“CRITICAL UPDATE Re:DAO Vulnerability” เป็นพาดหัวของบล็อกโพสต์ “พบการโจมตีและใช้ประโยชน์ใน DAO และผู้โจมตีกำลังอยู่ในกระบวนการระบาย ether ที่มีอยู่ใน DAO ไปยัง DAO ลูก”
“Hard fork เป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อน” Jeff Wilcke เขียนในบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ในหัวข้อ “To Fork or Not to Fork” เนื่องจากนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่มูลนิธิ Ethereum ตัดสินใจได้แต่เพียงผู้เดียว เขาจึงได้หันไปขอความเห็นจากชุมชนอีกครั้งเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลที่มีความเหมาะสมที่สุด”
ประมาณ 80% ของการโหวตเลือกไม่รับการ hard fork แม้การโหวตจะไม่ได้เป็นตัวแทนของชุมชนทั้งหมด ทั้งโพลใน Twitter และ โพสต์ใน Reddit ก็ไม่ต้องการ hard fork
แต่สถานการณ์ที่บีบคั้นในตอนนั้น ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าการ hard fork อีกแล้ว เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ไคลเอนต์ Ethereum เลือกที่จะยอมรับ เป็นการยืนยันว่า hard fork จะเป็นค่าเริ่มต้นในการอัปเกรดซอฟต์แวร์
2
ในวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันกำหนดการที่จะมีการ hard fork ตัวของ Vitalik เองอยู่ที่ Cornell University ในรัฐนิวยอร์ก Vitalik หวังว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งนี้จะทำให้ Ethereum แข็งแกร่งขึ้น
1
เขาอยู่ที่นั่นเพื่อเข้าร่วม bootcamp ด้าน blockchain ซึ่งนำโดย Emin ศาสตราจารย์ที่คอยชี้ให้เห็นข้อบกพร่องของ DAO เหล่านักพัฒนาและนักวิจัยที่รวมถึง Alex (Avsa) ที่อยู่รายล้อมตัว Vitalik
“มันกำลังเกิดขึ้น” Alex พูดขึ้นในขณะที่ Vitalik หัวเราะด้วยความประหลาดใจ ซึ่งการ hard fork ทำงานได้โดยไม่มีความผิดพลาด แม้แต่คนที่ท้อแท้กับการตัดสินใจที่จะทำ hard fork รวมทั้งตัว Vitalik เองก็รู้สึกโล่งใจ
กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีชื่อว่า Robinhood ที่เป็นแฮ็กเกอร์สาย Whitehat ซึ่งเป็นสายที่ไม่มีความเป็นอันตราย ที่นำโดย Alex Van De Sande (Avsa) ซึ่งพวกเขาเข้ามาช่วยเพื่อนำเงินที่โจรแฮ็กเกอร์ไปคืนกลับแก่เจ้าของให้มากที่สุด
1
Alex Van De Sande หรือ Avsa นำทีมเพื่อดึงเงินกลับคืนมา (CR:Youtube)