25 ธ.ค. 2021 เวลา 16:32 • ไลฟ์สไตล์
ปกติผมมักโพสต์กิจกรรมต่างๆ นอกเหนือจากการวาดรูปให้ได้ชมผ่านเพจเสมอๆ หลายท่านอาจทราบแล้วว่าผมชอบเลี้ยงปลา และยังชอบปลูกต้นไม้อีกด้วย บางคนมองว่ามันคืองานอดิเรก แต่...ส่วนตัว ผมชอบเกินกว่างานอดิเรกซะอีก เพราะสามารถขลุกอยู่กับมันได้ทั้งวัน โดยไม่เบื่อ
เมื่อต้องเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องงานในอินเตอร์เน็ต ผมมักจะลดๆ เลี้ยวๆ ชะแว้บๆ...แวะเข้าไปดูเรื่องราวหรือคลิปเกี่ยวกับสิ่งที่ผมชอบเป็นประจำ (ฮา) และเจ้า Ai ยูทูปสุดฉลาด มันก็จับพฤติกรรมเราได้ มันจึงนำเสนอคลิปที่มีเนื้อหาที่เราสนใจ จนต้องเผลอคลิกเข้าไปดูจนได้ ทำให้ไม่กี่วันมานี้ ผมได้รู้จักกับ Youtube แชนแนล Cactus Journey ของคุณแมว ซึ่งเป็นช่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Cactus ทั้งหมด คุณแมวพาไปชมสวนตะบองเพชรตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง แน่นอนว่าต้องไม่ลืมแวะสวนแคคตัสในตำนานอย่าง #กระท่อมลุงจรณ์ ด้วย ซึ่งเป็นสวนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี
หลังจากไล่ดูเพลินๆ ไปหลายคลิป ก็ไปเจอกับคลิปหนึ่งที่คุณแมวพาไปที่หน้าร้านกระท่อมลุงจรณ์ที่สวนจตุจักร ในวันขายส่งตั้งแต่เช้ามืด ระหว่างดูก็ไปสะดุดกับป้ายชื่อร้านที่แขวนอยู่บนผนัง ทำให้ผมเหมือนได้ดื่มน้ำยาสรรพรส หวนระลึกถึงความทรงจำในอดีตย้อนกลับไปราว 30 ปี โน่น
สมัยผมยังเรียน ปวส. อยู่ที่วิทยาลัยช่างศิลป ลาดกระบัง ตอนนั้นอายุน่าจะราวๆ 18 - 19 นี่แหละ ด้วยความที่ผมสนใจเกี่ยวกับต้นไม้และปลาสวยงามอยู่แล้ว สวนจตุจักรจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ผมต้องแวะไปเป็นประจำเมื่อมีเวลา เฉพาะต้นไม้ที่วางขายในตลาดนัดขนาดใหญ่แห่งนี้ ก็น่าจะมีเกินกว่าพันชนิดแล้ว เชื่อว่าคนรักต้นไม้ทุกคนคงเคยผ่านตาเจ้าต้นไม้รูปร่างกลมๆ ป้อมๆ ที่ลำต้นปกคลุมไปด้วยหนามแหลม มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ทั้งสีสัน ลวดลาย และสายพันธุ์ ที่เรียกได้ว่าละลานตามาก
แถมมีหลายราคาให้เลือกซื้อ ตั้งแต่ถูกๆ ยันแพง จนถึงแพงมาก.ก.ก.ก #ร้านกระท่อมลุงจรณ์ ถือเป็นหนึ่งในร้านเก่าแก่ ที่ย้ายจากตลาดนัดสนามหลวงมาที่ตลาดนัดจตุจักรตั้งแต่เริ่มแรก (ตลาดนัดสนามหลวง ถูกย้ายมาตลาดนัดจตุจักรสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2525) ตามประวัติเรียกได้ว่าเป็นร้านแรกของประเทศไทย ที่เริ่มขายกระบองเพชรแบบเต็มรูปแบบ
แน่นอนว่า...ผมสะดุดตากับต้นไม้น่ารัก แปลกตา ที่เต็มไปด้วยหนามแหลมนี้ทันที ร้านกระท่อมลุงจรณ์ยังตั้งอยู่ในทำเลดี (โครงการ 5 ซอย 54) ซึ่งติดริมถนนและยังเป็นล็อกหัวมุม แรกๆ ผมก็เป็นลูกค้านั่นแหละครับ พอแวะมาซื้อบ่อยๆ ก็ได้คุยกับเจ้าของร้านซึ่งอัธยาศัยดีและเป็นกันเองมว๊าก.ก.ก.ก (ใครเป็นลูกค้าร้านนี้มานาน คงจะทราบดีนะครับ) ในร้านผมมักจะเห็นคุณลุงคนนึงไว้ผมยาวมัดจุก (แซวหน่อย ไว้ตั้งแต่สมัยนั้น..ยันสมัยนี้ ไม่เคยเปลี่ยนทรง) ผมก็ว่า นั่นแน่....สงสัยต้องเป็น “ลุงจรณ์” ตามชื่อร้านแหงมๆ พอทักไป ดันไม่ใช่..ซะงั้น! แต่คือคุณลุงสรณ์ (คุณอนุสรณ์ สามีป้าป้อม คุณพิกุล สังข์สุวรรณ) ซึ่งป้าป้อมเป็นลูกสาวของ คุณตาพิจรณ์ สังข์สุวรรณ (เจ้าของชื่อเล่น “จรณ์” ผู้ก่อตั้งกระท่อมลุงจรณ์ รุ่นที่ 1 ตั้งแต่ พ.ศ. 2519)
ย้อนกลับไปในสมัย พ.ศ. 2501 กระบองเพชรยังหายากและมีราคาแพงมาก เพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ทั้งจากไต้หวันและอเมริกา แต่..ด้วยใจรักและอดทนของลุงจรณ์ บวกกับความเชื่อมั่นมาตลอดว่า ต่อไปไม้หนามงามชนิดนี้ (ที่ทั้งราคาแพง คนปลูกเลี้ยงน้อย และยังไม่ค่อยเป็นนิยมในสมัยนั้น) “สักวันมันจะเลี้ยงครอบครัวเราได้” โดยลุงจรณ์ค่อยๆ ขยายฐานลูกค้า กลุ่มนักสะสม รวมไปถึงกลุ่มสวนผู้เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ ด้วยคุณภาพและราคาที่จับต้องได้ จนทุกวันนี้มีหลายสวนที่สามารถผลิตลูกผสมงามๆ ได้ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ จนกลายเป็นตำนานของผู้บุกเบิกอย่างกระท่อมลุงจรณ์ ทำให้ปัจจุบันมีผู้นิยมเลี้ยงกระบองเพชรในประเทศไทยนับแสนคน
แบบสเก็ตช์สีน้ำป้าย #ร้านกระท่อมลุงจรณ์ ที่ผมส่งให้ป้าป้อมและลุงสรณ์ตรวจดู ก่อนจะทำเป็นป้ายจริง *สังเกตคำว่า John’s ที่ผมสะกดชื่อผิด แต่แก้ไขแล้วในป้ายที่ทำจริง
จากลูกค้าที่แวะเวียนไปที่ร้านบ่อยๆ ก็เริ่มพูดคุยกันสนิทมากขึ้น ผมจึงเสนอตัวทำป้ายอันใหม่ให้ร้านกระท่อมลุงจรณ์ (จำไม่ได้แล้วว่าป้ายเก่าหน้าตาเป็นยังไง แต่น่าจะเป็นป้ายที่ติดชื่อแบบธรรมดาๆ) ถ้าจำไม่ผิด...รู้สึกป้าป้อมจะเสนอค่าทำป้ายให้ผมด้วย แต่ผมไม่รับ คือถ้าทำให้...ต้องทำให้ฟรีเท่านั้น (555+ สมัยนั้นไฟแรง แถมป๋ามาก.... แต่ถ้าจะให้คิดแบบตอนนั้นก็คือ ลุงกะป้าเค้าจะเอาป้ายเรามั้ยว้า? มากกว่านะ...อิอิ) ผมเลยสเก็ตช์สีแบบคร่าวๆ ให้ดูก่อน (ดูในรูปนะครับ) ในป้ายมีรูปต้นไม้ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือ Huernia zebrina ชื่อไทยน่าจะ #เก๋งจีนโดนัทลายเสือ (อยู่มุมล่างซ้ายของตัวป้าย) ในภาพสเก็ตช์จะเห็นว่าผมสะกดชื่อร้านภาษาอังกฤษผิดเป็น John’s แบบชื่อฝรั่ง แต่ป้าป้อมเขียนแก้ให้ด้านหลังภาพสเก็ตช์เป็น Chorn’s ชื่อเต็มคือ Uncle Chorn’s Cabin
ป้าป้อมเขียนคำภาษาอังกฤษ (ด้านหลังภาพสเก็ตช์) แก้ไขสะกดคำว่า Chorn’s ให้ถูกต้อง คำเต็มคือ Uncle Chorn’s Cabin
สมัยนั้นผมยังสนุกกับการทำป้ายไม้ ผมมักแวะไปซื้อไม้พาเลท (หรือไม้ลังเก่า ที่โละมาจากท่าเรือคลองเตย ซึ่งทำมาจากไม้ฉำฉาหรือไม้สน) ที่เขาแยกเป็นชิ้นๆ มาขายแบบชั่งกิโล สมัยนั้นผมจะซื้อเอาไว้ตอกโครงเฟรมเองสำหรับวาดรูป และแบ่งไว้ทำป้ายด้วย ถ้าดูจากรูปสเก็ตช์จะเห็นผมวาดภาพตัดขวาง (side view) ด้านข้างด้วย จะเห็นไม้ชิ้นหลักที่เป็นตัวป้าย (อยู่ตรงกลาง) และมีไม้ชิ้นรองประกบด้านหลังอีกแผ่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ส่วนไม้ฉลุที่วาดรูปกระบองเพชรประดับมุมป้ายทั้ง 4 ด้าน จะซ้อนอยู่ด้านหน้าสุด (ผมซ้อนไม้หลายชั้นเพื่อให้ป้ายดูมีมิติ)
ไม้ฉลุที่ใช้วาดรูปกระบองเพชร คือ #ไม้โมก แบบเดียวกับที่เด็กนักเรียนฉลุทำงานฝีมือกันนั่นแหละครับ สีที่ระบาย..ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นสีโปสเตอร์นะ พอระบายสีเสร็จแล้ว ก็พ่นสเปรย์กระป๋อง (เคลียร์ใส) ทับ 1 ชั้นก่อน (เพราะสีโปสเตอร์เป็นสีที่ละลายน้ำได้) แล้วค่อยทาวานิช (Gloss Varnish) หรือน้ำยาเคลือบเงาผิวไม้ทับอีกที จากนั้นก็ขันน็อตติดตะขอสำหรับแขวนที่ด้านหลังป้าย ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ภาพส่วนหนึ่งจากคลิป : ไปดูการขายส่ง กระท่อมลุงจรณ์ที่จตุจักร ก่อนอาป้อมเลิกขาย | Cactus Journey EP.104 เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2020
ช่วงนาทีที่ภาพนี้ปรากฏในคลิปคือ 21:28
เนื่องจากผมไม่ได้แวะไปหน้าร้านลุงจรณ์ที่จตุจักรมานาน (น่าจะเกิน 10 ปีได้แล้ว) ตะบองเพชรที่เคยซื้อมาเลี้ยงสมัยวัยรุ่น (น่าจะมีเกินกว่า 50 กระถาง) ก็สู่ขิตกันไปเรียบร้อยแล้ว (ฮา) คือถ้าอยากจะเลี้ยงให้งาม ต้องมีความรู้พอสมควร ควรใส่ใจ...แต่อย่ามากจนเกินไป (ของผมออกแนวมากเกิน) โรงเรือนก็เป็นสิ่งสำคัญ สมัยนั้นผมเอาวางไว้บนโต๊ะม้าหิน (เพราะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ มีพื้นที่จำกัด นอกตัวบ้านจะร่ม ติดเงาหลังคาเยอะ ที่แดดลงมากสุดก็บนโต๊ะม้าหินนี่แหละ) แต่...พอฝนกระหน่ำลงมาทีไร นอกจากดินปลูกและหินเกล็ดโรยหน้ากระถาง จะกระจุยเละเทะหมดแล้ว บางต้นพอแฉะมากเกิน ก็มีอันเน่าตายไปอีก
แต่พอมาเห็นคลิปคุณแมว (คุณแมวลงคลิปนี้ตั้งแต่ 11 ธ.ค. 2020 ผ่านมา 1 ปีเต็มผมถึงได้ดู) ผมถึงกับต้องระลึกชาติกันเลย (ฮา) ป้ายไม้ที่ผมเคยทำไว้...ยังคงอยู่ ขอบคุณป้าป้อมและลุงสรณ์ที่ยังอนุรักษ์มันไว้อย่างดีนะครับ คือผ่านมานานถึง 30 ปีแล้ว จนวานิชที่เคลือบป้าย (มันเก่า) ทำให้ป้ายดูซีดอมเหลือง ดูไปดูมากลายเป็นงาน antique ไปเลย 555+
คลิปนี้กล่าวถึงลุงสรณ์กับป้าป้อม ที่ประกาศว่าจะเลิกขาย (ไม่ได้เลิกทำร้านไปเลยนะครับ) แต่ตั้งใจจะยกการดูแลกิจการทั้งหมดที่สวน ให้เป็นหน้าที่ของลูกชาย คุณภูเขา ชากะสิก ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ได้บริหารและสืบทอดกิจการต่อไป เพราะคุณลุงคุณป้าตอนนี้ก็ 70++ กันแล้ว สว. ขอเที่ยวบ้างล่ะ พอถึงรุ่นที่ 3 ถ้าคุณภูเขาอยากจะเปลี่ยนป้ายอันใหม่ ให้ดูโมเดิร์นเข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากกว่าเดิม ผมก็ไม่ขัดข้องอะไรนะครับ เพราะป้ายนี้ได้ทำหน้าที่ของมันมานานถึง 3 ทศวรรษแล้ว ไม่รู้ว่ามีแตกผุตรงไหนบ้างหรือเปล่า? เพราะไม่ได้แวะไปดูนาน แถมตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำป้ายอะไรแบบนี้อีกแล้วนะครับ
ขอพูดถึงท้ายคลิป (เริ่มนาทีที่ 28:57) ที่ถูกป้าป้อมพาดพิงหน่อย เพราะป้าป้อมพูดถึงผมโดยตรงเลย ขอแก้เกี้ยวนี้สนุง..นะครับ
ลิงค์กระโดดไปดูนาทีที่ 28:57
1. ตอนที่ทำป้ายไม้ให้ ผมน่าจะยังเรียนไม่จบนะครับ แต่ที่ป้าป้อมบอกว่ายังหางานเป็นหลักเป็นแหล่งไม่ได้..นั่นจริง (ฮา) ป้าป้อมน่าจะจำตอนที่ผมเคยแวะไปเยี่ยม #สวนกระท่อมลุงจรณ์ ที่ อ.สามโคก ปทุมธานี ตอนนั้นผมน่าจะเพิ่งจบมหา’ลัยใหม่ๆ ผมมีแนวคิดจะรับไม้จากที่สวนไปขายในตลาดนัด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ สมัยนั้นน้องภูเขายังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่เลย
2. ป้าป้อมบอกว่า ผมเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง อันนี้คือ เอิ่ม....เอาเป็นว่าผมพอเป็นที่รู้จักในเฉพาะกลุ่มมากกว่า (โดยเฉพาะงานลายไทย และตอนนี้มีอีกกลุ่มคือ นักสะสมที่ชอบงานพระเครื่อง ที่ผมเป็นคนออกแบบ) เรื่องชื่อเสียงนี่...ถ้าเอาตามความรู้สึกผมคือ ยังไม่ได้โด่งดังอะไรเลยครับ (ฮา)
3. ป้าป้อมบอกว่า “ผมเป็นศิลปินใหญ่แล้ว” ถ้าว่าตามภาษาพระคือ “แก่พรรษา..เพราะอยู่นาน” หากว่าด้วยเรื่องอายุคือใช่เลย 555+ แต่คำว่าศิลปินใหญ่ในวงการศิลปะ คือต้องมีบารมีมาก ผมนี่...น่าจะยังไม่ใช่เลยนะครับ
แต่ป้ายนี้ผมตั้งใจทำให้จริงๆ เพราะชอบและเพราะอะไรหลายๆ อย่าง ขอบคุณป้าป้อมและลุงสรณ์ ที่ให้โอกาสผมได้มอบป้ายนี้ให้ด้วยนะครับ อ้อ...ขอบคุณคุณแมว เจ้าของ Cactus Journey แชนแนล ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสย้อนระลึกความหลังด้วยครับ
จิด.ตระ.ธานี : #เล่าสู่กันฟังนะครับ
#Jitdrathanee

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา