5 ม.ค. 2022 เวลา 07:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หนังทำเงินในอเมริกาเหนือ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่: ‘Spider-Man’ ยังไปได้สูง เก็บรายได้รวมผ่าน 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ ‘King’s Man’ เอาชนะ ‘Matrix’
รายงานหนังทำเงินในอเมริกา 31 ธันวาคม 2021 – 2 มกราคม 2022 จากเดอะ ฮอลลีวูด รีพอร์เทอร์: หนัง ‘Spider-Man: No Way Home’ ยังครองอันดับ 1 เป็นสุดสัปดาห์ที่สาม ส่วนหนังตอนก่อน ‘The King’s Man’ ทำรายได้ชนะ ‘The Matrix’ เรื่องที่สี่ ขณะที่ 'Sing 2' ยังเดินหน้าเก็บรายได้ไปเรื่อย ๆ เมื่อบรรดาคนดูกลุ่มครอบครัว เริ่มกลับเข้าโรงหนัง ส่วน 'Licorice Pizza' นำขบวนหนังฉายวงจำกัด
หนังโซนี/ มาร์เวล ‘Spider-Man: No Way Home’ อำลาปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ได้แบบสวย ๆ เมื่อเก็บเงินมาอีก 52.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสุดสัปดาห์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และทำสถิติเป็นหนังทำเงินมาที่สุดอันดับ 10 ในประวัติศาสตร์บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาเหนือ โดยยังไม่ได้ปรับค่าเงิน
ขณะที่รายได้ทั่วโลก ไอ้แมงมุมชักใยเก็บสถิติใหม่มาเรื่อย ๆ โดยตอนนี้หนังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในยุคโรคระบาด ที่ทำเงินผ่านพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั่วโลก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เปิดตัวในจีน หนังถือเป็นชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ของโซนี และเป็นการเริ่มต้นปีได้อย่างสวยงามของฮอลลีวูด และบรรดาเจ้าของโรงหนัง โดยเฉพาะความสำเร็จที่ได้รับนั้น อยู่ในระดับเดียวกับที่หนังใหญ่ ๆ เคยทำได้ในช่วงก่อนการระเบิด และหนังเองก็เจอกับการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน
ความสำเร็จของ ‘Spider-Man: No Way Home’ ในอเมริกาเหนือ ส่งให้รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในอเมริกาเหนือปีนี้ พุ่งไปถึง 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าที่คาดกันไว้ว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากข้อมูลของ คอมสกอร์ (Comscore) รายได้ปี 2021 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2020 ถึง 101% แต่ยังน้อยกว่าปี 2019 60% แต่อย่าลืมว่าในปีนี้กว่าโรงหนังจะกลับมาเปิดใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็ช่วงฤดูใบไม้ผลิต ทำให้การเปรียบเทียบกับปี 2019 ดูจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ ทางคอมสกอร์และเจ้าของโรงตั้งข้อสังเกตไว้ว่า หากตัดรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2021 ออกไป รายได้ในช่วงเดียวกันของปีนี้และปี 2019 จะลดลงเพียง 40%
ในต่างประเทศ ‘No Way Home’ ทำเงินอีก 78.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้รายได้นอกอเมริกาเหนือเพิ่มเป็น 759 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมทั่วโลกขยับไปเป็น 1.37 พันล้านเหรียญศหรัฐฯ ทำให้หนังรั้งอันดับ 12 หนังทำเงินสูงสุดทั่วโลกตลอดกาล แซงหน้า ‘Black Panther’ ที่ทำรายได้ 1.35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เรียบร้อย โดยยังไม่ปรับค่าเงิน นอกจากนี้หนังยังเอาชนะรายได้ 1.13 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ ‘Spider-Man: Far From Home’ กลายเป็นหนังโซนีที่ทำเงินมากที่สุดไปแล้ว
ยูนิเวอร์ซัลกับอิลลูมิเนชัน เป็นผู้ชนะในช่วงฮอลิเดย์อีกราย หลังเด็กอายุ 5 ขวบและผู้ชราสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ ส่งให้หนังครอบครัว อย่าง ‘Sing 2’ เดินหน้าเก็บรายได้ต่อ หนังยังเกาะอันดับ 2 เอาไว้เหนียวแน่น ด้วยรายได้ 19.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่รายได้รวม 14 วันอยู่ที่ 89.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในตลาดต่างประเทศหนังทำรายได้มาอีก 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมขยับเป็น 54.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ทั่วโลกเพิ่มเป็น 144.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนังครอบครัวอีกเรื่อง ที่เปิดตัวมาตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้า ‘Encanto’ ของดิสนีย์ ยังอยู่ในท็อป 10 หนังจบปีด้วยรายได้กว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอเมริกาเหนือ ส่วนรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 205.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่น่าผิดหวังก็คือ หนังแมน ๆ อย่าง ‘The Matrix Resurrections’ และ ‘The King’s Man’ ที่เปิดตัวในช่วงคริสต์มาสแบบจืด ๆ และยังเก็บรายได้หนืด ๆ ตามมา หนังของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส – วิลเลจ โรดโชว์ ที่เปิดตัวพร้อมเอชบีโอแม็กซ์ ทำรายได้ส่งท้ายปีแบบหงอย ๆ แถมยังแพ้ทั้ง ‘The King’s Man’ และ ‘American Underdog’ หนังอัตชีวประวัติของเคิร์ต วอร์เนอร์ (Kurt Warner) ควอเตอร์แบ็กระดับตำนานของเอ็นเอฟแอล
‘The King’s Man’ หนังของทะเว็นตี เซ็นจูรี/ ดิสนีย์ อยู่ในอันดับ 3 ทำรายได้ 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ 14 วันเท่ากับ 19.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมทั่วโลก 47.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนหนัง ‘American Underdog’ ของไลออนเกท/ ดิ เออร์วิน บราเธอร์ส ทำเงินเพิ่มอีก 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ 14 วันขยับเป็น 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มาถึง ‘Matrix Resurrections’ ที่ยังอยู่ใน 5 อันดับแรก ทำเงินอีก 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ 14 วันแค่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แถมยังเป็นหนังท็อป 10 ที่รายได้ตกมากที่สุดถึง 64% ซึ่งน่าเป็นผลจากการที่ชมได้ในบ้านผ่านเอชบีโอ แม็กซ์ แต่ในตลาดต่างประเทศหนังทำได้ดีกว่า เมื่อทำรายได้ไปถึง 75.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมทั่วโลกเท่ากับ 106 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนังเพลงรีเมกของสตีเวน สปีลเบิร์ก ‘West Side Story’ ยังคงกระเสือกกระสน เก็บรายได้อีกแค่ 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมในอเมริกาเหนือ 39.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมทั่วโลกได้มาเพียง 47.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังเปิดตัวตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม หนังยังไม่มีช่วงเวลาสวย ๆ ให้เห็นเลย
ในกลุ่มของหนังเฉพาะกลุ่ม ‘Licorice Pizza’ ยังไม่หลุดจากท็อป 10 หนังทำรายได้อีก 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่สองของการเพิ่มโรงฉาย รายได้รวมอยู่ที่ 6.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยหนังเปิดตัวด้วยจำนวนโรงที่น้อยกว่าหนังเปิดตัวในวงกว้างมาก ๆ มีโรงฉายแค่ 700 กว่าโรง แต่ทำเงินมากพอจะอยู่ในอันดับ 8 ตามมาด้วยหนังของโซนี ที่เปิดตัวเมื่อวันคริสต์มาส ‘A Journal for Jordan’ ที่เจอชะตากรรมไม่ต่างไปจากหนังสำหรับคนดูกลุ่มผู้ใหญ่เรื่องอื่น ๆ ที่ต้องดิ้นรนอย่างหนัก หนังได้เงินมาแค่ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 2,500 จอ รายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนังเฉพาะกลุ่มของโซนี พิกเฌอร์ส คลาสสิก ‘Parallel Mothers’ ที่ฉายมาเป็นสัปดาห์ที่สอง ทำรายได้ดีทีเดียว เมื่อเก็บรายได้ต่อโรงถึง 10,079 เหรียญสหรัฐฯ หนังฉายแค่ 3 จอในในนิวยอร์ก และอส แองเจลีส
ส่วนบรรดาหนังรางวัลทั้งหลาย ไม่สามารถบอกได้ว่าทำเงินกันไปเท่าไหร่บ้าง เพราะทาง เน็ตฟลิกซ์, แอมะซอน สตูดิโอส์ และแอปเปิล พลัส ที่ปล่อยหนังออกฉายไม่กี่โรง ไม่มีการเผยรายได้ออกมา โดยหนังในกลุ่มนี้ก็อย่าง ‘The Tragedy of Macbeth’, ‘Being the Ricardos’, ‘The Tender Bar’ และ ‘Swan Song’
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
แม้ ‘สงครามเวียดนาม’ คือสงครามแรกที่ สหรัฐอเมริกาต้องพ่ายแพ้ แต่เรื่องราวการรบ ความเป็นไปของสงคราม รวมถึงผลกระทบ ก็ถูกนำมาบอกเล่าเป็นภาพยนตร์มากมาย และนี่คืองานหนังสงครามเวียดนามที่บอกเลยว่า ‘ห้ามพลาด’ และ ‘ต้องหามาชม’ มีเรื่องอะไรบาง คลิกอ่านกันได้เลย > https://bit.ly/3t9MWLL
#Sadaos #VietnamWar

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา