เงินซื้อทุกสิ่งได้จริงหรือ?...
หลายคนในโลกนี้มีความเข้าใจผิดที่คิดว่า เงิน เป็นพระเจ้า
เพราะเงินสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้นเลย นั่นก็เพราะว่า...
เงินซื้อบ้านสวย ๆ ได้... แต่ซื้อความอบอุ่นให้ครอบครัวไม่ได้...
เงินซื้อเตียงอันแสนสบายได้... แต่ซื้อการนอนหลับไม่ได้...
เงินซื้อเครื่องป้องกันภัยได้... แต่ซื้อความรู้สึกที่ปลอดภัยไม่ได้...
เงินซื้อยารักษาโรคที่ดีที่สุดได้ แต่ซื้อชีวิตไม่ได้...
คนป่วยใกล้สิ้นใจที่มีเงินนั้น ไม่อาจจะซื้อชีวิตหรือต่อชีวิตของเขาได้สักเสี้ยววินาทีเลย...
เงินเป็นล้าน ๆ ของเขาช่วยได้เพียงอย่างเดียวก็คือ “ตายสบายกว่าคนจนหน่อย คือตายในห้องแอร์”...
เงินซื้อสิ่งอำนวยสะดวก และซื้อสิ่งของที่มาบำรุงบำเรอเนื้อหนังทางร่างกายได้... แต่ซื้อความสุขที่แท้จริงไม่ได้เลย...
เงินซื้อความอิ่มฝ่ายร่ายกายได้ แต่ซื้อความอิ่มใจให้แก่มนุษย์เราไม่ได้เลย...
เพราะเหตุไรถึงเป็นเช่นนี้?...
ผู้อ่านที่รัก... ท่านเคยคิดไหมว่ามนุษย์เรานั้นมาจากไหน?...
พระคริสตธรรมคัมภีร์บันทึกไว้ว่า“พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน แล้วระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต” (ปฐมกาล2:7)
จากข้อความนี้ทำให้เราเห็นว่า มนุษย์เรานั้นถูกสร้างให้มีร่างกายที่มีส่วนผสมของดินและส่วนที่เป็นจิตวิญญาณ...
ดังนั้นร่างกายที่ทำมาจากดินจะดำรงอยู่ได้ก็ต้องอาศัยดินเพราะฉะนั้นทุกวันนี้มนุษย์เราจึงกินดินกันอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวก็มาจากดิน ผักก็มาจากดิน เนื้อสัตว์ก็มาจากดิน (เพราะสัตว์ก็กินพืช ซึ่งพืชก็มาจากดิน)
แต่จิตวิญญาณของมนุษย์เรานั้นไม่ได้มาจากดิน เพราะฉะนั้นมนุษย์เราไม่สามารถจะนำเอาสิ่งของที่เป็นวัตถุมาทำให้จิตวิญญาณอิ่มใจได้เลย... แล้วอะไรล่ะที่จะสามารถทำให้จิตวิญญาณของมนุษย์ได้รับความอิ่มใจ?
พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บอกเราว่า มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่โดยอาหารอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขาอีกด้วย แต่ต้องมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขาอีกด้วย มนุษย์จึงจะสามารถพบกับความอิ่มใจที่แท้จริง...
เพราะพระเจ้าทรงสร้างหัวใจของมนุษย์ให้มีช่องช่องหนึ่งสำหรับพระองค์โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากมนุษย์คนใดไม่มีสัมพันธภาพกับพระเจ้าแล้ว เขาจะไม่มีทางที่จะหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาถมให้ช่องหนึ่งในหัวใจนั้นรู้สึกเต็มหรือรู้สึกอิ่มได้เลย...
แท้จริงแล้วมนุษย์เราน่าจะอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุขสบาย เพราะพระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมทุกอย่างในการดำรงชีวิตให้แก่มนุษย์อย่างอุดมสมบูรณ์ แต่เพราะเหตุที่มนุษย์เราไม่เชื่อฟังพระเจ้ามิหนำซ้ำยังหันไปทำผิดทำบาป
ตั้งแต่นั้นมามนุษย์จึงถูกแยกจากพระเจ้า และต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากลำบากต้องดิ้นรนทำมาหากินอย่างเหน็ดเหนื่อยโดยไม่รู้จักความอิ่มใจ แต่พระเจ้าทรงรักและห่วงใยมนุษย์พระองค์ไม่อยากให้มนุษย์ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เลย
เพราะพระองค์ทรงทราบว่า หลังจากที่มนุษย์จากโลกนี้ไปแล้ว เขาจะต้องรับการพิพากษาโทษบาปตามการกระทำของตนเอง ซึ่งในที่สุดก็ต้องทุกข์ทรมานอยู่ในนรก พระองค์จึงต้องช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นจากการลงโทษนั้น
ดังนั้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้วพระองค์ทรงให้พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มารับสภาพเป็นมนุษย์และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อเป็นการรับโทษความผิดบาปแทนมนุษย์...
ดังนั้นถ้าหากผู้ใดที่ยอมสารภาพความผิดบาปต่อพระเจ้าและทูลขอความช่วยเหลือจากพระเยซูคริสต์พระองค์ก็จะทรงเป็นผู้รับโทษบาปแทนเขาทันที เขาจึงสามารถที่จะกลับมามีสัมพันธภาพกับพระเจ้าได้ดังเดิมและเมื่อเขาจากโลกนี้ไปแล้ว เขาก็จะไม่ต้องพบกับการพิพากษาอีกต่อไป แต่พระองค์จะประทานชีวิตนิรันดร์ให้แก่เขาและให้เขาได้อยู่สวรรค์กับพระองค์ตลอดไป.
ผู้อ่านที่รัก... ท่านกำลังหาอะไรในโลกนี้ หาเงิน หรือชีวิต?... ถ้าท่านทุ่มเทเงินท่านก็จะได้เงิน...แต่ท่านลองคิดดูซิว่าเงินทองที่ท่านหาอยู่นั้น ทำให้ท่านอิ่มใจได้หรือ?.. เงินทองสามารถทำให้ท่านพบกับความสุขที่แท้จริงได้หรือ?...
พระคริสตธรรมคัมภีร์บันทึกไว้ว่า ถึงแม้ว่าท่านจะได้ทรัพย์สมบัติสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตเพราะบาปของตน แล้วจะได้ประโยชน์อะไร?... (มัทธิว 16:26)
บัดนี้... ขอเชิญท่านหันกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างท่าน และรีบทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์เดี๋ยวนี้เถิด แล้วพระองค์จะทรงโปรดยกโทษความผิดบาปให้แก่ท่าน ทั้งยังจะให้ท่านมีความอิ่มใจและมีสันติสุขที่แท้จริงในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เงินไม่สามารถหาซื้อได้เลย
ถ้าท่านปรารถนาจะกลับมาหาพระเจ้า และขอรับการอภัยโทษจากพระองค์ ก็ขอให้ท่านทูลต่อพระองค์ดังนี้...
“ข้าแต่พระเจ้า... ข้าพระองค์ยอมรับว่าข้าพระองค์เป็นคนบาป และไม่มีความอิ่มใจในชีวิต... ข้าพระองค์ขอพึ่งในพระเยซูคริสต์ ขอพระองค์ทรงโปรดยกโทษความผิดบาปให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิดและขอให้ข้าพระองค์มีความอิ่มใจที่แท้จริง อธิษฐานทูลขอในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้าอาเมน”...
ถ้าท่านได้อธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยใจจริงแล้วก็ขอให้ท่านมั่นใจเถิดว่า พระองค์ได้ทรงยกโทษความผิดบาปให้แก่ท่านแล้วอย่างสิ้นเชิง และพระองค์จะทรงดูแลชีวิตของท่านตลอดไป...
ผู้เขียน : อาจารย์นิกร สิทธิจริยาภรณ์
สารบัญ Blockdit christianthai
ซีรีส์ หนังสือเสียงคริสเตียน
ซีรีส์ แบ่งปันข้อพระคัมภีร์โดย ChatGPT
ซีรีส์ ใบปลิวคริสเตียน
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
