Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Movie Island
•
ติดตาม
25 ธ.ค. 2021 เวลา 07:12 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รวบรวมลิสท์หนังในปี 2021 ที่คิดว่าติดท็อปในใจเราจนต้องมาแชร์ ความจริงปีนี้มีที่ประทับใจอยู่อีกหลายเรื่องเลย แต่คิดว่าที่น่าจดจำและน่าพูดถึงจริงๆ ก็คงจะอยู่ในลิสท์นี้แหละ ในขณะที่อีกหลายเรื่องที่ควรจะได้ดูปีนี้แต่ก็ถูกเลื่อนวันฉายไปเพราะสถานการณ์โควิดหรือติดปัญหาอะไรต่างๆ อีกก็เยอะอยู่เหมือนกัน ถึงอย่างนั้นจะได้ดูปีหน้าก็ไม่นานเกินรอ โพสต์นี้จึงอยากมารวบรวมเพื่อเป็นการเก็บตกสำหรับใครที่ยังพลาดเรื่องอะไรไป อีกทั้งยังอยากจะใช้พื้นที่นี้บันทึกความทรงจำ ประสบการณ์ดูหนังที่อยู่ในปีนี้สำหรับเราและทางเพจอีกด้วย.. Merry Christmas นะครับบ
Malcolm & Marie
เป็นหนังเรื่องแรกของปีนี้ที่รู้สึกประทับใจในโทนของดราม่า (เพราะมันฉายช่วงต้นปีด้วย) ให้อารมณ์เหมือนกับ Marriage Story ที่ความสัมพันธ์ของคู่รักชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจะเดินทางมาพบกับวันที่ต่างต้องใจสลาย การเป็นหนัง one location ทำให้เหมือนเรากำลังดูมวยคู่เด็ดอยู่ ที่ทั้งสองปะทะกันด้วยวาจา คารมณ์ กันอย่างไม่จบไม่สิ้น แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รักที่ต้องพบเจอ บทไดอะล็อกอันเฉียบขาดกับเซ็ทอัพของหนังที่เป็นขาวดำมันให้อารมณ์ดราม่าได้รุนแรงอยู่เหมือนกัน อยากให้ลองดูกันครับ
The Suicide Squads
ยกให้เป็นสีสันความบันเทิงแห่งปีเลย ในความบ้าบอของหนังยังมีความเป็นตัวเองอยู่สูงมากๆ ทั้งหมดทั้งมวลคงต้องยกเครดิตให้กับผู้กำกับอย่าง เจมส์ กันน์ ที่ดึงสไตล์ออกมาให้มันชัดเจนขนาดนี้ได้ ถ้าจะบอกว่าเป็นหนังฮีโร่ที่ทำเราเซอร์ไพรส์ที่สุดของปีก็คงไม่ผิด ดีไปอีกขั้นคือสามารถเป็นหนังเบิกทางให้กับตัวละครใหม่ๆ ในจักรวาล DC ได้อีกเพียบเลย
Malignant
หลังจากที่แอบผิดหวังกับคอนเจอริ่งภาคล่าสุด (ที่ได้ Michael Chaves มารับช่วงโปรเจ็คต่อ) เจมส์ วาน ก็ทำให้เรากลับมาอินในการดูหนังแนวทริลเลอร์ได้อีกครั้ง เพราะต้องยอมรับว่านอกจากมันจะดูสนุกแล้ว Malignant ยังเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับเรามากๆ เลยในปีนี้ อยากให้ทำออกมาอีกเรื่อยๆ เลย ไม่จำเป็นต้องภาคต่อก็ได้ ขอแค่ทิศทางของมันชัดเจนให้อารมณ์ประมาณนี้ก็โอเคมากๆ แล้ว
No Time To Die
เราชอบความ dramatic ของภาคนี้มากๆ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ภาคที่ดีหรือสมบูรณ์แบบที่สุดของเจมส์ บอนด์ ฉบับ ‘แดเนียล เคร็ก’ แต่การที่เป็นผลงานส่งท้ายของนักแสดงคนนี้ รวมถึงทั้งชุดทีมของเจมส์บอนด์นี้ มันเป็นสิ่งที่น่าจดจำมากๆ สำหรับเรา
The Last Duel
เสียดายที่ตอนเข้าฉายมีเพียงไม่กี่โรงเท่านั้น หลายคนจึงยังไม่มีโอกาสได้ไปดู อีกอย่างคือกระแสมันไม่ได้เป็นที่รู้จักด้วย แต่อยากให้ไปอยู่ในลิสท์ดูหนังของทุกคนเผื่อวันไหนถูกนำมาฉายทางสตรีมมิ่ง ประเด็นของหนังที่พูดถึงความจริง การโกหก ความเหลื่อมล้ำ ที่ผ่านมาแล้วหลายยุคสมัยก็ยังเกิดขึ้น และมีให้เห็นอยู่ในสังคมปัจจุบันมันชัดเจนมากๆ แน่นอนว่าการกำกับของ ริดรีย์ สก็อตต์ กับ นักแสดงแถวหน้าอย่าง แมตต์ เดมอน, อดัม ไดรเวอร์, โจดี้ โคเมอร์ นั้นทำให้ประเด็นดังกล่าวถูกเล่าออกมาอย่างเข้มข้นและดูจริงจังเป็นพิเศษ
tick, tick… BOOM!
จะบอกว่าปีนี้หนังมิวสิคัลมาแรงก็คงไม่ผิดนะ แต่ละเรื่องคือคุณภาพทั้งนั้นเลย “tick, tick.. BOOM!” คือหนึ่งในนั้นที่องค์ประกอบในส่วนของเพลงมันทำงานกับเราได้อย่างเต็มที่ และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ถึงแม้ทีแรกจะไม่ได้คาดหวังอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่หนังก็ทำได้สำเร็จในหลายๆ ส่วนเลยทีเดียว
Luca
ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยกับผลงานแอนิเมชั่นของพิกซาร์ ที่ยังคงไว้ซึ่งแก่นของเนื้อเรื่อง และมีหัวใจสำคัญในการทำให้คนดูเข้าถึงตัวละครได้อย่างง่ายดายและลึกซึ้ง คราวนี้มาในมิติใหม่นั่นคือบรรยากาศพื้นที่ชายทะเลริเวียร่าในประเทศอิตาลี ซึ่งต้องยอมรับว่านอกจากจะมีความสดใสแล้ว ยังสดใหม่อีกด้วย เล่าไปถึงการก้าวพ้นผ่านวัยของเด็กชายผู้มีความฝัน อยากจะมีเส้นทางที่เป็นอิสระ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ บนโลกกว้าง แต่กลับมีเส้นกั้นที่ว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดจากใต้ทะเลลึก ที่พวกมนุษย์ไม่ยอมรับในการมาอยู่ร่วมด้วย ปีนี้ยอมรับว่ามีแอนิเมชั่นที่ถูกใจเราเพียงแค่ไม่กี่เรื่องเอง ถ้าให้นึกถึงอีกเรื่องก็เป็น “The Mitchells vs. The Machines” นั่นแหละ
CODA
ไม่คิดว่าจะได้นำมาฉายในไทยด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็เถอะ เรายกให้เป็นดราม่าที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้ไปเลย ความเรียบง่าย ความธรรมดาของมันเข้าทางเราไปซะหมด ชวนน้ำตาตกได้อย่างอยู่หมัด
เรื่องราวของ รูบี้ (Emilia Jones) เด็กสาวผู้หลงรักในการร้องเพลง เติบโตมากับครอบครัวชาวประมงของเธอที่หูหนวกกันทุกคน มีเธออยู่คนเดียวที่ได้ยินเป็นปกติ หลังจากรูบี้ได้เข้าชมรมประสานเสียงกับทางโรงเรียน การตัดสินใจครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นเพราะดูเหมือนมีสองสิ่งที่ไปด้วยกันไม่ได้ระหว่างครอบครัวที่ต้องการเธอ กับความฝันในการร้องเพลงที่ราวกับเป็นเสียงเรียกร้องมาจากหัวใจ พล็อตเรื่องง่ายๆ แค่นี้เลย แต่จุดนี้เองที่หนังเลือกที่จะเล่ามันอย่างละเอียดอ่อน ชวนน้ำตาไหล เต็มไปด้วยความความเข้าอกเข้าใจในการก้าวผ่านปัญหาในแบบที่อบอุ่นมากๆ
Eternals
ไม่รู้ว่าเหตุผลที่ทำให้คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ได้น้อยเกินครึ่งขนาดนั้นเป็นเพราะการที่หนังกล้าจะก้าวกระโดดออกมาจากกรอบเดิมๆ ที่เคยมีอยู่รึเปล่า แต่ส่วนตัวมองว่ามันตอบโจทย์เราค่อนข้างมาก ทั้งแกนหลักของเนื้อเรื่อง, ทิศทางของตัวละคร ตลอดจนถึงในฐานะที่เป็นการเปิดเส้นเรื่องใหม่ในเส้นทางของมาร์เวล Phase 4 และแน่นอนว่ามันมอบความสนุกให้กับเราได้อยู่ไม่น้อยเลย (อันหลังถือเป็นเรื่องดีหากเทียบกับหนังเปิดตัวหลายๆ เรื่องของมาร์เวล)
ผลงานกำกับของ โคลอี้ เจา เป็นสิ่งที่โดดเด่นในหนังมาก มุมกล้องและภาพสวยๆ เข้ากันเป็นอย่างดีกับโทนดราม่าที่เป็นหัวใจสำคัญ อิทธิพลเหล่านี้พอมาอยู่ในหนังมาร์เวลแล้วเวิร์คดีแฮะ อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ soundtrack ที่ให้อารมณ์ตื่นเต้น เอพิค และงดงามในเวลาเดียวกัน คือมันเล่นน้อยเรียบง่ายแต่ดูยิ่งใหญ่ ซึ่งตำแหน่ง Composer คือคนเดียวกันกับที่ทำสกอร์หนัง Ironman, Pacific Rim รวมถึงซีรีส์ Game of Thrones ด้วย หากจะบอกว่าเป็นไฮไลท์เด็ดอีกอย่างของหนังก็คงไม่ผิด
West Side Story
ผลงานรีเมคจากหนังขึ้นหิ้งผ่านฝีมือ สปีลบิร์ก ที่ไม่คิดว่าองค์ประกอบหลายอย่างของหนังมันยังน่าสนใจอยู่สำหรับการหยิบยกขึ้นมาทำใหม่ในยุคนี้ ชอบพาร์ทดราม่าที่เสียดสีประเด็นชนชั้นอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งงานเพลง งานออกแบบคอสตูม ท่าเต้นต่างๆ คือสุดยอดมากๆ เลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสีสันของหนังมิวสิคัลแห่งปีก็ว่าได้
Dune
เรียกว่าเป็นประสบการณ์ดูหนังไซไฟที่อลังการที่สุดแห่งปี มากไปกว่าวิชวลเอฟเฟกต์ที่ใส่มาจนล้นจอแล้ว เนื้อหาสำหรับการเปิดทางไปสู่ภาคต่อไปยังดูอัดแน่นจนอยากจะดูภาคสองซะเดี๋ยวนี้เลย ดีใจที่มีประกาศสร้างต่อเรียบร้อยแล้ว ต้องเซอร์ไพรส์กว่านี้แน่ๆ
2 บันทึก
5
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
List of Movie
2
5
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย