12 ม.ค. 2022 เวลา 09:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
สถานการณ์โรงหนังในฝรั่งเศสปี 2021 เก็บรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 731 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยแรงส่งจากหนังฮอลลีวูดและหนังเจ้าถิ่นภาคต่อ
วาไรตีรายงานถึงสถานการณ์ของธุรกิจโรงภาพยนตร์ในฝรั่งเศสปี 2021 เอาไว้ว่า แม้จะต้องเจอกับการชัตดาวน์ถึง 5 เดือน และเผชิญกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 รายได้บ็อกซ์อฟฟิศของฝรั่งเศสก็กระเตื้องขึ้นมาได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 โดยมีแรงหนุนจาก ‘Spider-Man: No Way Home’, หนังทุนสูงจากสหรัฐอเมริกา และหนังฝรั่งเศสเอง
หลังกลับมาเปิดบริการในวันที่ 18 พฤษภาคม 2021 โรงหนังในฝรั่งเศสดึงผู้ชมเข้าโรงได้ถึง 96 ล้านคน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเพราะต่ำกว่าปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่ทุบสถิติรายได้โรงหนังที่ยืนยงมา 50 ปีแค่ 23.2% หากเทียบกับปี 2020 ที่โรงหนังต้องปิดบริการหลายเดือน ยอดขายตั๋วเพิ่มขึ้นถึง 47.2% จากรายงานของคอมสกอร์ ฝรั่งเศส แล้วถ้าอิงจากค่าตั๋วเฉลี่ยราว6.75 ยูโรต่อใบ รายได้ของโรงหนังในฝรั่งเศสปี 2021 จะทำได้ถึง 648 ล้านยูโร หรือ 731 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
โดยหนังทำเงิน 10 อันดับแรก ถูกยึดโดยงานจากฮอลลีวูด นำโดย ’Spider-Man: No Way Home’ ของโซนีที่ขายตั๋วได้ถึง 5 ล้านใบ ตามด้วย ‘No Time to Die’ ของยูนิเวอร์ซัล และ ‘Dune’ จากวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ส่วนหนังเรื่องอื่น ๆ ก็มี ‘Encanto’ ของดิสนีย์, ‘F9’ ของยูนิเวอร์ซัล, ‘The Conjuring: The Devil Made Me Do It’ จากวอร์เนอร์ฯ และ ‘Eternals’ จากมาร์เวล
แม้ไม่มีหนังเจ้าถิ่นเลยในท็อป 10 แต่ปี 2021 ก็เป็นปีที่ดีปีหนึ่งของหนังฝรั่งเศส เมื่อมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 40.8% ซึ่งต้องขอบคุณความสำเร็จของบรรดาหนังภาคต่อ อย่าง ‘Kaamelott – Premier Volet’ ภาคต่อของหนังผจญภัย เบาสมองรวมดาวของ อเล็กซองดร์ แอสเทียร์ ที่ขายตั๋วไป 2.7 ล้านใบ, ภาคสี่ของ ‘Les Tûche’ ซึ่งกำกับโดยโอลิเวียร์ บารูกซ์ ที่มีผู้ชม 1.9 ล้านคน และหนังของสตูดิโอคะแนล ‘Bac Nord’ หนังตำรวจแอ็กชันระทึกขวัญเปิดตัวที่คานส์ของ เซดริก จิมีเนซ ที่มีผู้ชม 2.2 ล้านคน
หนังฮอลลีวูดเรียกได้ว่ากลับมาแล้วในปี 2021 หลังแทบจะหายต๋อมไปเลยในปี 2020 แต่ส่วนแบ่งการตลาดก็ลดเหลือแค่ 46.5% จากที่ทำไว้ 56% ในปี 2019 หนังหลาย ๆ เรื่องทำรายได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเพราะมาตรการด้านสุขภาพ ที่เริ่มกันในเดือนกรกฎาคม ที่ผู้ชมอายุมากกว่า 18 ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือตรวจพีซีอาร์เป็นลบ ถึงจะเข้าชมภาพยนตร์ได้
ในท็อป 30 มีหนังฝรั่งเศสมากถึง 11 เรื่อง ขณะที่ปี 2019 มีเพียง 6 เรื่อง ซึ่งปีนั้นแค่ดิสนีย์เจ้าเดียวก็ครองส่วนแบ่งการตลาดไปถึง 23.4% จากหนัง 6 เรื่อง เช่น ‘The Lion King’ นอกจากหนังเบาสมองและงานภาคต่อ หนังฝรั่งเศสที่ดึงคนดูกลับมาเข้าโรงได้ก็คือ หนังที่ ‘ต้องดู’ ที่สร้างจากนิยายดังหรือตัวละครมีชื่อเสียง ได้แก่ หนังเพลงดรามาที่ได้แรงบันดาลใจจากซีลิน ดิออนของ วาเลรี เลเมอร์เซียร์ ‘Aline’ และ ‘Lost Illusions’ ของซาเวียร์ เจียนโนลี ซึ่งดัดแปลงจากนิยายคลาสสิกของ ฮออนเร เดอ บัลซาก ที่นำแสดงโดย เบนจามิน วออิซิน และซาเวียร์ โดแลน รวมถึง ‘Eiffel’ หนังอัตชีวประวัติของ กุสตาฟ ไอเฟล ที่โรแมน ดูริสและเอ็มมา แม็กเคย์ รับบทนำ
รายงานของคอมสกอร์ ฝรั่งเศสยังระบุด้วยว่า หนังทำเงิน 30 อันดับแรกของปี ขายตั๋วรวมกันได้ถึง 53% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2021 ขณะที่ในปี 2019 ทำได้ 44.6% “ผลที่ได้จากตอนสิ้นปีทำให้รู้สึกดี แต่เรากำลังเจอสถานการณ์ที่ผู้ชมเข้าโรงหนังเพื่อดูหนังใหญ่ ๆ ที่ได้รับการโปรโมตอย่างจริงจัง และมีที่ว่าให้หนังอินดีน้อยลง” เจ้าหน้าที่ของคอมสกอร์กล่าว
ธุรกิจโรงหนังของฝรั่งเศสในปี 2022 น่าจะดีขึ้น เมื่อมีหนังอย่าง ‘The Batman’ ของแม็ตต์ รีฟส์ เปิดตัวในวันที่ 2 มีนาคม, ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ของแซม ไรมีก็จะเข้าโรงในวันที่ 4 พฤษภาคม, ‘Elvis’ จากบาซ เลอร์หแมนน์ เข้าฉาย 25 พฤษภาคม, หนังภาคต่อ ‘Black Panther: Wakanda Forever’ ของไรอัน คูกเลอร์ เปิดตัว 9 พฤษภาคม และยังมี ‘Avatar 2’ ของเจมส์ คาเมรอนอีกเรื่อง หนังฝรั่งเศสที่จ่อฉายก็มีที่น่าสนใจไม่น้อย อาทิ หนังนักสืบ ‘Maigret’ ของแพทริซ เลอคอนเต และ ’Simone – Le Voyage du siècle’ หนังอัตชีวประวัติซิโมน เวล นักการเมืองฝรั่งเศส ที่เป็นผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากโอลิเวียร์ ดาฮาน ผู้กำกับของ ‘La Vie en Rose’
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
เป็นกำลังใจให้ www.sadaos.com ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนเงินมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อดำเนินการมอบรางวัลให้กับผู้สนับสนุนที่โชคดีต่อไปเป็นประจำทุกเดือน
หนังฉบับผู้กำกับเคยเป็นแค่กลยุทธ์การตลาด จนยุค 70s ก็ถือเป็นเรื่องเหตุผลทางศิลปะ เมื่อ ‘The Wild Bunch’ ฉบับผู้กำกับออกฉาย โดยใส่ฉากที่ถูกตัดออกเพื่อหนีเรตอาร์เข้ามายาวกว่าต้นฉบับถึง 10 นาที แต่ไม่ใช่หนังทุกเรื่องจะมีฉบับผู้กำกับ และบางเรื่องก็ต้องใช้เวลาเป็นทศวรรษ กว่าจะมีออกมา และนี่คือหนังฉบับผู้กำกับ 10 เรื่อง ที่ได้ชื่อว่า ‘เยี่ยม’ อ่านกันได้ที่นี่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา