ยุทธจักรวาลกิมย้ง
ตอน 19 : นิยายเย้ยยุทธจักร
Blockdit Originals ซีรีย์บทความพิเศษ
หลังจากที่กิมย้งเขียน แปดเทพอสูรมังกรฟ้า นักอ่านของเขาเชื่อมั่นว่ากิมย้งไม่มีทางเขียนงานที่ดีกว่าเรื่องนั้นได้อีกแล้ว
เขาตั้งค่ามาตรฐานใหม่ไว้สูงมาก
แต่กิมย้งก็คือกิมย้ง สามารถหาแนวทางใหม่มาเขียนจนได้ และในความเห็นของนักอ่านจำนวนมาก เรื่องใหม่นี้ดีกว่า แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ด้วยซ้ำ
นี่คือผลงานหมายเลข 13 ของกิมย้ง
ผู้กล้าหาญคะนอง / กระบี่เย้ยยุทธจักร (笑傲江湖 / The Smiling, Proud Wanderer)
ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์หมิงเป้า ช่วง 20 เมษายน 1967 - 12 ตุลาคม 1969
ลิ้มเพ้งจือเป็นบุตรชายหัวหน้าสำนักคุ้มภัยแห่งหนึ่ง วันหนึ่งเพื่อช่วยหญิงสาวคนหนึ่ง เขาพลั้งมือฆ่าชายคนหนึ่ง แล้วพบความจริงภายหลังว่าคนที่เขาฆ่าเป็นลูกชายของอื้อชางไห่ สำนักชิงเฉิง
อื้อชางไห่นำคนมาฆ่าล้างบ้าน ลิ้มเพ้งจือหนีร่อนเร่ไปในยุทธจักร ชะตาชีวิตพาไปพบพานงักปุกคุ้ง เจ้าสำนักฮั้วซัว หนึ่งในห้าสำนักขุนเขากระบี่
เวลานั้นสำนักกระบี่ห้าสำนักรวมตัวกันเป็นภาคี เรียกว่าห้าสำนักขุนเขากระบี่ ประกอบด้วยสำนักฮั้วซัว ไท้ซัว ซงซัว เห็งซัว ฮ่วงซัว
งักปุกคุ้งฉายา กระบี่วิญญูชน รับลิ้มเพ้งจือเป็นศิษย์
สำนักฮั้วซัวมีศิษย์คนโตชื่อเหล็งฮู้ชง เป็นเด็กกำพร้าที่งักปุกคุ้งและภรรยาเลี้ยงมาแต่เล็ก เหล็งฮู้ชงเป็นคนใจใหญ่ อารี สนุกสนานเฮฮา ดื่มสุรา ไม่คำนึงถึงขนบธรรมเนียม แต่มีคุณธรรม ชอบช่วยเหลือคน กล้าหาญ ไม่กลัวตาย มีไหวพริบ
เหล็งฮู้ชงหลงรักงักเล้งซัง ลูกสาวของงักปุกคุ้ง แต่นางยังไม่มีใจให้เขา
ครั้งหนึ่งเหล็งฮู้ชงต่อสู้กับฉั้งแป๊ะกวง โจรราคะที่จับแม่ชี งี้นิ้มแห่งสำนักเห็งซัว เป็นแม่ชีหน้าตาสวยงาม จนถูกฉั้งแป๊ะกวง โจรปล้นสวาทฉายาโดดเดี่ยวหมื่นลี้ หมายล่วงเกิน เหล็งฮู้ชงใช้กลอุบายหลอกล่อเพื่อช่วยแม่ชีน้อยจนพ้นภัย และหลังจากแพ้เหล็งฮู้ชง ฉั้งแป๊ะกวงต้องรับงี้นิ้มเป็นอาจารย์
ในที่สุดเขาก็คบฉั้งแป๊ะกวงเป็นเพื่อน
เวลานั้นมีเหตุการณ์ในยุทธจักร เล้าเจี่ยฮวงแห่งสำนักฮ้วงซัว หนึ่งในห้าสำนักขุนเขากระบี่ ประกาศล้างมือในอ่างทองคำ (คือถอนตัว) จ้อแนเซี้ยงเจ้าสำนักซงซัวมาขวาง ความเผยว่าเล้าเจี่ยฮวงคบหากับเค็กเอี้ยคนพรรคอสูร ผู้อาวุโสของนิกายสุริยันจันทรา ที่ชาวยุทธจักรเรียกพรรคอสูร
เล้าเจี่ยฮวงบอกว่าตนคบเค็กเอี้ยในเชิงดนตรีเท่านั้น เล้าเจี่ยฮวงชอบเป่าขลุ่ย เค็กเอี้ยชอบเล่นพิณเจ็ดสาย
คนของสำนักซงซัวฆ่าครอบครัวเล้าเจี่ยฮวงจนเกือบหมดสิ้น ยกเว้นบุตรชายคนเล็กซึ่งสำนักซงซัวสัญญาจะไว้ชีวิต หากเอ่ยประณามบิดา เล้าเจี่ยฮวงปลงตก คิดฆ่าตัวตาย แต่เค็กเอี้ยมาช่วย ทั้งสองถูกฝ่ามือสำนักซงซัวฟาด แต่หนีไปได้
เล้าเจี่ยฮวงและเค็กเอี้ยอาการสาหัส บรรเลงบทเพลง ‘ยิ้มเย้ยยุทธจักร’ ร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย
ณ จุดนั้นคือที่ซึ่งเหล็งฮู้ชงซ่อนตัวอยู่
ก่อนตายเล้าเจี่ยฮวงและเค็กเอี้ยมอบบทเพลงที่แต่งร่วมกันให้เหล็งฮู้ชง
งักปุกคุ้งพาศิษย์ทั้งหลายกลับสำนัก และลิ้มเพ้งจือก็เริ่มเรียนวิชาของสำนักฮั้วซัว
การที่เหล็งฮู้ชงไปคบฉั้งแป๊ะกวงทำให้ถูกลงโทษกักตัวบนเขาเป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อสำนึกผิด
ขณะที่เหล็งฮู้ชงถูกกักตัว ณ ผาสำนึกตน ลิ้มเพ้งจือเริ่มสนิทสนมกับงักเล้งซัง นางมีใจให้ลิ้มเพ้งจือ คนที่ช่วยนาง และได้ฆ่าลูกชายของอื้อชางไห่
เหล็งฮู้ชงพบจารึกบนผนังถ้ำเป็นวิชาการต่อสู้ และได้พบกับปรมาจารย์กระบี่ ฮวงเช็งเอี๊ยง อยู่ฝ่ายกระบี่ของสำนักฮั้วซัว ถ่ายทอดวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย (เก้ากระบี่ต๊กโกว) ให้เหล็งฮู้ชง แต่ขอให้เหล็งฮู้ชงสัญญาจะไม่บอกใครว่าเรียนมาจากไหน
เหล็งฮู้ชงเรียนรู้ว่าเดิมสำนักฮั้วซัวของตนมีสองสายคือสายลมปราณและสายกระบี่ หลังศึกนองเลือดระหว่างศิษย์สองสาย ฮวงเช็งเอี๊ยงก็เร้นกายอยู่บนผาสำนึกตน
เหล็งฮู้ชงใช้วิชาเก้ากระบี่เดียวดายช่วยสำนักให้พ้นภัย แต่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับฮวงเช็งเอี๊ยง ไม่ยอมบอกที่มาของเพลงกระบี่ชุดนี้ ทุกคนจึงคิดว่าเขาฝึกวิชาทานตะวันที่ขโมยมาจากตระกูลลิ้มเพ้งจือ
วันหนึ่งงักปุกคุ้งพาศิษย์ท่องใต้ เหล็งฮู้ชงรู้สึกเหมือนตนเองเป็นส่วนเกินของการเดินทาง ประการหนึ่งเพราะรู้ว่างักเล้งซังรักกับลิ้มเพ้งจือ
เหล็งฮู้ชงพบหญิงสาวคนหนึ่งชื่อยิ่มเอี่ยงเอี้ยง ภายหลังเผยว่านางอยู่ในพรรคตะวันจันทรา
เหล็งฮู้ชงช่วยยิ่มเอี่ยงเอี้ยงขับไล่ศัตรูพรรคตะวันจันทรา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ยิ่มเอี่ยงเอี้ยงพาเขาไปสำนักเส้าหลินให้ช่วยรักษา
เมื่อเหล็งฮู้ชงรักษาตัวดีขึ้น เจ้าอาวาสเส้าหลินบอกว่างักปุกคุ้งได้ประกาศขับเขาออกจากสำนักฮั้วซัว
เหล็งฮู้ชงเสียใจ เดินทางออกจากเส้าหลิน พบชายคนหนึ่งชื่อเฮี่ยงมุ่งเทียน ผจญภัยด้วยกันและกลายเป็นพี่น้องร่วมสาบาน
วันหนึ่งเฮี่ยงมุ่งเทียนพาเหล็งฮู้ชงไปที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง ช่วยชายคนหนึ่งที่ถูกขังไว้ในคุกใต้ทะเลสาบนานสิบสองปีออกมา
ชายคนนั้นทิ้งเหล็งฮู้ชงเป็นตัวแทนในคุก เหล็งฮู้ชงพบรอยสลักเคล็ดวิชาดูดดาวในที่คุมขัง และฝึกสำเร็จ หลักวิชานี้คือดูดพลังภายในของคู่ต่อสู้มาเป็นของตัวเอง
ต่อมาชายคนนั้นและเฮี่ยงมุ่งเทียนกลับมาช่วยเหล็งฮู้ชงออกไป พบว่าเฮี่ยงมุ่งเทียนเป็นทูตขวาแห่งพรรคตะวันจันทรา และชายผู้ถูกขังคือ ยิ่มอั้วเกี้ย อดีตประมุขพรรคตะวันจันทราที่ถูกลูกน้องชื่อตังฮึงปุกป่ายยึดอำนาจ และจับขังไว้
ยิ่มอั้วเกี้ยชวนเหล็งฮู้ชงเข้าร่วมพรรคตะวันจันทรา เสนอให้แต่งงานกับยิ่มเอี่ยงเอี้ยง
เหล็งฮู้ชงปฏิเสธ แต่ก็ไปช่วยยิ่มอั้วเกี้ยยึดอำนาจคืนจากตังฮึงปุกป่าย
คนร้ายโจมตีศิษย์สำนักเห็งซัว เจ้าสำนักตาย ก่อนตายยกตำแหน่งหัวหน้าให้เหล็งฮู้ชง ดูแลศิษย์ที่ทั้งหมดเป็นแม่ชี รวมทั้งงี้นิ้ม
เหล็งฮู้ชงไปร่วมการชุมนุมที่เสนอโดยจ้อแนเซี้ยง สำนักซงซัว จ้อแนเซี้ยงมักใหญ่ใฝ่สูง หมายจะเป็นเจ้ายุทธจักร เสนอให้รวมห้าสำนักขุนเขากระบี่เป็นพรรคเดียว ตั้งชื่อว่า พรรคห้าขุนเขากระบี่ แล้วคัดเลือกประมุขโดยการประลอง
ในการประลองรอบสุดท้าย จ้อแนเซี้ยงสู้กับงักปุกคุ้ง งักปุกคุ้งใช้กระบวนท่าที่ไม่มีใครเคยเห็นทำร้ายจ้อแนเซี้ยงจนตาบอด งักปุกคุ้งเป็นหัวหน้าพรรคใหม่
เหล็งฮู้ชงรู้สึกว่าอดีตอาจารย์ของตนเปลี่ยนไป เป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างยิ่ง เขาพบว่าเพลงกระบี่ที่งักปุกคุ้งใช้คือวิชาเพลงกระบี่ปราบมาร
ความเผยว่า อื้อชางไห่ฆ่าล้างสำนักคุ้มกันภัยเพราะต้องการชิงเพลงกระบี่ปราบมาร มิใช่เพราะต้องการล้างแค้นให้ลูก ปู่ของลิ้มเพ้งจือเก็บรักษาคัมภีร์พิชิตมารซึ่งเป็นที่หมายปองของคนในยุทธจักร
ลิ้มเพ้งจือสังหารอื้อชางไห่และศิษย์สำนักชิงเฉิงอย่างโหดเหี้ยม เพื่อแก้แค้นให้ครอบครัว
ลิ้มเพ้งจือเล่าให้เหล็งฮู้ชงกับยิ่มเอี่ยงเอี้ยงฟังว่า ทั้งเขาและงักปุกคุ้งฝึกเพลงกระบี่ปราบมารสำเร็จ โดยต้องตอนตนเอง เพื่อมิให้ธาตุไฟแตก
ความเผยว่างักปุกคุ้งวางแผนทุกอย่างแต่แรก รับลิ้มเพ้งจือเพื่อหลอกคัมภีร์ปราบมาร งักฮูหยินและงักเล้งซังตาย
งักปุกคุ้งต้องการฆ่าลิ้มเพ้งจือเพื่อปิดปาก เหล็งฮู้ชงสู้อดีตอาจารย์ ศิษย์ห้าสำนักถูกหลอกเข้าไปขังในถ้ำที่ฮั้วซัว ฆ่ากันตาย
เหล็งฮู้ชงจับลิ้มเพ้งจือได้ ส่วนงักปุกคุ้งถูกงี้นิ้มฆ่าตาย
เมื่อห้าสำนักกระบี่ล้ม ยิ่มอั้วเกี้ยก็วางแผนยึดครองยุทธจักร แต่เขาตายเพราะหัวใจวายก่อนทำสำเร็จ
ยิ่มเอี่ยงเอี้ยงกลายเป็นหัวหน้าพรรคตะวันจันทรา นางเจรจาให้มีการสงบศึกระหว่างฝ่ายธัมมะและอธรรม สามปีต่อมา ก็แต่งงานกับเหล็งฮู้ชง ทั้งสองก็ลาจากยุทธจักรที่วุ่นวาย
กระบี่เย้ยยุทธจักร (笑傲江湖) เป็นนวนิยายเรื่องยาวที่ไม่ได้ใช้ฉากประวัติศาสตร์จริง เป็นงานการเมืองที่ซ่อนในคราบนิยายบู๊เฮียบ
แม้ กระบี่เย้ยยุทธจักร ไม่ได้ชี้ว่าเป็นเหตุการณ์ในยุคใด แต่ดูเหมือนมันจะสะท้อนเหตุการณ์การเมืองสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรมค่อนข้างชัด
อย่างไรก็ตาม ด้วยเนื้อหาที่กว้างและครอบคลุม กระบี่เย้ยยุทธจักร เสียดสีการเมืองกว้างกว่าแค่ในเมืองจีน แต่ในทุกชาติทุกสังคม การชิงอำนาจ โดยไม่สนใจวิธีการ
นอกจากนี้มันยังผูกเรื่องการเมืองเข้ากับปรัชญาชีวิต ตั้งคำถามว่า อะไรคือความดีและความเลว และต่างกันอย่างไร
คำว่า เซี่ยว (หัวเราะ) ในชื่อเรื่อง เป็นนัยว่าเรื่องในยุทธจักรน่าขบขัน เพราะมีแต่ความหลอกลวง หน้าซื่อใจคด และดูเหมือนใครๆ ก็ต้องการขึ้นที่สูง โดยยินดีเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไป
เหล็งฮู้ชงพัวพันเหตุการณ์แย่งชิงอำนาจของเหล่าคนในยุทธจักร ทั้งฝ่านธัมมะและอธรรมก็ไม่ต่างกัน เจ้าสำนักธัมมะแย่งชิงอำนาจโดยไม่สนใจวิธีการ
กิมย้งตั้งคำถามถึงอะไรคือความถูกและความผิด ทั้งฝ่ายธัมมะและอธรรมต่างก็แย่งชิงอำนาจ
รายละเอียดหนึ่งที่น่าสนใจคือความตายของยิ้มอั้วเกี้ย ประมุขผู้ยิ่งใหญ่ตายเพราะหัวใจวายอย่างกะทันหันในยามที่อยู่จุดสูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องน่าขบขันเช่นกัน ไม่ว่ามีอำนาจสูงแค่ไหน ก็หนีไม่พ้นความตาย
ระดับกิมย้งย่อมสามารถให้ยิ่มอั้วเกี้ยตายแบบพิสดารอย่างไรก็ได้ แต่เลือกวิธีน่าขบขันนี้
เพราะคนในยุทธจักรน่าหัวเราะจริงๆ
งานนิยายกำลังภายในของกิมย้งส่วนมากเล่าประวัติศาสตร์เป็นฉาก และเน้นพฤติกรรมและจิตใจของคน แต่มีบางเรื่องที่สะท้อนความเหลวแหลกของการเมืองในรูปของการเสียดสี เห็นชัดที่สุดใน กระบี่เย้ยยุทธจักร และ อุ้ยเซี่ยวป้อ
กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นโทนเสียดสีการเมืองตรงๆ อุ้ยเซี่ยวป้อ เป็นโทนเสียดล้อแบบ dark humour ก่อนหน้าเรื่อง อุ้ยเซี่ยวป้อ ยังไม่มีนิยายกำลังภายในแบบนี้มาก่อน
กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นนวนิยายการเมือง มิเพียงสะท้อนสังคมโลก มันยังสะท้อนเรื่องส่วนตัวของกิมย้ง
หลังจีนกลายเป็นคอมมิวนิสต์ บิดาของกิมย้งถูก ‘ศาลประชาชน’ ยุคแก๊งสี่คนสั่งประหาร กิมย้งใช้เรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร เสียดสีกับการเมืองช่วงปฏิวัติทางวัฒนธรรมของจีน เมื่อคนในพรรคคอมมิวนิสต์แย่งชิงอำนาจกัน ไม่ต่างจากพรรคต่างๆ ในโลกประชาธิปไตย
ฉากคนของสำนักซงซัวบังคับให้บุตรชายคนเล็กของเล้าเจี่ยฮวงประณามบิดา สะท้อนภาพปฏิวัติวัฒนธรรมยุคแก๊งสี่คน เยาวชนถูกสอนให้ด่าพ่อแม่ตัวเองต่อหน้าสาธารณะ เป็นฉากที่ปวดร้าว แต่เจ็บแสบ
กิมย้งแสดงให้เป็นว่าธรรมะและอธรรมเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน วิญญูชนกับวีรบุรุษก็เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกันเช่นกัน
คำที่ฮิตจากเรื่องนี้คือ ‘วิญญูชนจอมปลอม’ เปลือกนอกเป็นคนดี แต่จิตใจชั่วร้าย หมายอำนาจ
งักปุกคุ้งเป็นสัญลักษณ์ของนักการเมืองที่สร้างภาพดี แต่ภายในใจกระหายอำนาจ และไปสู่อำนาจโดยไม่สนใจวิธีการ
นวนิยายเรื่องนี้มิได้ต่อต้านลัทธิใดโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย มันเพียงสะท้อนจิตใจและสันดานของมนุษย์
และมักหาความชอบธรรมมารองรับเสมอ
ความชอบธรรมเหล่านั้นได้แก่คำว่า ธัมมะ ความดี ความถูกต้อง
เราอาจใช้เหตุการณ์และตัวละครในเรื่องนี้แทนนักการเมืองในทุกประเทศทุกระบอบได้อย่างลงตัว เพราะคนก็คือคน
หมายเหตุผู้เขียน : งานชุด ยุทธจักรวาลกิมย้ง จบการวิจารณ์หนังสือทั้ง 15 เล่มของกิมย้งเพียงเท่านี้ ยุทธจักรวาลกิมย้ง จะตีพิมพ์รวมเล่มในปีหน้า
เพิ่มเติมเกร็ดชีวิต การงานของกิมย้ง และรูปภาพประกอบซึ่งไม่สามารถนำลงในพื้นที่นี้ได้หมด โปรดติดตาม
- 30
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
