27 ธ.ค. 2021 เวลา 01:08 • สิ่งแวดล้อม
รู้เรื่องสัตว์ ๆ ตอนที่ 12: "ฮ. นกฮูก"🦉
🕛ระยะเวลาการอ่าน 7-9 นาที
ปิดท้ายซีรี่ย์ “สัตว์ที่ซ่อนอยู่ในอักษรไทย” และขอส่งท้ายปีด้วยนกที่บินส่งจดหมายและของขวัญ🎁 ในโลกแห่งเวทย์มนต์ และนกตัวนั้นก็คือ ‘ฮ นกฮูกตาโตตตตต’ - ตัวอักษรตัวสุดท้ายของอักษรไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับนกชนิดนี้แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค 🇮🇳คนอินเดียเชื่อว่านกชนิดนี้เป็นนกของพระลักษมีผู้เป็นเทวีแห่งโภคทรัพย์และความเจริญงอกงามทางการเกษตร 🇯🇵สำหรับคนญี่ปุ่น นกฮูกคือสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
ในขณะที่ไทยกลับมีความเชื่อว่านกชนิดนี้เป็นนกอัปมงคลเป็น “นกผี” 👻หรือ “สัญลักษณ์แห่งความตาย”💀
ซึ่งในความจริงแล้ว นกฮูกหรือนกแสกก็เป็นเพียงนกชนิดหนึ่งที่ออกหากินในฐานะนักล่าตามกลไกธรรมชาติ ซึ่งการจับหนูกินก็เป็นประโยชน์ให้กับชาวนาและยังช่วยรักษาสมดุลให้กับระบบนิเวศได้อีกด้วย
🦉นกฮูก (owl) และนกแสก (barn owl) จัดเป็นนกขนาดกลางอยู่ในอันดับ Strigiformes โดยนกแสกมีลักษณะเด่นคือหน้าขาวๆ เป็นรูปหัวใจจัดอยู่ในวงศ์ Tytonidae ส่วนนกฮูกหรือชื่ออื่น ๆ เช่น นกเค้า นกทึดทือ จัดอยู่ในวงศ์ Strigidae
นกชนิดนี้สามารถพบได้ในทุกภูมิภาคของโลก ยกเว้นในแถบขั้วโลกใต้และเกาะในมหาสมุทรบางแห่ง โดยทั่วโลกมีอยู่มากกว่า 150 ชนิด โดยบางระบบการจำแนกอาจมีจำนวนชนิดมากถึง 220 ชนิดเลยทีเดียว
โดยในเอเชียพบนกฮูกมีชนิดที่หลากหลายในขณะที่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาพบเพียง 19 ชนิดเท่านั้น สำหรับประเทศไทยพบนกในกลุ่มนกฮูกและนกแสกมากถึง 21 ชนิดเลยทีเดียว
ความลับสู่ความสำเร็จในการล่า : ฮ. นกฮูก ตาโต👀
นกฮูกเป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยมส่วนใหญ่ออกหากินในเวลากลางคืนแต่ก็มีที่ออกหากินช่วงกลางวัน หรือช่วงพลบค่ำและรุ่งสางด้วย เช่น นกเค้าจุด นกเค้าโมงหรือนกเค้าแมว และนกเค้าแคระ
เหยื่อของนกฮูกนอกจากหนูตามบ้านและท้องนาแล้วก็ยังกินสัตว์แทบทุกกลุ่มที่จับได้ เช่น นก กบ เขียด แมลงชนิดต่างๆ หรือสัตว์มีพิษอย่างงู แต่ก็มีนกเค้าบางกลุ่มยังล่าปลา🐟เป็นอาหารหลัก ได้แก่ นกทึดทือ (Fish Owl) นั่นเอง
แล้วรู้หรือไม่ว่ามีมีนกฮูกชนิดหนึ่งที่กินพืชด้วยนะ ซึ่งก็คือ 'elf owl' ซึ่งเป็นนกฮูกที่ปกติจะกินสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหารแต่ก็กินผลไม้และธัญพืชด้วย ซึ่งทำให้นกฮูกชนิดนี้เป็นนกที่มีประโยชน์ในการช่วยขยายพันธุ์พืชด้วย
กลับมาที่ความลับสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในการล่าเหยื่อที่ซ่อนอยู่ในดวงตากลมโตของนกฮูกกันดีกว่า
👀ลูกตาของนกฮูกนั้นยึดติดกับกระดูกเบ้าตา ทำให้นกกลุ่มนี้ไม่สามารถกลอกตาไป-มาได้ถ้าต้องการเปลี่ยนทิศทางการมองเห็นต้องเอียงคอหรือหมุนใบหน้าเป็นวงกลมแทน
ซึ่งนกฮูกก็มีความสามารถในการหันคอได้ถึง 270 องศา ทำให้สามารถหันหน้ามามองด้านหลังได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องขยับตัว
แต่การที่นกฮูกสามารถหันคอได้องศากว้างขนาดนี้นั้นก็เกิดจากการปรับตัวไม่ว่าจะเป็นการมีกระดูกสันหลัง 14 ชิ้น ซึ่งมากกว่านกทั่ว ๆ ไปที่มีกระดูกสันหลัง 7 ชิ้น
รวมไปถึงการปรับตัวของระบบไหลเวียนเลือดเพราะปกติการหมุนคอมากขนาดนี้หากเป็นคนเลือดก็คงไม่สามารถไหลเวียนบริเวณคอได้
แต่สำหรับนกฮูกที่มีระบบไหลเวียนเลือดและหลอดเลือดแบบพิเศษทำให้สามารถกักเก็บเลือดเอาไว้เลี้ยงสมองและดวงตาในขณะที่เอี้ยวคอได้นั่นเอง
นกฮูกกับการหันคอ 270 องศา CREDIT: Solent via:https://www.telegraph.co.uk/science/2016/04/22/can-you-spot-what-is-wrong-with-this-owl/
นอกจากนี้ตำแหน่งดวงตาที่อยู่ด้านหน้าเหมือนกับคนเรา ทำให้นกกลุ่มนี้มีการมองเห็นแบบ "สองตา" (binocular) จึงสามารถมองเห็นวัตถุใน 3 มิติ และสามารถตัดสินระยะทางในลักษณะเดียวกันกับมนุษย์
ระยะการมองเห็นของนกฮูกอยู่ที่ประมาณ 110 องศา โดยประมาณ 70 องศาจะเป็นการมองเห็นด้วยสองตา ทำให้สามารถประเมินระยะทางของเหยื่อได้แม่นยำ
ระยะการมองเห็นของนกฮูกอยู่ที่ประมาณ 110 องศา โดยประมาณ 70 องศาจะเป็นการมองเห็นด้วยสองตา (binocular) ที่มา:https://www.owlpages.com/owls/articles.php?a=5
นอกจากนี้ดวงตากลมโตนั้นยังมีเซลล์ rod ที่ไวต่อการมองเห็นในสภาพแสงน้อยหรือตอนกลางคืน มีรูรับแสงขนาดใหญ่ ทำให้มันสามารถมองเห็นเหยื่อได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ สีของตายังสามารถบ่งบอกได้ว่านกฮูกตัวนั้นออกล่าสัตว์ในตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนอีกด้วย
ตาสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำออกหากินเวลากลางคืน ตาสีเหลืองออกหากินในช่วงกลางวันและตาสีส้ม/แดง ออกหากินในยามพลบค่ำ ที่มา:https://birdwatchinghq.com/facts-about-owls/
ความลับอื่น ๆ ที่ทำให้นกฮูกเป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยมนอกจากตากลมโตแล้ว นกฮูกก็ยังมีหู👂ที่ดีและการบินที่เงียบมาก🪶
โดยนกฮูกหลายชนิดมีช่องเปิดหูอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกัน เช่น นกแสกที่ช่องเปิดหูทางด้านขวาจะอยู่สูงกว่าทางด้านซ้าย และเยื้องไปด้านหลังมากกว่า ทำให้การรับฟังเสียงของหูทั้งสองข้างเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน มันจึงแยกแยะตำแหน่งและที่มาของเสียงได้แม่นยำแม้จะไม่เห็นเหยื่อก็ตาม
และการที่นกฮูกมีขนปกคลุมตัวที่อ่อนนุ่มและขอบขนปีกเป็นซี่หวี ทำให้บินได้เงียบมาก กว่าเหยื่อจะรู้ตัวก็ตกอยู่ในกรงเล็บที่คมเหมือนสันมีด ทำให้เหยื่ออาจตายคาอุ้งเล็บของนกฮูกไปเสียก่อน
ดังคลิปด้านลางที่เป็นการทดลองเปรียบเทียบเสียงกระพือปีกระหว่างบินของนกฮูกเทียบกับนกอื่น ๆ
ความลับที่ไม่ลับ : ฮ. นกฮูก ขายาว🦵
https://twitter.com/SarahO_Connell/status/1164463363168100352/photo/1
คิดว่าบางคนอาจจะเคยเห็นภาพไวรัลของนกฮูกที่เดินอวดขายาวๆ กันมาบ้าง ซึ่งรู้หรือไม่ว่านกฮูกทุกชนิดสามารถเดินได้แต่เพียงแค่เราอาจจะคุ้นชินกับภาพการใช้ขาและกรงเล็บเกาะกิ่งไม้มากกว่า
แล้วไม่ใช่แค่เดินได้นะบางชนิดก็วิ่งได้และวิ่งเร็วด้วย! (แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเดินหรือวิ่งกันเท่าไหร่บินเอาเร็วกว่า) ซึ่งนกฮูกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกก็คือ burrowing owls ดังคลิปด้านล่างนี้
ขาของนกฮูกสามารถยาวได้ถึงครึ่งหนึ่งของความยาวของร่างกายทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของนกฮูก โดย Eagle Owl (bubo bubo) นับเป็นหนึ่งในนกฮูกที่ขายาวที่สุด ซึ่งอาจมีความยาวขายาวถึง 20-30 ซม. เลยทีเดียว และส่วนหนึ่งก็เพราะนกฮูกชนิดนี้เป็นหนึ่งในนกฮูกที่ตัวสูงที่สุดนั่นเอง
ขาของนกฮูกนั้นถึงจะดูเหมือนเก้งก้างแต่ความจริงแล้วแข็งแรงมาก ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการล่าเหยื่อเพราะนกฮูกใช้ขาที่แข็งแรงนี้ควบคู่ไปกับกรงเล็บอันทรงพลัง โดยขณะล่านกฮูกจะยืดขาออกมาซึ่งมีส่วนช่วยในการยืดระยะเพื่อโจมตีเหยื่อได้อย่างแม่นยำ
ความเชื่อของมนุษย์อาจนำความซวยมาสู่นกฮูก
นักล่าที่ตาโต ขายาว? และเก่งฉกาจขนาดนี้ กลับมีศัตรูเป็นความเชื่อของมนุษย์ซะงั้น
เพราะทุกวันนี้จำนวนประชากรนกฮูกและนกแสกกำลังลดลงจากการถูกล่าหรือขับไล่ออกจากโพรงที่อยู่อาศัย
ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่คนกลัวว่านกชนิดนี้จะนำสิ่งชั่วร้ายมาให้ เป็นลางบอกเหตุความตายต่าง ๆ นา ๆ ทำให้ที่พักพิงของนกแสกเหลือเพียงซอกหรือโพรงใต้หลังคาโบสถ์ในวัดเก่าๆ หรือวัดเล็กๆ ตามต่างจังหวัดเท่านั้น
เพราะหากเป็นวัดใหญ่หรือวัดที่มีชื่อเสียงก็จะถูกขับไล่เพราะถูกหาว่าเป็นตัวสร้างความปกปรก ครั้นจะไปอยู่ตามโรงนาเก่า ๆ บ้านร้าง ต้นไม้ใหญ่ที่มีโพรงพอจะเป็นที่ทำรังได้ก็หาได้ยากยิ่ง
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดนอกจากถูกขับไล่ด้วยความเชื่อ (ซึ่งไม่มีเหตุผลยืนยันเลยในทางวิทยาศาสตร์) แล้วยังต้องเสี่ยงชีวิตจากความเสี่ยงที่จะรับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มนุษย์ใช้อย่างแพร่หลาย ผ่านทางเหยื่อของนกฮูก เช่น หนู🐀
โดนเมื่อกินหนูเข้าไป สารเคมีที่สะสมในตัวหนูก็จะเข้าไปสะสมในร่างกายของนกฮูกหรือนกแสก ถ้าสะสมถึงระดับอันตราย นอกจากตายแล้วยังมีผลต่อการสืบพันธุคือจะ ทำให้เปลือกไข่บาง เมื่อแม่นกหย่อนตัวลงฟักก็ทำให้ไข่แตก บางครั้งทำให้เป็นหมัน ไข่ไม่ฟักออกเป็นตัว😢
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการลดจำนวนของนกฮูกหรือนกแสกนั้นมีความคล้ายคลึงกับกรณีขอลงูที่เคยได้เขียนไว้ใน ‘รู้เรื่องสัตว์ ๆ ตอนที่ 3 ง. งูใจกล้า🐍’ เพราะทั้งงูและนกฮูกนั้นล้วนเป็นสัตว์ผู้ล่าตามธรรมชาติที่ช่วยควบคุมประชากรของหนู
แต่ทั้งงูและนกฮูกก็ล้วนเป็นสัตว์ที่มนุษย์กลัวและอยากกำจัดออกไปซึ่งจะทำให้ระบบนิเวศขาดสมดุลและทำให้ไม่สามารถควบคุมประชากรของหนูได้ดังที่ได้เขียนไว้ใน ‘รู้เรื่องสัตว์ ๆ ตอนที่ 6 น. หนูฝักใฝ่🐀’ นั่นเอง
ดังนั้น หากเรียนรู้และเข้าใจความสำคัญของนกฮูกที่มีต่อระบบนิเวศมากขึ้น ก็คงทำให้รู้ว่าการพบเจอนกฮูกหรือนกแสกคือ 'สัญลักษณ์แห่งโชคดี' เป็น ‘นกแห่งความอุดมสมบูรณ์’ ไม่ใช่ 'สัญลักษณ์แห่งโชคร้าย' หรือ ‘นกแห่งความตาย’ แต่อย่างใด...
🌳🐓🐃🐍🐘🐢🐀👨‍👩‍👧‍👦🐡🐝🐎🐒🐅🦉🌲
สุดท้ายนี้อยากขอบคุณทุกคน🙇‍♀️ที่ได้แวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในเพจเล็ก ๆ ของเราที่ทำขึ้นเพื่อได้ปัดฝุ่นความรู้ของตัวเองและแชร์ความรู้ (อันน้อยนิด) ให้กับคนอื่นๆ ที่สนใจเกี่ยวกับสัตว์เหมือนกันกับเรา ปีหน้าก็จะพยายามปรับปรุงการเขียนของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น แล้วแวะเวียนมาอ่านกันอีกนะคะ สวัสดีปีเสือ🐯ล่วงหน้าค่า :)
อ้างอิง
โฆษณา