Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Coffee Talk
•
ติดตาม
16 ธ.ค. 2021 เวลา 13:08 • สุขภาพ
เข้าใจผิดมาตลอดว่า งูกัดตรงไหน ให้รัดเหนือจุดนั้น กันพิษไหลเข้าสู่หัวใจ
2
จากข่าว ในวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมาก ในโลกโซเชียลมีเดีย ช่วยกันแชร์ เพื่อบริจาคเลือดให้เด็ก 10 ขวบ โดนงูกะปะกัด ต้องผ่าตัดนิ้วมือ ระบายเลือดเร่งด่วน เนื่องจากน้องโดนงูกะปะกัด เข้ารับการผ่าตัด ระบายแรงดันบริเวณมือ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงนิ้วมือได้ เบื้องต้นเกิดการแข็งตัวของเลือด
เราเข้าใจผิดมาตลอดว่า งูกัดตรงไหน ให้รัดเหนือจุดนั้น กันพิษไหลเข้าสู่หัวใจ
แต่จริงๆแล้ว การรัดหรือ ขันเชนาะ จะทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือด อาจทำให้อาการหนักกว่าเดิม อาจถึงขั้นต้องตัดนิ้ว ตัดขา หรือส่วนที่งูกัดนั้นไปเลย โดยทาง เพจ Nick Wildlife โพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า ..
NickWildlife
อันตรายของพิษงูกะปะ อาจเสียอวัยวะหากรักษาผิด!!
ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่เข้าใจการปฐมพยาบาลเมื่อถูกถูกงูกัดแบบผิดอยู่ ซึ่งหากทำแบบนั้น อาจเกิดผลเสียถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เท่าที่ทราบมาได้มีการปฐมพยาบาลน้องโดยใช้วิธีการใช้เชือกรัดตรงบริเวณเหนือข้อมือที่ถูกกัด ซึ่งการใช้เชือกรัดนั้นอันตรายมาก หากเป็นงูที่มีพิษออกฤทธิ์ต่อระบบเลือดเป็นหลัก
“งูที่กัดเด็กเป็นงูกะปะ เป็นงูพิษออกฤทธิ์ต่อระบบเลือดเป็นหลัก”
สาเหตุก็เพราะพิษที่ออกฤทธิ์ในระบบนี้ จะทำให้เลือดไหลไม่หยุด และทำให้เกิดอาการบวมอย่างรุนแรงมาก หากไปรัดจะทำให้เกิดการปิดกั้นเลือดจะไม่ไหลเวียน และไม่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะจนเกิดอาการเนื้อตาย จนในบางเคสต้องตัดอวัยวะส่วนนั้นทิ้งได้
นำมาให้ดูกันอีกครั้งถ้าถูกงูกัดต้องทำอย่างไร
1.ถ้าไม่รู้ว่างูอะไร ให้สันนิษฐานว่าเป็นงูพิษไว้ก่อน ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด
2.ต้องมีหลักฐาน ปัจจุบันมีหลายท่านบอกไม่ต้องนำงูไปแล้วก็ได้ แต่เชื่อผม ถ่ายภาพงูที่กัด ไปให้ชัดๆใกล้ๆ จะดีที่สุด เพราะมันจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แพทย์ในการรักษาได้รวดเร็วขึ้น
3.เคลื่อนไหวให้น้อย สิ่งที่ควรรู้คือ พิษงูทำงานสัมพันธ์กับอัตราสูบฉีดเลือดของร่างกาย ยิ่งหัวใจเต้นเร็ว พิษก็แพร่กระจายเร็ว การวิ่งไปหาหมอหลังถูกงูกัดเพื่อความรวดเร็ว จึงไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัยกว่า การค่อยๆเดินไปหาหมออย่างช้าๆ อย่างมีสติและรอบคอบ
4.รู้จักการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง มันจะช่วยยืดชีวิตเราได้หลายชั่วโมง การปฐมพยาบาลผู้ถูกงูกัดแบบใหม่ จึงจะเป็นการให้ความสำคัญเรื่องการลดการเคลื่อนไหวของอวัยวะนั่นเอง
5.ส่วนวิธีดูดพิษ กรีดพิษ ใช้ไฟเผา รัดเหนือบาดแผล ขันชะเนาะ ก็แนะนำว่าไม่ต้องทำครับ ไม่มีประโยชน์ใดใด
6.แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มกระตุ้นหัวใจอย่าไปทาน มันเร่งให้พิษแพร่กระจายได้เร็วขึ้น
7.แพทย์จะยังไม่ให้เซรุ่มในทันที เพราะต้องมั่นใจว่าผู้ป่วยโดนงูอะไรกัด(การมีภาพถ่ายงูที่กัดจะช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น) ผู้ป่วยได้รับพิษไปหรือไม่ และได้รับในปริมาณเท่าใด จึงจะพิจารณาวิธีในการรักษาต่อไป
NickWildlife
cr:
https://www.facebook.com/nickwildlife1/posts/471281334357364
#NickWildlife
#อสรพิษวิทยา
ปฐมพยาบาล
เกร็ดความรู้
งู
1 บันทึก
3
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เพิ่งรู้นะนี่
1
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย