Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
FIT ESTiiM | TH
•
ติดตาม
28 ธ.ค. 2021 เวลา 11:00 • ไลฟ์สไตล์
Behavior Goals สำคัญอย่างไรกับการเปลี่ยนนิสัย?
ก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึงเรื่องการปรับนิสัยกันไปแล้วซึ่งเป็นการทำความเข้าใจที่มาที่ไปของนิสัย ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมกับแนวทางเบื้องต้น ในการใช้หลัก Small Win เพื่อจัดการกับพฤติกรรม
(สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านเรื่อง Discipline สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ
https://www.blockdit.com/posts/61c9f657a14ce0a7bd1947bc
)
สำหรับหัวข้อนี้ ถือเป็น Part 2 ที่เราจะนำมาต่อยอดในการปรับนิสัยของเราให้ได้ผลมากขึ้นกัน
สิ่งที่เราต้องทำคือการตั้งเป้าหมาย
ซึ่งในที่นี้ เราจะแบ่งเป้าหมายออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. Outcome Goal คือ
เป้าหมายของผลลัพธ์ที่อยากได้ เช่น
- ลดไขมันได้ 5%
- วิดพื้นได้ Set ละ 10 ครั้ง จากที่วิดไม่ได้เลย
- วิ่งมาราธอนได้
ฯลฯ
2. Behavior Goal คือ
เป้าหมายเชิงพฤติกรรม ที่เราตั้งเป้าทำอย่างสม่ำเสมอ เช่น
- ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร
- นอนหลับให้ตรงเวลาทุกวัน
- ยืดกล้ามเนื้อทุกวัน
ฯลฯ
ซึ่งเราจะมา Focus ที่ Behavior Goal กัน
เพราะถ้ามี Outcome Goal เพียงอย่างเดียว
เราอาจจะไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ก็ได้
จึงต้องมีเป้าหมายเชิงพฤติกรรมร่วมด้วย
ในการสร้างนิสัยใหม่ๆ และพิชิตเป้าหมายที่เราต้องการ
แต่การตั้ง Behavior Goal เราก็ต้องใส่ใจเช่นกัน
เพื่อให้วัดความก้าวหน้าและไปถึงเป้าหมายได้จริงๆ
ซึ่งแนวทางที่เป็นที่นิยมในการใช้แล้วได้ผล
คือการใช้หลัก SMART เข้ามาช่วยในการตั้ง
Behavior Goals นั่นเอง
S = Specific
มีความเจาะจง
M = Measurable
วัดผลได้
A = Achievable
วิธีการที่สามารถทำได้ ในการไปถึงเป้าหมาย
R = Realistic
สมเหตุสมผล สอดคล้องกับความเป็นจริงและสถานการณ์
T = Time-bound
มีการกำหนดระยะเวลา ทั้ง Deadline ในการบรรลุเป้าหมาย, ความถี่ในการทำ, ระยะเวลาที่ทำในแต่ละครั้ง
หลักการ SMART Goal สามารถใช้กับ Outcome Goal ได้เช่นกัน โดยเราสามารถตั้งเป้าหมายทั้ง Outcome Goal และ Behavior Goal ควบคู่กันไปได้เลย
ตัวอย่าง SMART Goal เช่น
เรามี Outcome Goal คือ
ต้องการวิดพื้นให้ได้ Set ละ 20 ครั้ง โดยที่ไม่พักเลย
ต้องทำสำเร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน
แต่มี Condition คือ
มีเวลาออกกำลังกายแค่วันละ 1 ชั่วโมง
ว่างแค่วันจันทร์-พฤหัสฯ
ให้ตั้ง Behavior Goal ตามหลัก Smart
S = ต้องฝึกกล้ามเนื้อ อก, ไหล่, แขน, Core Muscle และยืดกล้ามเนื้อเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ท่าหลักๆ ที่ควรฝึก คือ Bench Press, Shoulder Press, และฝึกวิดพื้นด้วย
M = น้ำหนักที่ใช้ควรเริ่มจากน้ำหนักเบาๆ ที่สามารถยกได้ 10-15 ครั้งก่อน และออกกำลังกายกลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการวิดพื้น (อก) ให้ได้ 20 Set ต่อสัปดาห์
A = เนื่องจากยังทำท่า Push Up ปกติไม่ได้ เลยฝึกท่า Knee Push Up ไปก่อน
R = เนื่องจากมีเวลาออกกำลังกายแค่วันละ 1 ชั่วโมง
4 วันต่อสัปดาห์ ดังนั้น กล้ามเนื้อส่วนอื่นเราแค่ Maintain ไว้ แต่ไม่ต้องไปฝึกมันเยอะ และเนื่องจากมีเวลาออกกำลังกายน้อย เราจึงต้องเพิ่มการขยับตัวในระหว่างวันแทน จะได้ไม่ต้อง Cardio นาน
T = ระบุรายละเอียด ว่าจะ Warm Up กี่นาที, Weight Training กี่นาที (ต้องอิงตามท่าออกกำลังกายและเวลาพักระหว่างเซ็ตด้วย), Cardio วันไหนบ้าง ทำนานแค่ไหน, ยืดกล้ามเนื้อกี่นาที, ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า กว่าจะวางแผนไล่มาครบถึงตัว T
บางครั้งเรามีการระบุข้ออื่นๆ ลงไปด้วย ตั้งแต่ตอนที่เราวางแผนช่วงตัว S, M แล้ว
เห็นไหมครับ ว่าหลักการ SMART Goal ไม่ได้ใช้งานยากเลย และไม่ต้องใช้เวลานานมากในการวางแผน ทำให้ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อวางแผนเสร็จ เราสามารถเริ่มลงมือทำได้ทันที
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราวางแผนเรื่องใหญ่ ก็ควรคิดทบทวนจนครบทุกมิติ แนะนำให้ค่อยๆ คิด จนมาถึงตัว T จะได้ไม่มีอะไรตกหล่น
อ่านจบแล้ว ลองนำไปใช้กันดูนะครับ
ถ้าทำตามแผนได้ 80-100% ให้ลุยเลย
แต่ถ้าทำตามแผนได้ไม่เยอะ ให้นำไปใช้คู่กับหลัก Small Win คือเริ่มจาก "ทำทีละนิด"
เพราะต่อให้ทำได้นิดเดียว ก็ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย
บนเส้นทางของการพัฒนาตัวเอง
พัฒนาได้ 1 ก้าว ย่อมดีกว่า 0 เสมอ 😊
Be Fit,
Be Esteem.
บันทึก
1
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย