก็ได้เก็บตัวอย่าง DNAจากศพของ Elkins และนำไปตรวจสอบ และพบว่า DNA ของ Elkins นั้นตรงกันกับDNAของทารกในท้องของ Reyna ถึง99.93% คดีนี้จึงสามารถสรุปลงได้ว่า Elkins มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ Reynaจริง และได้ลงมือฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งยังปกปิดหลักฐานเหล่านี้ไว้เป็นความลับได้นานถึง30 ปี
ในสมุดโทรศัพท์หน้าสุดท้าย ตำรวจยังพบข้อความที่คาดว่า Reyna ตั้งใจเขียนให้Elkins ซึ่งแสดงออกถึงความหมดหวัง และสิ้นไร้หนทาง โดยข้อความนั้นกล่าวว่า "Don't be mad I told the truth" ...อย่าโกรธ ที่ฉันพูดความจริง
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
10 ธันวาคม 2021
อ้างอิง
- 49
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
