7 ม.ค. 2022 เวลา 03:57 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣3️⃣ สารอัศจรรย์ ✴️ (ตอนที่ 5)
ห้องประชุมขนาดเล็กเต็มแน่นด้วยคนฟัง 𝟭𝟱𝟬 คนที่ใจจดจ่อเงี่ยหูฟังทุกถ้อยคำของนักทรงวิญญาณเจมส์ แวน ปราห์★ ยามเมื่อผมรู้เห็นเป็นพยานการที่เขาถ่ายทอดข่าวสารจากคนรักที่ตายไปแล้วออกมา แม้แต่คนที่ระแวงระวังไม่ยอมเชื่อในหมู่พวกเราก็ยังตะลึงงันไปกับรายละเอียดเรื่องเล็กเรื่องน้อยชนิดเห็นกันจะจะที่เขาบอก ต่อให้กับญาติผู้โหยหาอยากได้คำพิสูจน์ว่าคนที่พวกเขารักยังอยู่แม้ตัวตายแล้ว บรรดาคนที่เจมส์เรียกชื่อขึ้นมาต่างบอกว่าเรื่องที่เขาบอกถูกต้องหมดเลย รายละเอียดยิ่งส่วนตัวมากเท่าไหร่ความพิศวงในหัวใจยิ่งเพิ่มพูน แล้วพวกเราก็ยิ่งประทับใจมากเท่านั้น
★ เจมส์ แวน ปราห์ มีพลังเชื่อมถึงโลกวิญญาณตั้งแต่เล็กๆ โดยที่เขามองเห็นสรรพสีต่างๆมิติได้ชัดเจนจนเขาไม่รู้เลยว่าคนอื่นไม่ได้เห็นเหมือนเขา พอเขาโตขึ้นถึงได้รู้ว่าเขาเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นกัน เขาตกใจมาก เลยหยุดทุกอย่าง ปิดตัวเองจากพรสวรรค์อันนี้ เคยคิดหันไปเอาดีทางเขียนบทภาพยนตร์ แต่แล้วพรสวรรค์นี้ก็หวนกลับมาอีกครั้งอย่างแรงมาก ทำให้เขาต้องเปิดใจรับและเลือกเดินทางสายที่ถูกต้องที่สุดตามพรสวรรค์ของตัวเอง : ผู้แปล
แคโรลกับผมนั่งอยู่ตรงกึ่งกลางหลังห้องกับเหล่าคนฟัง ให้ผมใช้หัวคิดก็คิดไม่ตก ไม่เข้าใจว่าเจมส์ไปรู้เรื่องละเอียดยิบย่อยขนาดนี้ได้อย่างไร “ก็วิญญาณบอกผมเอง” เขาใช้ประโยคนี้ตอบผมทุกที
ที่นั่งข้างผมทางซ้ายมือคือคุณผู้หญิงท่านหนึ่งวัยประมาณสามสิบกว่า เจมส์ขานชื่อผู้ชายคนหนึ่งออกมา หญิงมีอายุคนที่นั่งถัดไปจากเธอก็พรวดขึ้นจากเก้าอี้ตัวสั่นเทา “แม่ของดิฉันเองค่ะ” หญิงสาวคนนั้นหันมาบอกให้ผมฟัง
แล้วเรื่องราวก็ไหลพรั่งพรูออกมา แบบที่เราชอบใช้คำว่า ‘แจ่มแจ้งชัดเจน’ จากปากของเจมส์สู่คุณป้าวัยหกสิบกว่าท่านนั้น “ใช่ค่ะ...ใช่แล้ว...โอย...ใช่เลย❗” เธอรับคำอยู่อย่างนั้น สองมือเธอกำแน่น แข้งขาแทบยืนไม่อยู่
“เขาฝากขอบคุณที่คุณช่วยดูแลต้นกุหลาบให้เขา” เจมส์พูดไปเรื่อยๆ “เขารู้ดีว่าที่คุณทำก็เพราะรักเขามาก เขาขอฝากความรักตอบแทนกลับมาให้คุณด้วยครับ” คุณป้าพยักหน้า น้ำตาไหลพรากจากดวงตาคู่นั้น
“แล้วเรื่องสุนัขก็ไม่ต้องห่วงมันด้วยล่ะครับ” เจมส์พูดเป็นปริศนาหยอดความเฮฮาอยู่นิดๆ
ลูกสาวคุณป้าหันมาทางผมขออธิบาย “แม่ชอบไปจัดสวนกุหลาบของพ่อน่ะค่ะ เหมือนแม่เค้ารู้สึกว่าต้องทำอย่างนั้น...แม่เค้าห่วงว่าพวกหมาจะมาวิ่งเล่นทับสวนแล้วทำเสียหายหมด...เหลือเชื่อมากเลยว่ารู้ได้ยังไง❗” สองตาของเธอก็มีหยาดน้ำเอ่อคลอเช่นกัน ตัวผมเองพลอยประทับใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วยจนแทบจะรักษาระยะห่างขอเป็นคนนอกคอยดูอยู่ไม่ไหว
และแล้วเจมส์ก็พูดประโยคที่ทำให้ทุกคนน้ำตาไหลกันหมดห้อง
“เขาฝากขอบคุณคุณด้วยที่เอาของสิ่งหนึ่งของเขาติดตัวมาด้วยวันนี้...” เจมส์หยุดพูดไปชั่วขณะ “เขาบอกผมว่า...เป็นแหวนวงหนึ่ง แหวนของเขาน่ะครับ ที่คุณเอาติดตัวมาเพื่อช่วยให้เขาผ่านไปถึงสุคติภพได้สำเร็จ”
เจมส์พูดจบคำ คุณผู้หญิงท่านนั้นก็ยื่นแขนออกมาข้างหน้าแล้วคลายมือซ้ายที่กำแน่นมาตลอดการถ่ายทอดข่าวสารออกมา ในมือนั้นคือแหวนของสามีเธอเอง ซึ่งขนาดเก้าอี้ผมนั่งห่างจากเธอไปแค่ 𝟮 ตัวยังไม่ทันเห็นเลย จนกระทั่งนาทีนี้แหละ ทุกคนในห้องพากันซึ้งใจอย่างที่สุด ประกายแห่งรอยยิ้มฉายทั่วใบหน้าของคุณป้า เธอ ‘รู้’ แล้วว่าสามีของเธอกำลังพยายามสื่อสารกับเธออยู่แน่นอน
“แม่ไม่เคยพกแหวนติดตัวไปไหนเลยค่ะ” ลูกสาวเห็นสีหน้าตั้งคำถามของผมเลยตอบให้ “แม่เอาติดมาด้วยเฉพาะสัมมนาหนนี้เพราะหวังว่าอาจจะช่วยได้บ้าง...ดิฉันว่าได้ผลเลยล่ะ” เธอพูดพร้อมหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลอาบแก้ม
คนเป็นร่างทรง (𝗺𝗲𝗱𝗶𝘂𝗺𝘀) ไม่ใช่นักอ่านใจคน (𝗺𝗶𝗻𝗱 𝗿𝗲𝗮𝗱𝗲𝗿𝘀) นะครับ เมื่อไหร่ที่เกิดดลใจหรือเกิดรู้อะไรขึ้นมา เรื่องนั้นจะไม่ใช่มาจากความคิดของผู้มาปรึกษาหรือจากกลุ่มคนฟังเลย มีอีกเรื่องเกี่ยวกับเจมส์ แวน ปราห์ ที่ทำให้เราเห็นประเด็นนี้ชัดเจน
ตอนนั้นเขากำลังถ่ายทอดสารท่ามกลางหมู่คนฟังเกือบ 𝟲𝟬𝟬 คนในห้องบอลรูมของโรงแรมเมืองฟอร์ต ลอเดอร์เดล ฟลอริด้า เจมส์ก็ ‘ชี้’ ไปที่คนที่เขาเรียกในหมู่คนดู ผมเห็นเขาช่วยสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังโศกเศร้าที่ลูกสาววัย 𝟳 ขวบต้องตายจากไปด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
“ลูกสาวคุณส่งความรักมาให้แล้ว ขอขอบคุณมากที่ช่วยเก็บเธอไว้ใกล้ๆของเล่น ตุ๊กตาแล้วก็ม้ายูนิคอร์น”
ถึงแม้ฟังเรื่องนี้ครั้งแรกผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย แต่พ่อแม่วัยหนุ่มสาวคู่นั้นกลับแสดงอาการทันที พวกเขาเล่าด้วยอารมณ์สะเทือนใจล้นพ้นว่าเขาเผาศพลูกสาว แล้วนำโกฏิใส่อัฐิเก็บไว้ในห้องนอนของลูก ให้อยู่ท่ามกลางบรรดาตุ๊กตาและของเล่นนานาชนิด ผ้าปูเตียงกับปลอกหมอนก็เป็นลายที่ลูกชอบที่สุด แล้วตกแต่งเตียงด้วยม้ายูนิคอร์น
เจมส์ไม่เคยเจอหน้า ไม่เคยพูดคุยอะไรกับพ่อแม่หนุ่มสาวคู่นี้มาก่อนวันงานเลย แล้วเขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าคนต่อไปที่เขาชี้เป็นหญิงสาวที่ผมรู้จักดี เจมส์เพิ่งมาจากแคลิฟอร์เนียที่เขาอยู่ เขาไม่เคยเจอหญิงสาวคนนี้เลย
“ผมมีเดวิดอยู่ตรงนี้ครับ...เดวิด...ลูกชายคุณสักคนในห้องนี้ เขาตายไปแล้วและมาเป็นวิญญาณครับ” เจมส์เริ่มพูด
ผู้หญิงสองสามรายพากันยืนขึ้น เพราะชื่อเดวิดหาง่ายมาก แต่หญิงสาวที่ผมรู้จักกลับไม่ยืนขึ้น เธอไม่มีลูกเลย น้องชายของสามีเธอที่ชื่อเดวิดเพิ่งตายโดยไม่ทันได้สั่งเสีย 𝟮 ปีที่แล้วนี้เอง แต่ข้อมูลที่บอกออกมายังไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เธอขานรับ
เจมส์รู้สึกเลยว่าเขาไม่สัมผัสกับผู้หญิงคนไหนสักคนที่ลุกขึ้นมารับ
“ใครเป็นนักบินครับ❓” เจมส์ถามขึ้นมา “เขาบอกผมว่าเป็นนักบิน ใครสักคนรู้จักเดวิดที่เป็นนักบิน”
ถึงตอนนี้ผู้หญิงสองสามรายที่ลุกยืนก็นั่งลง แต่หญิงสาวคนนั้นกลับลุกยืนตัวสั่นแทน
“ดิฉันรู้จักเดวิดค่ะ” เธอบอกออกไป “เป็นน้องเขยดิฉันเอง น้องชายของสามีน่ะค่ะ เขาตายไปเมื่อ 𝟮 ปีที่แล้ว แม่เขาก็เป็นนักบิน เธอ...ขับเครื่องบินค่ะ”
เจมส์พอใจที่เจอถูกคนแล้ว
“เขาอยากส่งความรักให้กับแม่” เจมส์พูดต่อ แต่แล้วเขาก็แหงนหน้าขึ้น เอียงคอเหมือนกับกำลังเงี่ยหูฟังใครพูด พอเขาหันกลับมามองหญิงสาวเขากลับมองสูงขึ้นเหนือศีรษะของเธอเสียอีก
“ผมเห็นมีดสีแดงอยู่เหนือศีรษะคุณ” เขาบอกกับเธอ “เขาให้ผมเห็นว่า...มีคนบางคนกำลังมองมีดเล่มนี้อยู่แล้วกำลังคิดว่าจะเช็ดมัน” หญิงสาวไม่รู้เรื่องเลยว่ามีดเล่มแดงคืออะไร ทั้งเธอทั้งสามีไม่มี มีดแดงในครอบครองสักคน เธอเลยไม่สามารถยืนยันข้อมูลนี้ได้
“เก็บเอาไปคิดนะครับ” เจมส์เสริมขึ้นมา หมายความว่าให้จำเรื่องนี้ไว้เพื่อวันหน้า แล้วเขาก็เรียก “คนแปลกหน้า” รายต่อไป ที่ว่าแปลกหน้าก็เพราะเขายังใหม่ ไม่คุ้นหน้าใครสักคนในห้องบอลรูมนี้
สองสามวันต่อมาผมมีโอกาสได้คุยกับหญิงสาวท่านนั้น “คุณหมอต้องไม่เชื่อเด็ดขาด” เธอเริ่มเล่า
ตอนที่เธอกลับถึงบ้านหลังจบเวิร์กชอป เธอก็โทรหาฯ แม่สามีที่อยู่ชนบทชานเพนซิลเวเนีย เธอไม่ได้เล่าให้แม่สามีซึ่งเป็นแม่ของเดวิดฟังเลย เรื่องไปเวิร์กชอปมาหรือเรื่องเจมส์ หญิงสาวตั้งใจถามแค่คำเดียว
“มีดเล่มแดงสำหรับแม่แล้วมีความหมายอะไรบ้างมั้ยคะ”
“ตลกดีนะที่หนูมาถามแม่ยังงี้” แม่สามีตอบคำ “เมื่อวานนี้เอง (คือหนึ่งวันก่อนเวิร์กชอป) แม่ลงไปห้องใต้ถุนไปเก็บกวาด รื้อเอาเครื่องมือเบ็ดออกมาซักหน่อย แม่เกิดไปเจอมีดสวิสอาร์มี่อันเก่าของเดวิดเขาเข้า แม่ก็หยิบมีดขึ้นมาดู ยังจำได้เลยว่าคิดกับตัวเองว่า แหม...แม่น่าจะเช็ดมันซะหน่อยนะ”
เจมส์รับรู้กระแสความคิดที่จิตของแม่เดวิดซึ่งเป็นคนเก็บมีดแดงส่งมาแล้วรับรู้ความคิดว่าจะเช็ดทำความสะอาดมันในวันก่อนมีเวิร์กชอปเสียอีก หญิงสาวในกลุ่มคนฟังไม่เคยรู้เรื่องมีดเล่มนี้หรือรู้เรื่องที่แม่สามีคิดอยู่ตรงห้องใต้ถุนของบ้านที่ห่างไปตั้งเป็นพันไมล์มาก่อนเลย
รายละเอียดของมีดสวิสอาร์มี่ นักบิน ม้ายูนิคอร์นและเรื่องอื่นที่ตามมามันเจาะจงชี้ชัดมากจนเกินกว่าเราจะผลักไสปฏิเสธให้มันเป็นแค่พูดแล้วมันบังเอิญถูกหรือการพูดกว้างๆอย่างนี้ใครก็พูดได้
🛑 พวกเราสามารถฝึกให้ทำแบบเจมส์ได้ทุกคน ด้วยวิธีที่คุณจะได้อ่านผ่านตาตลอดหนังสือเล่มนี้ หากแต่เรากลับขาดความมั่นใจ ขาดการฝึกฝนที่จะทำความเข้าใจกับมันอย่างแจ่มแจ้งต่างหากครับ ผมอยากใช้การเรียนเปียโนมาเปรียบเทียบกับการเรียนรู้วิธีใช้กระแสจิตหยั่งรู้ (𝗽𝘀𝘆𝗰𝗵𝗶𝗰 𝗮𝗯𝗶𝗹𝗶𝘁𝗶𝗲𝘀) ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการเป็นเอตทัคคะทางเปียโนก็จริง แต่ถ้าได้ฝึกฝนเล่าเรียนและขยันซ้อม เราก็จะสามารถเล่นเป็นเพลงได้สักสองสามเพลง กระบวนการพัฒนาญาณหยั่งรู้ของเราคือเรื่องเดียวกันเลยครับ
✨ แล้วในบั้นปลายเราก็จะเข้าใจเองว่าปวงปัญญาธรรมทั้งหลายอยู่ข้างในตัวเรานี่เอง เมื่อเราจำได้ว่ามี เมื่อฝึกฝนและเจาะเข้าถึงปัญญาธรรมนี้ได้ เราก็จะกลายเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้กับตัวเราเอง เมื่อเราก้าวถึงจุดนี้แล้ว เราก็จะพบกับความสงบและปีติสุขกับช่วงเวลาแห่งปัจจุบัน ด้วยว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือขอให้เราใช้ชีวิตอยู่กับ ณ ขณะนี้ เป็นผู้เปี่ยมจิตวิญญาณในตอนนี้เถิด ไม่สำคัญแล้วว่าเมื่อก่อนนี้เราจะถูกสอนให้เชื่อว่าอย่างไร ✨
และเมื่อเราตื่นจากหลับเมื่อไหร่ เมื่อนั้นจิตวิญญาณก็จะร่วมร้องเพลงแห่งรักเข้าสู่โสตของเราได้ในที่สุด
(มีต่อ)
โฆษณา