1 ม.ค. 2022 เวลา 02:45 • สุขภาพ
ฝีในปอด คือ การที่ปอดมีการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรงแล้วมีการทำลายเนื้อปอดจนเกิดเป็นโพรงหนอง
สาเหตุ ฝีในปอด
  • 1.
    ทางหลอดลม เช่น การสำลักน้ำลายหรือเศษอาหาร สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก
  • 2.
    ทางกระแสเลือด เช่น การติดเชื้ออย่างรุนแรงแล้วมีเชื้อเข้ามาในกระแสเลือด
  • 3.
    ปอดอักเสบติดเชื้อแบคทีเรีย
  • 4.
    ฝีที่เกิดแถวใต้กระบังลม เช่น ฝีในตับจะติดเชื้อลุกลามเข้าสู่ปอด
อาการ ฝีในปอด
ก่อนจะเกิดฝีในปอดผู้ป่วยจะมีอาการแบบปอดบวมทั่วไปเป็นเวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ เมื่อมีฝีในปอดเกิดขึ้น ผู้ป่วยจะไอมีเสมหะเป็นหนองจำนวนมาก มีกลิ่นเหม็น และบ่อยครั้งที่เสมหะมีเลือดปน ผู้ป่วยจะมีไข้เกือบตลอดเวลา อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก
ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยคือ หลอดลมพอง ฝีแตกเข้าช่องเยื่อหุ้มปอด และเชื้อกระจายเข้ากระแสโลหิตแล้วไปทำให้เกิดเป็นฝีที่อวัยวะอื่น ๆ อีก
การรักษา ฝีในปอด
การรักษาฝีในปอดประกอบด้วยการให้ยาปฏิชีวนะร่วมไปกับการระบายหนองออกจากปอด ซึ่งโดยมากจะใช้วิธีเคาะปอด ให้ยาขับเสมหะ และยาขยายหลอดลมก่อนการผ่าตัด ฝีในปอดที่แตกทะลุเข้าช่องเยื่อหุ้มปอดแล้วต้องทำการดูดออกหรือใส่สายระบายลงขวด
  • 1.
    ฝึกการหายใจ โดยเน้นปอดบริเวณที่มีหนองให้มาก เพื่อเป็นการเพิ่มการขยายตัวของปอดส่วนนั้นได้อย่างเต็มที่
  • 2.
    ทำ chest trunk mobilize คือ การหายใจเข้าออกพร้อมการขยับรยางค์บนอย่างเร็วๆ เพราหนองมีลักษณะเหนียวข้นกว่าเสมหะ การทำเร็วๆช่วยระบายหนองทางสายยางได้ดีขึ้น และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของทรวงอก เพราโรคนี้มักเรื้อรังจนทำให้เกิดพังผืดยึดรั้ง ทำให้การขยายตัวของทรวงอกลดลง
  • 3.
    Postural drainage คือการจัดท่าให้หนองไหลเข้าสู่ขวดระบายให้ได้มากที่สุด
  • 4.
    Percussion / vibration คือการเคาะปอดหรือการสั่นปอด เพื่อเป็นการเร่งระบายหนองออกทั้งนี้ สามารถรักษาทางกายภาพบำบัดโดยใช้หลายวิธีร่วมด้วย เช่น เคาะปอดในท่าที่ต้องระบาย เมื่อเคาะเสร็จให้ผู้ป่วยทำ chest trunk mobilize เพื่อเป็นการรักษาทางกายภาพบำบัดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา