เรื่อง : หญิงสาวถูกจองจำในห้องใต้หลังคากว่า25ปี คดีที่สะเทือนขวัญที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดนประมาณ : 10นาที
Part 1 : เกริ่นนำ
เรื่องราวในคราวนี้ เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญในประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Blanche Monnier ถูกคุมขังไว้ในห้องใต้หลังคานานกว่า 25ปี
Part 2 : เริ่มเรื่อง
ในวันที่ 23 พฤษภาคม ปี1901 อัยการสูงสุดของศาลฏีกาฝรั่งเศสได้รับจดหมายปริศนาฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายสั้นๆแค่หน้าเดียว เขียนด้วยลายมือ และไม่ได้ลงชื่อไว้ ดูจากถายนอกเป็นจดหมายที่ดูไม่เป็นทางการเลย เนื้อความในจดหมายเขียนว่า “ถึงท่านอัยการสูงสุด ด้วยความเคารพและสัตย์จริง ฉันอยากจะเรียนท่านถึงบางอย่างที่เลวร้ายมาก ภายในบ้านของประตูลMonnier ในเมืองPoitiers มีการคุมขังหญิงคนหนึ่งที่กำลังจะอดตาย ตลอด25ปีที่ผ่านมา เธอถูกกักขังอยู่ในห้องๆหนึ่ง ถูกทารุณกรรมอย่างไร้มนุษยธรรม อีกทั้งเธอยังต้องคลุกคลีอยู่กับสิ่งปฏิกูลและหนอนแมลงสาบทุกวัน หวังว่าพวกท่านจะช่วยเธอได้”
จดหมายปริศนาฉบับดังกล่าว
อัยการสูงสุดคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ เพราะเขาพอรู้จักตระกูล Monnier ครอบครัวนี้เป็นตระกูลขุนนางที่เป็นที่รู้จักกันดีในสังคมชนชั้นสูงของฝรั่งเศส โดยมี Madame Monnier เป็นหัวหน้าครอบครัว , เมืองPoitiers ก็ตั้งชื่อตามนามสกุลของตระกูลนี้ อีกทั้ง Madame Monnier เธอยังเป็นคนใจบุญที่มีชื่อเสียง เนื่องจากคอยช่วยเหลือผู้ยากไร้อยู่เสมอ ทำให้ได้รับความเคารพจากผู้คนมากหน้าหลายตา ส่วน Marcel Monnier ลูกชายของครอบครัวนี้ก็มีความสามารถไม่แพ้กัน เขาไม่ได้เป็นเพียงทนายความที่เก่งกาจเท่านั้น แต่ยังเคยดำรงตำหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองPoitiersอีกด้วย ตระกูลที่มีชื่อเสียงดี และไม่เคยมีจุดด่างพร้อยใดๆแบบนี้ จะมีเรื่องอันโหดร้ายทารุณเช่นนั้นได้อย่างไร
Madame Monnier
ทางอัยการไม่ค่อยเชื่อข้อความในจดหมายนี้ แต่เพื่อตัดรำคาญ และแสดงความรับผิดชอบในการทำงาน เขาจึงส่งจดหมายให้สถานีตำรวจในเมืองPoitiersไปดำเนินการต่อ
เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว หลังจากแสดงเจตจำจงเพื่อตรวจค้นต่อครอบครัวMonnierแล้ว แต่อีกฝ่ายได้ปฏิเสธการตรวจค้นอย่างดุเดือด โดยพวกเขาบอกว่าตำรวจมีเจตนาใส่ร้าย ที่บ้านของพวกเขาไม่มีเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นตำรวจก็ยังยืนกรานที่จะนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้าน แต่เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งใดผิดปรกติ พวกเขาจึงเตรียมที่จะจากไปพร้อมกับกล่าวคำขอโทษ
แต่จู่ๆในมุมที่ลับตาคน เจ้าหน้าที่นายหนึ่งพบว่ามีห้องใต้หลังคาอยู่ห้องหนึ่ง และมีกลิ่นอับแปลกๆโชยออกมาจากห้อง และเมื่อนึกถึงคำอธิบายที่น่ากลัวในจดหมายปริศนาฉบับนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สนการทัดทานของแม่และลูกชาย รีบพังประตูเข้าไปในห้องทันที
กลิ่นเหม็นเน่าเกินบรรยายลอยโชยออกมา มีม่านหนาทึบแสงปิดกั้นแสงแดดทั้งหมด ภายในห้องไม่มีไฟแม้แต่ดวงเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยๆคลำทางเพื่อเปิดผ้าม่าน แล้วภาพที่น่าสยดสยองก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของพวกเขา ที่มุมห้อง มีผู้หญิงถูกล่ามอยู่บนเตียง ร่างกายของเธอผอมซูบและเปลือยเปล่า มีสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็นอยู่เต็มตัวเธอไปหมด ตามร่างกายของเธอมีเศษอาหาร และบนพื้นเต็มไปด้วยหนอนและแมลงสาบ
Blanche Monnier ในขณะที่ตำรวจพบเธอที่ห้องใต้หลังคา
Part 3 : เริ่มการสืบสวน
เนื้อความทั้งหมดในจดหมายปริศนานั้นเป็นความจริง กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งในห้อง ทำให้ไม่สามารถดำเนินการสวบสวนต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสั่งให้ทุกคนออกจากห้อง และรีบแจ้งโรงพยาบาลทันที
Madame Monnier และMarcel ลูกชายของเธออยู่ข้างๆ พวกเขานั่งเงียบอยู่บนโซฟาราวกับทราบอยู่แล้วว่า เหตุการ์แบบนี้จะต้องมาถึงในสักวัน ผู้หญิงที่ถูกพบมีอาการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง น้ำหนักตัวนั้นเหลือไม่ถึง 25กิโลกรัม สติสัมปชัญญะไม่มีเหลือแล้ว สามารถพูดได้เพียงคำง่ายๆ ไม่สามารถพิจราณาสถานการณ์รอบตัวได้ ร่างกายและจิตใจได้รับการกระทบกระเทือนจนบอบช้ำเนื่องจากถูกทารุณกรรมมาเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน โดยไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูไม่เหลือความเป็นมนุษย์แล้ว
ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทันที และจากคำให้การ ความจริงที่น่าเศร้าและน่ากลัวก็ค่อยๆถูกเปิดเผยออกมา, ผู้ที่ถูกกักขังคือ Blanche Monnier เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวที่หายตัวไปเมื่อ 25ปีก่อน
Blanche Monnier ในช่วงวัยรุ่น
ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ถือเป็นช่วงที่ยุโรปได้เข้าสูงยุครุ่งเรือง ความมั่งคั่งของชนชั้นสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่องว่างทางชนชั้นทวีความรุนแรงมากขึ้น ท่ามกลางแวดวงของสังคมชั้นสูงในเมืองPoitiers เต็มไปด้วยความหรูหราและฟุ่มเฟือย โดยในบรรดาหนุ่มสาวที่มีชื่อเสียง มีอยู่คนหนึ่งที่โด่งดังที่สุดนั่นก็คือ Blanche เธอเป็นสาวน้อยที่มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม พูดจาดูมีสง่าราศรี ทั้งหมดนี้ทำให้หนุ่มๆมากมายนับไม่ท้วนหลงใหลในตัวเธอ ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งมีคนมาชื่นชอบในตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
การเลี้ยงดูของครอบครัวMonnier นั้นเข็มงวดมาก โดยเฉพาะหลังจากที่พ่อของเธอนั้นเสียชีวิต Madame Monnier ก็ได้หลายเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างในครอบครัว เธอควบคุมการใช้ชีวิตของลูกทั้ง 2คนอย่างเข้มงวด ในความคิดของเธอ ลูกสาวคือไข่มุกล้ำค่าในกำมือของตัวเอง เธอบังคับให้Blanche ต้องแต่งงานกับขุนนางที่เธอเป็นคนเลือกให้เท่านั้น และต้องไม่ทำให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเสียหาย อีกทั้งเธอยังห้ามไม่ให้ลูกสาวติดต่อกับเพศตรงข้ามตามอำเภอใจอย่างเด็ดขาด
ด้วยความเข็มงวดในการเลี้ยงดูทำให้ Blancheเกิดความรู้สึกโหยหาในความรักที่เธออยากเลือกเอง และในปี 1874 เธอก็ได้พบกับทนายความคนหนึ่ง ทั้งคู่ต่างก็ตกหลุมรักกัน และนี้ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาศกรรมอันแสนเศร้าครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส
ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นกินเวลาสั้นๆเพียง 2ปีเท่านั้น Madame Monnierก็ได้ทราบเรื่องของทั้ง2คน โดยหลังจากที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงลูกชายของนักธุรกิจที่ล้มละลาย เธอก็โกรธมากและได้สั่งกับลูกสาวให้เลิกคบกับผู้ชายคนนั้นโดยทันที แต่แน่นอนว่า Blancheที่รักคนรักของเธออย่างเต็มหัวใจแล้ว ครั้งนี้เธอไม่ยอมอ่อนข้อให้แม่อีกต่อไป เธอได้ปฏิเสธคำสั่งของแม่อย่างหนักแน่น และยืนยันที่จะคบกับคนรักของเธอต่อไป
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ความขัดแย้งระหว่างBlanche และแม่ของเธอ ก็รุนแรงมากขึ้นไปอีก และเพื่อนบ้านก็เริ่มรู้ว่าเธอแบบคบกับคนธรรมดา ข่าวลือเสียหายต่างๆนานๆก็ถูกแพร่สะพัดออกไปทั่วบ้านทั่วเมือง และในที่สุด Madame Monnier ก็หมดความอดทน เธอเลือกที่จะทำร้ายลูกสาวแท้ๆของตัวเอง เพื่อปกป้องชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล
ในฤดูร้อนคืนหนึ่งในปี 1876 Madame Monnier และลูกชายของเธอ Marcel ได้บังคับให้Blanche เข้าไปในห้องใต้หลังคาของบ้าน ทั้ง2ใช้โซ่เหล็กล่ามเธอไว้กับเตียง โดยMadame Monnier บอกกับลูกสาวของเธอว่า หากเธอไม่ยอมเลิกกับผู้ชายคนนั้น ก็อย่าหวังที่จะได้ออกจากห้องนี้ไป
ในช่วงแรกMadame Monnier จะคอยถามคำถามเดิมๆกับลูกสาวของตัวเองเป็นระยะ โดยหวังว่าเธอจะยอมแพ้ในไม่ช้า แต่ความแน่วแน่ของBlancheนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง การกระทำของเธอไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากผู้เป็นแม่ แต่กลับเป็นการกระตุ้นความโกรธอย่างรุนแรง Madame Monnierได้ติดตั้งผ้าม่านที่ทั้งหนาและทึบพายในห้อง เพื่อให้ลูกสาวของเธอไม่สามารถแยกแยะกลางวันและกลางคืนได้ อีกทั้งยังยกเลิกการทำความสะอาดห้อง โดยตั้งใจใช้ความมืดและความสกปรกบังคับให้ลูกสาวของตัวเองนั้นยอมจำนน
Blanche ยังคงมั่นคงในความรักของเธอและไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้ เมื่อMadame Monnierเห็นว่าลูกสาวของเธอไม่มีท่าทีประณีประนอม เธอจึงตัดสินใจใช้ทักษะการแสดงที่โดดเด่นของตัวเอง ปล่อยข่าวลวงออกไปว่าลูกสาวของเธอนั้นได้หายตัวไป และด้วยการแสดงที่แนบเนียนทำให้คนรอบข้างล้วนเชื่อคำพูดโกหกของเธอ และค่อยๆลืมเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ไป
คนรักของBlanche พยายามออกตามหาเธอ แต่ก็ต้องประสบกับความล้มเหลวตลอด เขาได้ครองตัวเป็นโสดนับตั้งแต่นั้นเป็นตนมา และอีก9ปีต่อมาในปี 1885 เขาก็ได้ตรอมใจตายจากความคิดถึงคนรักของเขา โดยในขณะเดียวกัน ในด้านของBlanche เองก็ได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปอย่างสิ้นเชิง จากการถูกกักขังระยะยาว แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ Madame Monnierและลูกชายของเธอก็ยังคงใช้ชีวิตของพวกเขาไปอย่างราบรื่นและสูงส่ง ได้รับเกียรติมากมายนับไม่ถ้วน
Part 4 : บทสรุป
ช่วงเวลาอันโหดร้ายทารุณได้ผ่านไปอย่างช้าๆ วันคืนที่ยาวนาน และความเงียบเหงาในห้องใต้หลังคาของบ้านกระตูลMonnier ได้พลากความสง่างามและความสดใสภายนอกของBlanche ไป บัดนี้เธอไม่มีอะไรที่เหมือนกับBlancheคนเดิมอีกแล้ว จนกระทั้งใน1901ตอนที่เธอได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาจากห้องนั้น เธอก็มีอายุได้50ปีแล้ว
เรื่องของเธอเป็นเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของฝรั่งเศส ที่สร้างความสะเทือนขวัญมากที่สุดให้แก่ผู้ที่ได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้การโหมรายงานข่าวอย่างบ้าคลั่งของสื่อ ทำให้มีผู้คนนับไม่ถ้วนแห่ไปที่หน่วยงานราชการต่างๆในพื้นที่ เรียกร้องให้มีการลงโทษอาชญากรที่ชั่วร้ายทั้ง2นี้อย่างสาสม
สื่อต่างๆได้ทำข่าวของ Blanche Monnier
ในระหว่างการสอบสวนMadame Monnier และ Marcel ได้พยายามหาข้อแก้ตัวเพื่อปกป้องตัวเองอยู่ตลอด พวกเขายืนกรานตลอดการสอบสวนว่าก่อนก่อนที่จะนำตัวBlanche เข้าไปขังในห้อง เธอก็เป็นคนบ้าอยู่แล้ว เพราะเธอยอมถูกจองจำตลอดชีวิต ไม่ลังเลที่จะทรยศต่อชาติตระกูลของเธอ โดยให้ตายก็จะไม่ยอเลิกกับคนรักของเธอ
ในวันที่8 มิถุนายน ปี1901 ไม่กี่วันก่อนวันพิจราณาคดีอย่างเป็นทางการ Madame Monnier ซึ่งไม่สามารถทนรับแรงกดดันจากการจำคุก ได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายที่สถานีตำรวจ ซึ่งเธอพึ่งจะถูกฝากขังได้เพียง 15วันเท่านั้น และจากการสอบปากคำMarcel ในเวลาต่อมา เขาได้ใช้ความได้เปรียบทางทนายความ โยนความผิดทั้งหมดให้แม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาเน้นย้ำว่าตลอดเวลา25ปี เขาถูกบังคับให้ปฏิบัติตามคำสั่งของแม่ และเนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีกฏหมายที่ครอบคลุมถึงความผิดของเขาในกรณีแบบนี้ หลังจากสอบสวนและฟ้องร้องอยู่หลายครั้ง Marcel ก็ถูกตัดสินให้พ้นผิดและถูกปล่อยตัว
สุดท้ายตำรวจก็ยังไม่พบตัวเจ้าของจดหมายปริศนาฉบับนั้น โดยพวกเขาสันนิฐานว่า ผู้ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเป็นหนึ่งในคนรับใช้ของครอบครัว Monnier และในปี 1902 Blancheก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งในเมือง Blois ประเทศฝรั่งเศส เธอได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอยู่ที่นั่น โดยระหว่างที่เธอมีชีวิตอยู่นั้น เธอไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงเลย เธอสงบและใจดีเหมือนที่เคยเป็นมาเสมอ และสุดท้ายเธอก็ได้เสียชีวิตลงในวัย 64ปี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ปี1913
Blanche Monnier ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
18 ธันวาคม 2021
- 21
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
