17 ธ.ค. 2021 เวลา 09:35 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปประเด็น...คลังเตรียม "เก็บภาษีขายหุ้นปี 65"
Image Credit: Pixbay.com, กระทรวงการคลัง, SNP Post Tension
เป็นที่ฮือฮา ร้องโฮ่! กันอีกครั้งสำหรับประเด็นที่มีการเปิดเผยของ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการเตรียม "จัดเก็บภาษีจากการขายหุ้น" ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ "Financial Transaction Tax"
มีความเป็นไปได้ (หรือไม่?) ว่าจะเริ่มในปี 2565 หลังจากภาษีดังกล่าวที่ถูกยกเว้นมานานกว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งระยะเวลาที่ถูกยกเว้นนั้นมันมากกว่าอายุของนักลงทุนบางคนด้วยซ้ำ ผ่านมานานจนนึกไม่ออก หรือไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจริงๆ แล้วมันต้องมีการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นด้วยเหรอ?
โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวการจัดเก็บฯ ออกมารอบหนึ่งแล้ว แต่ก็เลื่อนไปก่อนด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี และสถานการณ์ COVID-19 งานนี้ก็อาจจะสะเทือนนักลงทุนรายใหญ่/สถาบัน/ต่างชาติ กันไม่น้อย
วันนี้ผมสรุปประเด็นสำคัญๆ มาบอกเล่ากันแบบสั้นๆ คิดเห็นอย่างไรก็แชรก์กันได้ครับ
#กระทรวงการคลัง
- กระทรวงการคลังเตรียมเก็บภาษีขายหุ้นปี 2565 อัตรา 0.1% ของมูลค่าซื้อขายเกิน 1 ล้านบาท/เดือน
- ชี้แจงเป็นหนึ่งในแผนปฏิรูปภาษีเพื่อความเป็นธรรมกับรัฐ หลังยกเว้นมานานกว่า 30 ปี
- ปัจจุบันมีการออกพระราชกฤษฎีกายกเว้นไว้ หากระดับนโยบายต้องการจัดเก็บภาษีตัวนี้ ก็เพียงแค่ยกเลิกการยกเว้นดังกล่าว ก็จะสามารถจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้ทันที
- เดิมจะจัดเก็บภาษีฯ ตั้งแต่ปี 2564 แต่ด้วยเศรษฐกิจไม่ดี จึงขยับมาเป็นปี 2565 โดยจะดูจังหวะที่เหมาะสม
- รมต.กระทรวงการคลังชี้อาจทำให้ดัชนีตลาดปรับลงก็ต้องยอมรับ แต่จะต้องพิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆว่า มีการฟื้นตัวแล้วหรือไม่
- การจ่ายภาษีจะให้โบรกเกอร์เป็นผู้หักภาษีธุรกิจเฉพาะจากเงินที่ขาย และเป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีแทนผู้ขาย โดยที่ผู้ขายไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีอีก
- การจัดเก็บ Financial Transaction Tax นั้น เป็นหนึ่งในแผนการปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้ภาครัฐมีความยั่งยืนมากขึ้น
- เดิมระดับนโยบายของกระทรวงฯ ต้องการให้เก็บตั้งแต่บาทแรกของการขาย แต่เกรงกระทบรายย่อยและตลาดโดยรวม และขยับมาที่ 1 ล้านบาท (มองว่าเป็นนักลงทุนที่มีฐานะ)
#บล.เอเซียพลัส
- คาดหากนำการเก็บภาษีขายหุ้นมาใช้ จะทำให้มีเงินเข้ารัฐประมาณ 2.05 ล้านบาท (คำนวณจากมูลค่าฐานปี 2564)
- หวั่นกระทบต่อ Trade Volume ทำให้ขีดความสามารถตลาดหุ้นไทยแข่งขันกับทั่วโลกได้ลดลง เนื่องจากผลตอบแทนลดลง
#ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ที่มีชื่อเสียง
- ชี้ไม่ใช่จังหวะเหมาะสม อาจทำให้ตลาดหุ้นไทยขาดสภาพคล่องจากนักลงทุนรายใหญ่และต่างชาติ รวมถึงเสียโอกาสในการระดมทุนของภาคธุรกิจที่ต้องการขยายธุรกิจให้เติบโตด้วย
- นอกจากนี้ จะทำให้ความน่าสนใจและความสามารถในการแข่งขันของตลาดหุ้นไทยลดลง และนักลงทุนหันไปลงทุนในต่างประเทศที่ปัจจุบันทำได้ง่ายและสะดวกแทน
#“เสี่ยป๋อง” วัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่
- แสดงความคิดว่าควรแจ้งช่วงเวลาให้นักลงทุนได้เตรียมตัวล่วงหน้า คาดตลาดจะปรับตัวลงระยะสั้นๆ เนื่องจากรับรู้ข่าวไปสักระยะแล้ว
*ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นประมวลกฎหมายของกรมสรรพากร ในหมวดที่ 5 เรื่องภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้กำหนดให้การประกอบกิจการด้านการขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยฐานภาษี (Tax Point) จะคำนวณจากรายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยกำหนดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 0.1%
โฆษณา