Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Coffee Talk
•
ติดตาม
25 ธ.ค. 2021 เวลา 13:20 • ประวัติศาสตร์
บินลาเดน ไม่ใช่ผู้บงการในเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11?
3
🛑เกริ่นไว้ก่อนว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ตกเป็นเป้าของกลุ่มก่อการร้าย แต่จะเป็นกลุ่มไหน?? ยังไง ?? มาติดตาม..หนึ่งในบางเหตุการณ์กันครับ
1
จากเหตุการณ์ช็อกโลก ที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน ในวันที่ 11 ก.ย. 2001 ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินโดยสารของสหรัฐอเมริกา 4 ลำ และบังคับบินชนตึกสูงระฟ้า 2 ตึกในนครนิวยอร์ก การโจมตีในครั้งนี้เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความบอบช้ำที่สุดในรอบศตวรรษต่อชาวอเมริกันและชาวโลก
เป็นที่น่าสงสัย ว่าทำไมมีทีมก่อการร้ายมากถึง 4 ทีมเข้าจี้เครื่องบิน 4 ลำ ที่จะมีการ Talk off ในเวลาไล่เลี่ย ภายในวันเดียวกัน และบินอยู่ในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ พร้อมกัน ซึ่งเครื่องบินเหล่านี้ถูกใช้เป็นเสมือนขีปนาวุธขนาดยักษ์
โดยบังคับให้มุ่งหน้าไปยังอาคารที่เป็นที่รู้จักดีในนิวยอร์กและวอชิงตัน อย่างง่ายดาย ถือว่าเป็นการที่แยบยลที่สุดในโลก เป็นการเหยียบจมูกเสือ ที่เสือแทบจะไม่รู้ตัว?? โดยที่ฝ่ายข่าวกรองเองก็ไม่ระแคะระคาย?? แม้ก่อนหน้านั้น ตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ 2 ตึกนี้ก็เคยตกเป็นเป้าหมายมาก่อนแล้วก็ตาม
1
ไม่ถึงเดือนหลังการโจมตี ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช สั่งกองทัพบุกอัฟกานิสถานโดยได้รับความสนับสนุนจากนานาชาติ เพื่อกำจัดกลุ่มอัลไคดา และตามล่า บิน ลาเดน
1
หลังพลิกแผ่นดินหาตัว บิน ลาเดน ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ ในที่สุดปี 2011 กองทัพสหรัฐฯ เข้าจู่โจมและสังหาร บิน ลาเดน ทันทีคาบ้านพักหลังใหญ่ในปากีสถาน ปิดฉากการตามล่าตัวการใหญ๋ โอซามะฮ์ บิน โมฮัมเม็ด บิน อาวัด บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งองค์กรทหารรวมอิสลาม อัลกออิดะฮ์ ที่หลายประเทศประกาศว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย
แต่มีข้อมูลใหม่พบว่า ผู้วางแผนก่อเหตุจี้เครื่องบินโดยสารไปพุ่งชนอาคารสำคัญของสหรัฐฯ เมื่อ 20 ปีนั่นไม่ใช่ บิน ลาเดน แล้วจอมบงการเหตุวินาศกรรม 9/11 หลุดรอดเอฟบีไอไปก่อเหตุได้อย่างไร แต่เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ
1
แฟรงก์ เพลเลกรีโน อดีตเจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ กำลังนั่งอยู่ในห้องโรงแรมแห่งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่เขาเห็นภาพในโทรทัศน์ขณะที่เครื่องบินกำลังพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก
แฟรงก์ เพลเลกรีโน
สิ่งแรกที่เขาคิดคือ "คุณพระช่วย มันจะต้องเป็นฝีมือ คาลิด เชกห์ โมฮัมเหม็ด" ซึ่งที่เขาคิดเช่นนี้ เพราะลักษณะและเป้าหมายการก่อเหตุตรงกับข้อมูลที่เขาได้ทราบมาก่อนหน้านี้ และได้เฝ้าติดตามคดีของนายโมฮัมเหม็ดมาเกือบ 3 ทศวรรษ แต่จนถึงขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนวางแผนก่อเหตุวินาศกรรม 9/11 กลับยังไม่ถูกตัดสินลงโทษจากความผิดที่เขาก่อขึ้น
1
ป้ายประกาศจับนายคาลิด เชกห์ โมฮัมเหม็ด (KSM )ของทางการสหรัฐฯ ในปี 2001
ประกอบกับก่อนหน้าที่ บิน ลาเดน จะถูกสังหาร ทางโฆษกของตอลิบาน ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด (Zabihullah Mujahid) ออกมาย้ำหนักแน่นว่า “ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ เลย” ว่า อุซามะห์ บิน ลาดิน มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับ 9/11 ดังนั้น จึง “ไม่มีเหตุผลความชอบธรรมใดๆ สำหรับการก่อสงคราม มันเป็นเพียงข้อแก้ตัวสำหรับก่อสงครามเท่านั้น” >>
https://www.dawn.com/news/1642873
cr:https://www.dawn.com/news/1642873
อย่างไรก็ตาม บิน ลาเดน ในขณะนั้นจะถูกมองว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรม 9/11 มากที่สุด แต่ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการสอบสวนเหตุ 9/11 กลับระบุว่า ในความเป็นจริงแล้ว นายโมฮัมเหม็ด หรือที่รู้จักในนาม KSM คือ "ผู้วางแผนหลัก" ของเหตุก่อการร้ายเขย่าโลกครั้งนี้ โดยเขาเป็นผู้ที่คิดแผนการนี้แล้วนำไปเสนอต่อกลุ่มอัลไคดา
2
นายเพลเลกรีโน ได้รับมอบหมายจากเอฟบีไอในปี 1993 ให้สืบสวนเหตุระเบิดที่อาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ซึ่งตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายโจมตีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 1993 แต่ล้มเหลว คร่าชีวิตผู้คนไป 6 คน
และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ชื่อของนายโมฮัมเหม็ดได้รับความสนใจจากทางการสหรัฐฯ เพราะพบหลักฐานว่าเขาได้โอนเงินให้หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ
แม้พบหลักฐานบางอย่างที่ทำให้ นายเพลเลกรีโนและทีมงานได้เดินทางไปยังประเทศโอมาน เพื่อเตรียมข้ามไปยังกาตาร์ และจับกุมตัวนายโมฮัมเหม็ด โดยมีการเตรียมเครื่องบินที่จะนำตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้กลับไปดำเนินคดีวางแผนระเบิดเครื่องบินโดยสารที่สหรัฐฯ ทว่าแผนการได้ถูกต่อต้านจากนักการทูตสหรัฐฯ ในกาตาร์ที่เกรงว่าเรื่องนี้อาจสร้างความไม่พอใจให้กับทางการกาตาร์
ในที่สุด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนดังกล่าวได้แจ้งนายเพลเลกรีโนว่าเจ้าหน้าที่กาตาร์อ้างว่านายโมฮัมเหม็ดได้หลบหนีไปแล้ว เขายอมรับว่าในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 นั้น นายโมฮัมเหม็ดยังไม่ใช่เป้าหมายคนสำคัญของทางการสหรัฐฯ และเขาเองก็ไม่สามารถผลักดันให้นายโมฮัมเหม็ดติด 1 ใน 10 รายชื่อคนร้ายที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุดได้
หลังจากนั้นชื่อของนายโมฮัมเหม็ดก็ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องในสมุดจดเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายที่ถูกจับกุมได้ทั่วโลก แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขามีเส้นสายที่กว้างขวาง และในช่วงนี้เองที่เขาไปหา บิน ลาเดน พร้อมกับความคิดเรื่องการฝึกฝนนักรบจีฮัดให้ขับเครื่องบินพุ่งชนอาคารสำคัญในสหรัฐฯ
และแล้วเหตุวินาศกรรม 9/11 ก็เกิดขึ้น ความสงสัยของนายเพลเลกรีโนที่ว่านายโมฮัมเหม็ดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง หลังจากสมาชิกคนสำคัญของอัลไคดาที่ถูกจับกุมได้ระบุตัวนายโมฮัมเหม็ด
ในที่สุด ปี 2003 นายโมฮัมเหม็ดถูกจับกุมได้ในปากีสถาน นายเพลเลกรีโนหวังว่าคนร้ายราย คนนี้จะถูกนำตัวไปดำเนินคดีในข้อกล่าวหาที่เขาได้ดำเนินการมาตลอด ทว่านายโมฮัมเหม็ดกลับหายตัวไป โดยสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ได้นำตัวเขาไปไว้ที่ "คุกลับ" ซึ่งใช้วิธีการทรมานต่าง ๆ เพื่อให้คนร้ายรายนี้รับสารภาพและเปิดเผยข้อมูล
นายโมฮัมเหม็ดถูกทรมานด้วยวิธี "วอเตอร์บอร์ดดิง" หรือ จมบก (Waterboarding) ซึ่งเป็นการสอบสวนโดยการเทน้ำใส่ปากและจมูกเพื่อให้ผู้ถูกทรมานอยู่ในภาวะเหมือนกำลังจมน้ำอย่างน้อย 183 ครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีทรมานสุดโหด
2
Waterboarding cr:https://nationalpost.com/opinion/christopher-hitchens-theres-no-doubt-in-my-mind-waterboarding-is-torture
นอกจากนี้เขายังถูกทรมานด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การต่อสายให้อาหารทางทวารหนัก การห้ามนอนหลับ การบังคับให้อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า และการขู่จะเอาชีวิตลูก ๆ ของเขา เป็นต้น ตอนนั้นนายโมฮัมเหม็ดได้สารภาพถึงแผนการมากมาย แต่รายงานของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่จัดทำขึ้นในภายหลัง พบว่าข้อมูลข่าวกรองส่วนใหญ่เป็นการกุเรื่องสร้างเรื่องขึ้นมา
ในปี 2006 นายโมฮัมเหม็ดก็ถูกย้ายตัวไปคุมขังที่เรือนจำกวนตานาโม บริเวณอ่าวกวนตานาโม ในคิวบา และเอฟบีไอก็ได้เข้าถึงตัวเขาในที่สุด
ในปี 2007 เจ้าหน้าที่แฟรงก์ เพลเลกรีโน ได้เผชิญหน้าคนร้ายที่เขาติดตามตัวมานานหลายปี ทั้งสองนั่งเผชิญหน้ากัน นายโมฮัมเหม็ดมักจะพูดโอ้อวดในการไต่สวนที่เรือนจำกวนตานาโม และไม่แสดงอาการสำนึกผิดใด ๆ ต่อสิ่งที่เขาก่อ
ในท้ายที่สุดความพยายามนำความยุติธรรมมาสู่เหตุวินาศกรรม 9/11 กลับต้องสะดุดลง หลังจากแผนจัดการพิจารณาคดีขึ้นในนครนิวยอร์กล่มลง เนื่องจากถูกคัดค้านจากสาธารณชนและนักการเมืองที่ไม่ต้องการนำตัวนายโมฮัมเหม็ดมาเหยียบแผ่นดินอเมริกาอีก และให้คุมตัวเขาไว้ที่อ่าวกวนตานาโมแทน
แม้จะมีการดำเนินคดีในศาลทหาร แต่กระบวนการเป็นไปอย่างล่าช้า ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก
นายเดวิด เนวิน ทนายความของนายโมฮัมเหม็ดเชื่อว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีก 20 ปีกว่าที่จะปิดคดีนี้ลงได้ โดยชี้ว่านี่เป็นการพิจารณาคดีอาญาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ทั้งยังเป็นคดีที่มีการถกเถียงกันมากที่สุด จากการที่ผู้ต้องสงสัย 5 คนถูกคุมขังในคุกลับของซีไอเอที่ใช้วิธีทรมานเพื่อรีดข้อมูลและให้รับสารภาพ
แม้ว่าทางการสหรัฐฯ มีความคิดต้องการจะปิดเรือนจำกวนตานาโม ซึ่งเปิดเมื่อปี 2545 ตามนโยบายของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แต่จนถึงปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นพื้นที่ควบคุมตัวชาย 39 คน ซึ่งไม่เคยถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ตามหลักกฎหมายสากล และยังไม่มีใครรู้ว่า ชายกลุ่มนี้ ซึ่งถือเป็น บุคคลอันตรายถึงขีดสุด จะได้ออกจากสถานที่แห่งนี้เมื่อใด หรืออาจจะไม่...?
cr: https://gc.org.au/sermons/war-of-the-mind/
คงมีคำถามตัวโตๆ ว่า สหรัฐอเมริกากำลังรบอยู่กับอะไร?? ใคร?? หรือรบกับตัวเอง รบกับความคิดตัวเอง “สงคราม” ในใจตนเอง??
1
cr:
https://www.bbc.com/thai/international-58464860
https://th.wikipedia.org/wiki/วินาศกรรม_11_กันยายน
https://mgronline.com/around/detail/9640000090541
https://www.dailynews.co.th/news/259701/
ข่าวรอบโลก
ประวัติศาสตร์
3 บันทึก
10
4
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เพิ่งรู้นะนี่
3
10
4
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย