22 ธ.ค. 2021 เวลา 02:11 • ปรัชญา
“อาการเปลื้องจิตเป็นอย่างไร ?”
“ …​ อาการเปลื้องจิต ตรงนี้
บางคนก็จะรู้สึกเหมือน ตัวรู้มันหลุดออกไป
บางคนก็จะรู้สึกเหมือน ตัวเองถอยออกไปข้างหลัง
หรือบางคนก็จะรู้สึก สภาวะมันเบิกบานออก มันกว้างออก
พอเบิกบานออก จิตผู้รู้ก็จะกลายเป็นเพียงสิ่งที่ถูกรู้
เมื่อเราฝึกฝนจนมีจิตใจที่ตั้งมั่น ตื่นอยู่ จนมีกำลังพอ
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงสอนให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปว่า
“เปลื้องจิต” หรือ “น้อมจิตเข้าสู่อมตธาตุ”
นั่นสงบ นั่นระงับ นั่นประณีต ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
การเปลื้องจิตก็ดี หรือการน้อมจิตเข้าสู่อมตธาตุก็ดี
มี อมตธาตุ โผล่ขึ้นมาแล้วนะ
จริง ๆ แล้วก็คือสิ่งเดียวกัน
แต่ว่ามันมีลักษณะที่แตกต่างออกไป
พอเราฝึกจนเกิดสภาวะจิตตั้งมั่น ตื่นอยู่
เกิดจิตผู้รู้ขึ้นมา
เกิดสภาวะคู่คือ “ผู้รู้” และ “สิ่งที่ถูกรู้”
มันยังมีอาการยึด “ผู้รู้” อยู่
แรงยึดตรงนี้แหละ มันคือ ตัณหา อุปาทานเบื้องปลาย
ก็คือถูกอวิชชาครอบงำอยู่ ยึดตัวรู้อยู่
แต่เมื่อใดที่เราสามารถเปลื้องจิต
การจะเปลื้องจิตได้ ก็ต้องอาศัยการอบรมสติปัฏฐาน ๔
จนสติสัมปชัญญะมีกำลังพอ
ก็สามารถปล่อยวาง หรือ เปลื้องจิต
แม้กระทั่งจิต ก็สามารถหลุดออกไปได้
อย่างเบื้องต้นปล่อยวางอารมณ์เข้าสู่ฐานกาย
แล้วก็ปล่อยวางกาย เข้าสู่ฐานเวทนา ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
แล้วก็ปล่อยวางฐานเวทนา เข้าสู่ฐานจิต จิตผู้รู้
แล้วก็ปล่อยวางฐานจิต คือปล่อยวางตัวรู้
อาการ การเปลื้องจิตตรงนี้
บางคนก็จะรู้สึกเหมือนตัวรู้มันหลุดออกไป
แล้วก็จะเห็นจิตที่แตกดับแทน
ทำไมตอนแรกมันเป็นตัวรู้ ทำไมเราไม่เห็นการแตกดับ ?
เพราะว่าอวิชชามันยังอยู่
แต่เมื่อใดที่สามารถเปลื้องออกไปได้
เมฆหมอกแห่งอวิชชาที่มันบดบัง การรู้เห็นตามความเป็นจริง
มันจะถูกเพิกออกไปทั้งยวงเลย
1
แล้วเราจะเห็นการเกิดดับของจิต หรือวิญญานขันธ์ได้
จริง ๆ จิตนี้มันเกิดดับตลอดเวลาอยู่แล้ว
แต่ว่าสมมติมันยังบังอยู่
การที่เราจะเปิดประตูตรงนี้ออก
ประตูแห่งอมตธรรมได้ ก็ต้องเพิกมันออกไป
เพราะฉะนั้น การฝึกสติปัฏฐานจะเป็นเรื่องของ “การปล่อยวาง”
เป็นสเต็ป สเต็ปไป
ปล่อยวางอารมณ์หยาบ ๆ ปล่อยวางอารมณ์ละเอียด
แม้กระทั่งจิตก็ปล่อยวาง เปลื้องออก
มันเป็นไปเพื่อการสลัดออก คลายออก โดยลำดับลำดา
มันไม่ใช่ทีเดียวมันพรวดทั้งหมดเลย
มันค่อย ๆ เพิกออก ๆ ทีละชั้น ๆ
ที่ครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า “ม้างกาย”
มันคือการเพิกออกทีละชั้น ๆ ๆ
บางคนก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองถอยออกไปข้างหลัง
นี่คือการพรากออกจากกันระหว่าง ตัวรู้ แยกออกไป
รู้สึกเหมือนถอยออก พอถอยออกปุ๊บ
มันเห็นโลกตามความเป็นจริงเลย
หรือบางคนก็จะรู้สึกสภาวะมันเบิกบานออก มันกว้างออก
พอเบิกบานออก จิตผู้รู้ก็จะกลายเป็นเพียงสิ่งที่ถูกรู้
เกิดการรู้เห็นตามความเป็นจริง
ก็จะเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า “วิปัสสนาญาน”
การรู้เห็นตามความเป็นจริง …”
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา