18 ธ.ค. 2021 เวลา 01:09 • คริปโทเคอร์เรนซี
ประวัติ Ethereum ตอนที่ 11 : The Rise Of Crypto
1
เมื่อถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2016 จำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันใน Ethereum ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่กำลัง hot สุด ๆ ในตอนนั้นก็คือการทำ Initial Coin Offer หรือ ICO ซึ่งเป็นการเลียนแบบมาจาก “Initial Public Offering” หรือ IPO ที่ธุรกิจจะขายหุ้นของบริษัทให้กับนักลงทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
2
ประวัติ Ethereum ตอนที่ 11 : The Rise Of Crypto (CR:cryptoslates)
แต่การทำ ICO ทุกอย่างทำผ่านอินเทอร์เน็ต บริษัท startup เพียงแค่เขียนเอกสาร White Paper ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดทางเทคนิคของโครงการและแผนงานของตน และนำไปวางไว้บนเว็บไซต์ โปรเจ็กต์เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มีเพียงแค่เว็บไซต์และ White Paper แต่นั่นคือจุดสำคัญของการระดมทุนแบบนี้
1
มันเปิดเส้นทางใหม่ในการระดมทุนแบบง่าย ๆ โดยใช้โอเพ่นซอร์ส และโปรโตคอลแบบกระจายอำนาจ ซึ่งพวกเขาเผยแพร่ข้อมูลทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Reddit และ Twitter พวกเขาขายเหรียญดิจิทัลของตนเองหรือที่เรียกว่าโทเค็น เพื่อแลกกับ bitcoin และ ether และด้วยมาตรฐานโทเค็น ERC20 ทำให้การสร้างแอปพลิเคชันและการออกโทเค็นเป็นเรื่องง่าย ICO ส่วนใหญ่จึงทำบน Ethereum
2
ICO ที่เป็นไปตามรูปแบบของ Ethereum โดยที่ ether ถูกเรียกว่า “ยูทิลิตี้โทเค็น” ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำมันที่ใช้ในการรันเครื่อง Ethereum มันไม่ใช่สัญญาการลงทุน โทเค็นเหล่านี้ควรจะถูกใช้บนแพลตฟอร์มของโปรเจ็กต์ได้แบบทันที รวมถึงสามารถซื้อขายได้ในตลาดแลกเปลี่ยนได้เช่นเดียวกัน นั่นคือสิ่งทั้งหมดที่ผู้ถือโทเค็นสามารถทำได้
1
นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก สามารถส่ง bitcoin หรือ ether ของพวกเขาไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ระบุไว้ และรับโทเค็นเป็นการตอบแทน ซึ่งบางคนอาจจะะต้องการซื้อเหรียญเหล่านี้อย่างแท้จริงเพื่อใช้ประโยชน์ในแพลตฟอร์มของ startup ตามที่ White Paper ของโครงการนั้น ๆ ได้ระบุไว้
แน่นอนว่าเหล่านักลงทุน คงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Bitcoin ว่ามันเติบโตและมีมูลค่าหลายร้อยดอลลาร์ได้อย่างไร หลังจากช่วงแรก ๆ ที่เปิดตัวมีการซื้อขายที่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์เท่านั้น หรือ ether เองที่เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10 ดอลลาร์ ถือเป็นการลงทุนที่น่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง
2
เมื่อโทเค็นเหล่านี้จดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยน นักลงทุนอาจจะได้มาในราคาพรีเซลล์แค่ 30 เซ็นต์ ดังนั้นเมื่อคนส่วนใหญ่ซื้อโทเค็นเหล่านี้ พวกเขาพยายามทำกำไรจากมันให้มากที่สุด และง่ายที่สุด โดยใช้เพียงแค่อีเมล ไม่ต้องใช้สินทรัพย์ขั้นต่ำ และแทบไม่มีการตรวจสอบว่าเงินทุนที่เข้ามาเป็นเงินที่สะอาดจริง ๆ หรือไม่
แล้วสิ่งเหล่านี้ถูกกฎหมายหรือไม่? จาก ICO ครั้งแรกในปี 2014 ของ Mastercoin ชุมชม crypto รู้ว่าอาจมีความเสี่ยง แต่ Ethereum มาพร้อมคำจำกัดความของยูทิลิตี้โทเค็น โครงการอื่น ๆ ก็เริ่มทำการขายโทเค็นตามมา ซึ่งในขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลออกมากล่าวว่า “ICO นั้นถูกกฎหมาย” แต่ก็ไม่มีใครบอกว่ามันผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนใหม่ ๆ ทุกคน
เมื่อผ่านมาถึงวันที่ 1 มกราคม 2017 ราคา Bitcoin ทะลุ 1,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2013 ราวกับว่าสกุลเงินดิจิทัลกำลังประกาศ “นี่จะเป็นปีของ crypto” ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ราคาพุ่ง บางส่วนก็มีการใช้งานจริง ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin เพิ่มขึ้นในประเทศเกิดใหม่ด้วยสกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่าลง ตัวอย่างหนึ่งคือ เวเนซุเอลา
1
เหล่าผู้ประท้วงได้ออกมาที่ท้องถนนอีกครั้งหลังจากที่มีการออกมาไล่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ออกจากอำนาจ หรืออินเดียที่ค่าเงินรูปีพุ่งสูงขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวเพื่อสกัดกั้นการทุจริตโดยดึงธนบัตรจำนวนมากออกจากระบบ ซึ่งสอดคล้องกับในประเทศอียิปต์และไนจีเรีย ซึ่งค่าเงินของพวกเขาลดลงเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ
2
ประชาชนที่ออกมาไล่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของ เวเนซุเอลา (CR:Sky News)
มองในภาพที่กว้างขึ้น ประเทศเกิดใหม่ต่างกำลังดิ้นรน เมื่อ เจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 2016 และส่งสัญญาณว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปี 2017 ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2003
Donald Trump เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งมีการส่งสัญญาณว่าจะปิดพรมแดนจากการค้าและการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้สนับสนุนตลาดในประเทศที่กำลังพัฒนาเช่นเดียวกัน
เมื่อต้นปีนั้นสหราชอาณาจักรลงคะแนนให้ออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าโลกกำลังกลายเป็นชาตินิยมมากขึ้น การดึงดูดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกเพิ่มขึ้น ความสนใจของสื่อเริ่มมากขึ้น กระตุ้นการค้าขายมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่จากคนที่ต้องการหนีจากค่าเงินที่ลดลง แต่จากนักเก็งกำไรที่คิดว่า Bitcoin และเหรียญดิจิทัลอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะมีมูลค่าสูงขึ้น
4
ในขณะเดียวกันในบรู๊คลิน ConsenSys บริษัท ของ Joe Lubin ก็เริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อให้ Ethereum เข้าสู่ตลาดใหญ่ ๆ มากยิ่งขึ้น เขาได้สรรหาบริษัทต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับ Ethereum มากขึ้น เป้าหมายแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ Microsoft
Marley Grey ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ด้านเทคนิคสำหรับบริการทางการเงินที่ศูนย์เทคโนโลยีของ Microsoft ได้เริ่มให้ Microsoft รับ Bitcion ในร้าน Xbox ของตน รวมถึงลูกค้าของบริการคลาวด์ของ Microsoft Azure จะสามารถเข้าถึง Ethereum เวอร์ชันองค์กร เพื่อสร้างระบบการชำระราคาหลักทรัพย์ที่เร็วขึ้นไปจนถึงระบบ back office ที่มีความคล่องตัวขึ้น ทีม ConsenSys ทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ เช่น PwC ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงบริษัทกับลูกค้าที่เปิดรับเทคโนโลยี blockchain มากขึ้น
ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2017 มีการประกาศความร่วมมือภายใต้สิ่งที่เรียกว่า Etherprise Ethereum Alliance บริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่งเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็น JPMorgan , CME Group, BNY Mellon , Credit Suisse , Banco Santander , BBVA , ING ,UBS , BP , Intel และ Microsoft
แม้ว่าการเป็นหุ้นส่วนจะทำให้ยักษ์ใหญ่เหล่านี้เริ่มทดสอบ Ethereum แต่ก็ไม่มีผลผูกพันและไม่มีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมหรือผลลัพธ์ที่จริงจังมากนัก แต่ความเชื่อมโยงกับบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ มันทำให้ชื่อของ Ethereum มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
3
แต่ไม่ใช่มีแต่ข่าวดีทั้งหมด เมื่อประเทศจีนประกาศปราบปรามการแลกเปลี่ยน crypto ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ โดยเรียกร้องให้แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ให้ตรวจสอบลูกค้าของตนเพื่อต่อต้านการฟอกเงิน ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนยักษ์ใหญ่อย่าง OKCoin และ Huobi สั่งระงับการถอน ทำให้ราคา crypto ลดลง 2-3 วัน แต่ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพราะธรรมชาติของ crypto เป็นแบบ peer-to-peer ซึ่งยากต่อการควบคุม
ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม ตลาด crypto ทั้งหมดเติบโตขึ้นมากกว่า 4 เท่า สู่มูลค่า 80 พันล้านดอลลาร์ กลุ่มสินทรัพย์ที่เพิ่งเริ่มต้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 5 เดือน มีงานใหญ่ประจำปีที่ Marriott Marquis ใน Times Square, New York ซึ่งจัดโดย CoinDesk มีวิทยากรกว่า 100 คนและมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 2,700 คน
ราคา Bitcoin เพิ่มสูงขึ้น ทำลายสถิติของปี 2013 และก้าวข้าม 2,000 ดอลลาร์ ทำให้นักข่าวนักวิเคราะห์ให้ความสนใจ Ethereum พุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ และ 200 ดอลลาร์อย่างรวดเร็ว สื่อการเงินกระแสหลักได้พูดถึงเรื่อง crypto มาก่อนแล้ว แต่ราคาที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ นิตยสาร Fortune ถึงกับเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคมว่า “bitcoin ของสกุลเงินดิจิทัล วิ่งฉิว พุ่งเกือบ 65% ในเดือนที่แล้ว และทะลุ 2,000 ดอลลาร์ เป็นครังแรกในสัปดาห์นี้”
ในเวทีการประชุมที่ New York IBM ประกาศว่าได้ลงนามข้อตกลงเพื่อช่วยให้ Maersk และ Walmart ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี blockchain เพื่อให้สามารถประหยัดได้มากกว่า “หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์” R3 บริษัท Startup ที่สร้าง blockchain และกลุ่มบริษัทที่เน้นทางด้านการเงินได้ระดมทุน 107 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุน รวมถึง Bank of America , Merrill Lynch, HSBC และ Wells Fargo
3
Enterprise Ethereum Alliance (EEA) กล่าวว่ามีสมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเป็น 86 ราย เพียงหนึ่งเดือนหลังจากการเปิดตัวด้วยจำนวนสมาชิกเพียง 30 ราย ซึ่งรวมถึง Samsung , Merck และ Toyota ที่เป็นกลุ่มบริษัทใหม่ที่เข้าร่วม มีเกือบทุกอุตสาหกรรมที่บริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมกับ EEA
Enterprise Ethereum Alliance ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาร่วมวงเป็นจำนวนมาก (CR:Medium)
สิ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในสื่อกระแสหลักคือประเด็นสำคัญของ CEO ของ Fidelity อย่าง Abigail Johnson ซึ่งเธอได้ประกาศว่า Fideliy Investments กำลังเปิดตัวการผสานรวมกับแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล Coinbase แต่สิ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ การสนับสนุนเทคโนโลยี blockchain อย่างกระตือรือร้นของเธอ The Wall Street Journal เขียนบทความเกี่ยวกับประเด็นสำคัญเรื่อง “Bitcoin’s Unknownly Evangelist : Fidelity CEO Abigail Johnson”
1
“พวกคุณบางคนอาจะสงสัยว่า: ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ในวันนี้?” Wall Street Journal อ้างคำพูดของเธอ “ฉันมาที่นี่เพราะฉันชอบสิ่งนี้”
เกือบทศวรรษหลังจากที่ Satoshi Nakamoto ส่ง White Paper ของเขาไปยังรายชื่อผู้รับจดหมายของ cypherpunks ในที่สุดเทคโนโลยี blockchain และ cryptocurrency ก็ถูกบริษัทยักษ์ใหญ่พิจารณาอย่างจริงจัง ซึ่งก่อนหน้านี้การประชุมเรื่อง blockchain มีผู้สนับสนุนเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นบริษัท startup ขนาดเล็ก ๆ เท่านั้น
แต่ในปี 2017 ผู้เล่นที่ใหญ่ที่สุดในทุกอุตสาหกรรม เข้ามาร่วมกับเทคโนโลยี เหล่า nerd คอมพิวเตอร์ที่เดินกันเต็มงานแบบเดิม ๆ ถูกแทนที่ด้วย ผู้ชายอเมริกันสวมสูท กางเกงสีกากี กำลังแจกนาบัตร พยายามหาข้อมูลวงในของสิ่งที่พวกเขาควรที่จะเข้าไปลงทุน
3
เมื่อ bitcoin และ ether ราคาพุ่งสูงขึ้น นักลงทุน cypto ก็มีเงินมากขึ้นเพื่อใช้ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ มันไม่ใช่เงินที่หามาอย่างยากลำบาก หลายคนรู้สึกเหมือนถูกลอตเตอรี่ ความรู้สึกอิ่มเอมไปทั่วทั้งวงการ ช่วยให้ startup 70 ราย สามารถระดมทุน ICO ได้ถึง 800 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ startup ระดมเงินทุนด้วยการขายโทเค็นดิจิทัลมากกว่าการขายหุ้นในบริษัทของตน และส่วนใหญ่ล้วนออกโทเค็นเหล่านี้บน Ethereum นั่นเองครับผม
3
อ่านตอนที่ 12 : From CryptoKitties to NFT
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ
1
ผู้สนับสนุน..
บริษัท ดาวิน เทคโนโลยี (Davin Technology) เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมทางการเกษตร การประมง และปศุสัตว์ ได้จัดตั้งขึ้นมาจากการรวบรวมปัญหาและอุปสรรคในการใช้อุปกรณ์ IoT และ Smart Farm จากสภาพใช้งานจริง
ด้วยการประสานความสามารถของอุปกรณ์ให้ติดตั้งง่ายและยืดหยุ่น ให้ทำงานร่วมกับ Application บน Smart Phone และช่วยบันทึกและจัดเก็บทุกสภาพอากาศและปัจจัยต่างๆ เพื่อพัฒนาและปรับใช้ในการควบคุมและเพิ่มผลผลิตอย่างเหมาะสม ผ่านโครงข่าย 4G/5G
สามารถติดต่อให้ ดาวิน เทคโนโลยี เข้าไปเป็นผู้ช่วยคุณได้ที่ https://www.davin.tech/ อัปเดตกิจกรรมและข่าวสารที่ https://www.facebook.com/davin.technology หรือโทร 080-296-2895
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันในกลุ่มสำหรับ Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
คลิกเลย --> https://bit.ly/3E2DdM8
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา