2 ม.ค. 2022 เวลา 08:34 • นิยาย เรื่องสั้น
บทที่10 ความคิดนิมิตฝัน
หลังจากผ่านน้ำตกผาดอกเสี้ยว จะเป็นเส้นทางเดินเท้าที่สวยมาก เหมือนในหนังต่างประเทศ ทิวเขาและนาขั้นบันได เส้นทางผาดอกเสี้ยว ใครมาอินทนนท์ไม่ได้มาทางนี้ ถ้ารู้คงเสียดาย
ผาดอกเสี้ยว
▪︎
" หลวงพ่อขอรับ โลกคู่ขนานมีจริงมั้ย"
"หมายที่คุณโยมคิดเมื่อสักครู่ใช่มั้ย" พระชรารู้ทัน
"ผมปิดท่านไม่ได้เลย"
"ผมคิดย้อนถึง สิ่งที่ผมได้เห็นมา ภาพหนึ่งเหมือนผมเป็นเด็กญี่ปุ่น อีกภาพก็เจอแม่ที่เคยเจอที่ญี่ปุ่น อีกชาติก็เหมือนจะเป็นคนที่มีอะไรคล้ายผมไปหมดแม้กระทั่งชื่อ เหมือนมิติที่ทับซ้อน มีผมอีกโลกหนึ่งแต่ตัวผมก็อยู่นี่ " ชายหนุ่มแถลง
"เรารู้เพราะเราอยากรู้ เรื่องที่ไม่รู้ก็ใช่ว่าจะอยากรู้ทุกเรื่อง และบางเรื่องที่อยากรู้แต่ก็ไม่รู้"
1
"เราไม่มีญาณหยั่งรู้อันพิศดารอย่างนั้น
ว่าจริงหรือไม่จริง เราไม่ใช่องค์พระสรรพพัญญูที่จะรู้ได้ทั้งหมด บารมีเราไม่ถึงอย่างนั้น"
"แต่เราพูดได้อย่างหนึ่ง คือสิ่งที่เธอเห็นคือจริงแต่มันไม่จริง"
🌿
".หมายความว่ากระไรขอรับ" ชายหนุ่มชักงง
"เราเคยคุยกันเรื่องนิมิตใช่ไหม" สมณะถามกลับ
"ใช่ขอรับ" ชายหนุ่มนึกทบทวน
..
นาขั้นบันได ผาดอกเสี้ยว
🌿
"นิมิต ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง  แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"
1
เป็นคำพูดสั้นๆแต่กินใจความลึกของครูอาจารย์อริยสงฆ์ทางอีสานใต้ ท่านมีนิสัยพูดน้อย สันโดษ แต่พูดแต่ละคำสะเทือนทั้งสามโลกธาตุทีเดียว"
พระชราพูดขณะที่คนทั้งคู่ยืนที่จุดชมวิว ผาดอกเสี้ยว ที่เห็นนาขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตา แม้เลยฤดูเก็บเกี่ยวมาแล้ว แต่ก็ยังคงงามตามธรรมชาติอยู่
🌿
"..ท่านหมายถึง นิมิตหรือภาพที่เขาเห็นนั้น บางคนเขาเห็นอย่างนั้นจริงๆ อาจมิพูดปดแต่ประการใด  เพียงแต่ว่า สิ่งที่เขาเห็นนั้น มันอาจไม่เป็นจริง เป็นเพียงการเห็นหรือการเข้าใจอันเกิดขึ้นเฉพาะเขา.."
"..อันมีสาเหตุเนื่องมาจากใจหรือความจำดั้งเดิมของเขาเองเป็นสำคัญ หรือจากความกังวลหรือพัวพันใดๆก็ตามที หรือปรุงแต่งอยู่เสมอๆโดยไม่รู้ตัว จนอาจเกิดนิมิตขึ้นก็ได้"
จนคิดว่านั่นคือความจริง🌿
พระผู้ชราหันมามองชายหนุ่ม เห็นท่าทีผู้รับฟัง ฟังด้วยอาการสงบจึงกล่าวต่อไปว่า
"..ไม่ใช่ว่าจะเกิดในผู้ปฏิบัตินะ คนธรรมดาที่จิตเขาละเอียดโดยธรรมชาติก็เกิดได้ โดยเฉพาะคนที่อ่อนไหว ไม่งั้นโรคซึมเศร้าคงไม่ถามหา ฆ่าตัวตายก็เยอะ เพราะหลงไปในความคิดและจินตนาการ จนถอนตัวไม่ขึ้นแยกไม่ออกอันไหนจริง ไม่จริง สำคัญคือไม่เชื่อใคร ทั้งที่มีคนเตือน ถลำลึกเกินกว่าจะรับรู้.."🌿
นาขั้นบันได ผาดอกเสี้ยว
🌿
"..คุณโยมเองก็จงตรองให้ดี อย่าไปหลงกับสิ่งที่จิตสร้างขึ้น จิตนี้มีอานุภาพมาก สร้างให้ดีก็ได้ให้ชั่วก็ได้.."
"จิตกับใจคืออันเดียวกันใช่มั้ยขอรับ"🌿
"ใช่แล้วคุณโยม จะเรียกใจหรือจิตก็อันเดียวกัน แล้วแต่ใครจะเรียก"
"..เราจะเล่าเรื่องให้ฟัง มีพี่น้องชายหญิงคู่หนึ่ง มุ่งอยากปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เข้าถ้ำทำสมาธิภาวนา เกิดระลึกชาติได้ว่าทั้งคู่เคยเป็นสามีภรรยากันเมื่อชาติก่อนเก่า จึงได้สมสู่กันตามสัญญา(ความจำดั้งเดิม/ความระลึกได้ /จำได้) เก่า พอได้สติ ถึงกับวิปลาสเป็นบ้าเป็นหลังกันเลยทีเดียว.."
🌿
"..ความสามารถระลึกชาติ มองเห็นความเป็นไปของคน มีความรู้ความเห็นมากมาย เห็นวิญญาณ สิ่งลี้ลับ ก็คิดว่าตัวเองมีปาฏิหาริย์มีอำนาจเหนือผู้ อื่นกลายเป็นเพิ่มอัตตาของตนไปอีก เพลี้ยงพล้ำก็พาลูกศิษย์เข้ารกเข้าพงทำสิ่งไม่ควรทำ ทำเพื่อเพิ่มกิเลสแสวงหาลาภยศกันไปอีก จริงแล้วมันก็เป็นธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง ที่ผู้เจอได้เรียนรู้ ไม่แปลกแต่อย่างใด.."
"..เพราะฉะนั้นก็อย่าไปยึดติดกับความรู้เห็นอันนั้น แต่ถ้าจะเป็นไปเพื่อเป็นกำลังใจ อันนั้นคือดีแต่ถ้าเป็นไปเพื่อละเมิดศีลธรรมแล้วให้ละเสีย เพราะฉะนั้น..
1
"การรู้สึกตัวจึงสำคัญ"🌿
"ทุกอย่างเป็นดาบสองคมทั้งนั้น"🌿
พระชราย้ำ
ผาดอกเสี้ยว
🌿
" ..เครื่อมือมือที่ใช้เพื่อการรู้สึกตัวคือสติสัมปชัญญะ
สติ หมายถึง ความระลึกหรือนึกคิดในกิริยาหรือสิ่งที่ตนกระทำอยู่
     สัมปชัญญะ หมายถึง ความรู้ตัวหรือรู้ในกิริยา รู้ในการกระทำของตนทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว กำลังเกิดขึ้น และที่กำลังเกิดในอนาคต"
1
เปรียบง่ายๆเหมือนเราโยนขยะเข้าเครื่องแยกขยะ เซนเซอร์รู้เลยว่ามีขยะเข้ามาในสายพาน เทียบได้กับสติ เมื่อเข้าสายพาน เซนเซอร์อีกตัวก็ทำการคัดแยกเลือกว่าอันไหนใช้ไม่ได้ก็ตกไป อันไหนใช้ได้ก็เอาไปใช้ประโยชน์ได้อันนี้คือเรื่องของสัมปชัญญะ
พระชราอธิบายเพิ่มเติม
ดอกบัวตอง
▪︎
"..เทียบเคียงคล้ายๆความคิดเราเลยนะขอรับ ถ้าเราสังเกตให้ดี ความคิดมันผุดขึ้นมาเอง แล้วเราจึงไปให้ค่ามันทีหลัง ชอบก็ว่าดีไม่ชอบก็ว่าไม่ดี" ชายหนุ่มออกความเห็น🌿
1
"แต่ที่อันตรายก็คือ"ชอบ"ใช่มั้ย" สมณะเสริมท้าย
"ขอรับ อย่างนั้นจริง""..
"..ความคิดผุดขึ้นมา บางทีมีภาพ แล้วบางครั้งก็อินไปกับเรื่องราว อารมณ์ร่วมก็ขึ้น เป็นโกรธบ้าง เกลียด บ้าง รักบ้าง เหมือนกับนิมิตเลยนะขอรับ.." เขาพูดขณะที่ตาชะเง้อมองหาดอกเสี้ยวที่มักพบหน้าผาแห่งนี้
🌿
ดอกเสี้ยว ภาพจากเน็ต
"..ใช่เราจะเรียกว่าฝันกลางวันก็ได้ ทันทีที่ความคิดเกิด ปรุงแต่งเกิด ภาพก็เกิดแถมบางทีเป็นภาพเคลื่อนไหวซะอีก บางทีก็มีอารมณ์ร่วมบางทีก็ไม่มีอารมณ์ร่วม.."🌿
"จริงๆแล้ว ถ้าเราไม่ให้ค่าตั้งแต่เริ่มต้นก็จบ
ใช่มั้ยขอรับ"🌿
1
"..เช่นนั้นแต่ทำเช่นนั้นไม่ได้ทั้งหมด" ท่านพูดและกล่าวต่อไปว่า
"..นิมิตแปลว่าเครื่องหมาย ในคนภาวนาบางคนเอากำหนดเครื่องหมาย ไม่ว่าจะเป็นคำบริกรรมเช่น การนึกถึงลมหายใจเข้าออก การพิจารณาผมขนเล็บอะไรต่างๆตามแต่ละสำนักจะใช้ นึกถึงคุณของพระ นึกถึงเทวดา ก็ได้
ก็ดึงจากวิธีในพระไตรปิฎกที่รวบรวมโดยพระอริยเจ้าที่รวบรวมคำสอน ที่พระพุทธเจ้าท่าน สอนในที่ต่างๆ ต่างกลุ่ม ต่างบุคคล ต่างกาลเวลา
1
มี40วิธี หรือ40กอง🌿
จะยึดวิธีใด แล้วแต่ใครถนัดอะไร แต่ละคนไม่ชอบหรือชอบ หรือเรียกว่าถูกจริตไม่เหมือนกัน มาเป็นเครื่องล่อให้ใจสงบเกิดความตั้งมั่น เพื่อการเรียนรู้กายใจ
เลือกมาแล้วก็นึกถึงคิดถึงให้ใจจดจ่อ จนกระทั่งเป็นความเคยชิน จดจ่อหรือไม่จดจ่อก็เห็น แต่ไม่จดจ้องจนเครียด ตึง แข็งกระด้าง
นึกถึงเบาๆ เคล้าเคลียนิมิตกันไป จนเกิดธรรมชาติที่อย่างใดอย่างหนึ่งที่เราธรรมดาทั่วไปสัมผัสไม่ได้
🌿
จริงแล้วในบุคคลทั่วไปที่นับถือศาสนาอื่น ก็ทำได้ โดยนึกถึงพระเจ้าของเขา หรือสิ่งที่เขายึดเหนี่ยว แต่ไม่ควรเป็นสิ่งที่นำพาใจเราลงสู่ที่ต่ำ วุ่นวายใจ แต่เพื่อโน้มใจให้สงบ จิตมีความสบาย
นาขั้นบันได ผาดดอกเสี้ยว
🌿
"..แต่ถ้าเราเข้าใจว่าจุดประสงค์ของการทำแบบนี้คือการทำจิตให้ตั้งมั่นสงบเท่านั้น เป็นบันไดขั้นแรก เราก็ไม่ได้เอาอะไรกับความรู้ความเห็นนั้นที่เป็นผลพลอยได้ มีสักแต่ว่าเห็น หรือ จิตพักนิ่งๆไม่รู้ไม่เห็นอะไร ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไร เพราะเราต้องการให้จิตเขาพักก็เท่านั้น "
"..เหมือนกับพักรถเติมน้ำมันเติมน้ำ ให้รถมีเชื้อเพลิงวิ่ง ให้เครื่องคลายร้อน"
"แล้วจากนั้นจึงวิ่งต่อ"
"วิ่งยังไงก็เป็นขั้นต่อไปคือที่จะพิจารณาความเป็นจริงของชีวิต นั่นคือทุกอย่างเป็นไตรลักษณ์ แล้วน้อมมาเห็นกายใจเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์มีแรงบีบคั้นเป็นเนืองนิจ เป็นอนัตตาไม่มีเราเขาเห็นแต่สภาวะเกิดขึ้นดับไปเท่านั้น..."🌿
"..อันนี้จะกันหลงได้ แต่ถ้าไม่น้อมลงที่ไตรลักษณะ อันนี้คงได้คาอยู่ที่เดิม มีสิทธิ์เพี้ยนแบบกู่ไม่กลับคิดว่าตัวเองอยู่ค้ำฟ้า หรือคิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ ถ้าไม่รู้ตัว อันตรายหนักหนา.."
" ..และธรรมชาติมันลึกล้ำกว่านั้น ให้ของขวัญที่วิเศษเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเรา ก็คือ
"การลืม .." ชายหนุ่มเปรยขึ้นมา เขาจำเรื่องราวที่ท่านสอนครั้งก่อนได้อย่างดี🌿
"เพราะฉะนั้นเราถึงต้องมีอาวุธ ที่ใช้ฝึก
นั่นคือสติ และสัมปชัญญะ"
"ขอให้คุณโยมจำไว้นี่คือเครื่องมือที่ไว้ใช้ ไม่ใช่ยึดถือในเครื่องมือ ไม่ใช่กอดสติกลัวสติหาย ไปเพ่งให้มีสติต่อเนื่องหรือรู้สึกตัวจนเครียด อันนี้ไม่ได้ความ ใช้ไม่ได้ เราใช้ให้ได้บ่อยเท่านั้น
รู้สึกตัวบ่อยเอาก็พอ มีเครื่องมือก็ต้องใช้ให้เป็น เพราะเครื่องมือก็ตกอยู่ในอำนาจของการลืมเช่นกัน "
🌿
🔅"..ทั้งสองลักษณะถ้าจะให้พูดง่ายๆคือรู้สึกตัวให้ไว ตัดสินใจให้ดี..:🔅
"..แต่จะไว ตอนไหน มันก็จะลืม ที่คุณโยมบอกว่า ถ้าไม่ให้ค่าเริ่มต้นมันก็จบ ใช่มั้ย"
"แต่เราตอบว่าใช่แต่ไม่ทั้งหมด"
"..เพราะมันรวดเร็ว อยู่ๆความคิดเกิดมันปรุงแต่งขึ้นมา เกิดการรับรู้ทางใจ ผัสสะหรือการกระทบก็เกิดเพราะมันถูกกระทบ มันก็กระเทือนขึ้นมา ความจำได้หรือเราเรียกว่าสัญญาก็เกิด เกิดยึดถือการปรุงแต่งนั้นว่าเป็นเราเป็นเขา เกิดเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา เกิดอารมณ์ร่วมขึ้นมา..."
เพราะฉะนั้นจะรู้สึกตัวที่ขั้นตอนไหนก็จะเห็นสภาพเดียวกันหมด คือมันเกิดของมันเอง แล้วทันทีที่รู้สึกตัวมันก็ดับเอง มันไม่ใช่เราแน่ๆ เพราะถ้าเป็นเรามันต้องบังคับได้สิ.."
และมันสำคัญตรงที่ว่า เพราะเราไม่รู้ว่ามันคือธรรมชาติเป็นอย่างนั้น
เราจึงยึดว่านั่นคือของเรา เราก็คงหวงนักหวงหนา ว่าความคิดนั้นคือของเรา🌿
1
"ก็เพราะเราไม่รู้นี่ขอรับ.." ชายหนุ่มแย้ง
"..ใช่ เพราะไม่รู้ เราถึงต้องเรียน.."
"ความไม่รู้คืออวิชชา "
เราถึงต้องแก้โดย สิกขา สิกขา คือการเรียนรู้ เกิดวิชชา
"ศาสนาพุทธเป็นศานาสอนให้คนต้องเรียนรู้
"ไม่ใช่เรียนรู้เรื่องภายนอก"
"แต่เรียนรู้ตำราที่มีใกล้ตัว"
"กายกับใจ"ชายหนุ่มเอ่ย🌿
"นั่นแล คุณโยมเริ่มเข้าใจแล้วหนา" พระชรายิ้ม
🌿
"..ที่ท่านพูดว่าอยู่ๆความคิดเกิดมันปรุงแต่งขึ้นมา เกิดการรับรู้ทางใจ ผัสสะก็เกิดเพราะมันถูกกระทบ มันก็กระเทือนขึ้นมา ความจำได้หรือเราเรียกว่าสัญญาก็เกิด เกิดยึดถือการปรุงแต่งนั้นว่าเป็นเราเป็นเขา เกิดเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาอาการคล้ายกับปฏิจจสมุปบาทที่เคยอ่านเลยขอรับ"ชายหนุ่มถามย้ำเพื่อคลายสงสัย
"..จะว่าอย่างนั้นก็ได้แต่เราพูดโดยสรุป แต่กระนั้นเห็นมั้ยหล่ะว่าวงจรนี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ถ้าจะสาธยายถึง12อาการตามตำราก็คงงงและต้องจำ แต่ถ้าเรียนเพื่อความเข้าใจโดยละเอียดก็ทิ้งไม่ได้
ถ้าจะเทียบวงจรปฏิจจสมุปบาท ก็เหมือนเขาแสดงภาพสโลว์ให้เห็นเพื่อเราจะเข้าใจง่ายเท่านั้นว่าสิ่งทั้งหลายต้องอาศัยกันจึงเกิดจึงมีเป็นลูกโซ่ต่อเนื่อง สิ่งนี้มีสิ่งนั้นจึงมี แต่ความเป็นจริงเกิดแว๊บเดียวก็ดับ วงจรใหม่เข้ามา ตามเหตุตามปัจจัยที่มากระตุ้น โดยมีความไม่รู้หรืออวิชชาอยู่เบื้องหลัง
"..กายกับใจ คือตำราเล่มใหญ่ที่แม้แต่เทวดาที่มีฤทธิ์ นาคผู้มีเดช ครุฑ ผีสาง หรือใครๆยังต้องอิจฉา จึงอยากปราถนามาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์เห็นสุขทุกข์ง่ายพอดี เป็นเทวดาก็สุขเกินยาวนานหลงไหลไปกับความสุขที่ยืนยาวนั่นที่คิดว่าจีรัง จะเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ทุกข์เกินยาวนานจนไม่เห็นทางออก.."🌿
"..เห็นมั้ยหล่ะทีนี้ใครจะต้องอิจฉาใคร
เรามีหนังสือที่ดีที่สุด เราไม่จำเป็นต้องไปอ้อนวอนขอร้องใคร เราศึกษากายใจของเราในสภาวะฐานะที่เป็นอยู่นี่แหละ
เราก็หลุดพ้นเหนือสุขเหนือทุกข์ไปได้.."
"ชีวิตเราจึงมีค่ามากนะ พ่อแม่เขาให้ชีวิตเรามา เราจึงเต้องเรียนให้คุ้ม"
นาขั้นบันได ผาดอกเสี้ยว
🌿
"เมื่อความคิดเกิด แต่ทีนี้เราอาจจะรู้สึกตัวขณะใดก็ได้ ขณะที่เกิดและรู้ทันความคิด ลึกเข้าไปจะเห็นการเกิดดับของความคิด อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเห็นธรรมชาติที่มันเกิดดับมันบังคับไม่ได้"
"หรือเราจะไปรู้ตอนที่ผัสสะตามภาษาพระ หรือจะเรียกว่า "กระทบ"มันเกิด แล้วเกิดการปรุงแต่ง เราก็เห็นมันดับทันทีทีเราเห็นเรารู้สึกตัว เราก็จะเห็นการเกิดดับของมันก็ได้"
"หรือเราจะไปเห็นตอนที่มัน เกิดการยึดถือ เกิดอารมณ์ เราก็จะเห็นมันเกิดดับของมัน
เห็นภพเห็นชาติที่มันปรุงขึ้นมา"
"เราจะเห็นลักษณะของพวกนี้ บางทีก็ปรุงดี บางที่ก็ปรุงร้าย มันแปรปรวนเราบังคับไม่ได้"
🌿
ดอกเสี้ยว
🌿"..กระผมก็ว่ามันพอบังคับได้นะขอรับ
บางทีมันคิดไม่ดี ผมก็พามันคิดดี.."ชายหนุ่มแย้งอีกครั้ง
"..เอ้า..คุณโยมพูดเองนี่นาว่าบางทีมันคิดไม่ดี แสดงว่ามันเกิดเองมั้ย มันนอกเหนืออำนาจเรา..จริงมั้ย" ท่านขำ
"555เอิ่ม..จริงขอรับ" ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง
🌿
"ลองดูนะมันจริงอย่าง เราว่ามั้ย"
"นั่งนิ่งๆโดยไม่คิดสักหนึ่งนาทีดู
ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองก็จะเห็น"
ท่านกล่าวทิ้งท้าย🌿
🔅
🔅
เรื่อง หน่อพระโพธิสัตว์เจ้า
แรงบันดาลใจ: ผาดอกเสี้ยว ดอยอินทนนท์
ขบถ~ยาตรา: เล่าเรื่อง
ความเดิม
ปฏิจจสมุปบาท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา