✴️ บทที่ 1️⃣4️⃣ ยกระดับจิตสู่ญาณ ✴️ (ตอนที่ 6)
🛑 เราทุกรูปนามคือจิตวิญญาณในรูปสังขารของมนุษย์ครับ ส่วนของจิตวิญญาณในตัวเราไม่มีวันตาย แล้วเราก็ไม่เคยสูญเสียพลัดพรากจากคนที่เรารักไปจริงๆหรอก ยิ่งกว่านั้นเราสามารถทำได้อย่างที่ผมทำไปในเรื่องที่เพิ่งเล่าให้ฟังกันทุกคนเลยครับ เพราะว่าพวกเราทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงผูกพันกันทั้งสิ้น
ในภาวะเข้าสมาธิ_กับ_ในภาวะหลับฝัน ผมยังได้ประสบการณ์รับรู้ญาณในที่ช่วยให้เกิดความสว่างเห็นแจ้งในจิต และยังได้เห็นภาพบางสิ่งหรือบางเรื่องที่ชัดเจนเหมือนจริงมากเป็นภาพเชิงเปรียบเทียบชีวิตอยู่เรื่อยๆมาตลอด หนำซ้ำยังได้รับคำตอบต่อคำถามหรือเรื่องไม่สบายใจที่มันเหมือนมุกก่อตัวในหอยนางรม คอยสะกิดกวนจิตใต้สำนึกเบื้องลึกของผมอยู่ตลอดเวลา
มีภาพหนึ่งที่ผมได้รับชัดและแรงมากทั้งที่เป็นภาพที่ง่ายธรรมดายิ่ง ผมเห็นแล้วว่าคนเราเห็นตัวเองแยกจากคนอื่น ไม่มีอะไรเกี่ยวกับคนรอบข้างอย่างไร ทั้งที่ความจริงแล้วเราทุกคนล้วนเกี่ยวกระหวัดผูกพันร้อยรัดต่อกันและกันจนชั่วกาลอมตะต่างหากเล่า...
🛑 ผมเห็นภาพแวบเข้ามาเป็นภาพทะเลกว้างใหญ่ไพศาลที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งแต่ละก้อนแตกต่างกันและยังแบ่งเขตกันชัดเจนแน่นอนอีกด้วย แต่ทว่ากลับยังล่องลอยอยู่ในน้ำที่เย็นเฉียบผืนเดียวกันอยู่นั่นเอง ไม่นานน้ำก็อุ่นขึ้น และก้อนน้ำแข็งพากันละลาย ทุกสรรพสิ่งล้วนละลายกลายเป็นน้ำหมดสิ้น ก้อนน้ำแข็งแต่ละก้อนต่างเชื่อมถึงก้อนน้ำแข็งอื่นในทะเลได้แล้ว แล้วความร้อนก็เพิ่มทวี น้ำเริ่มเดือดแล้วกลายเป็นรูปเป็นไอ ไม่ช้านานน้ำทั้งหมดก็มีแต่ไอ ไร้เสียง และไร้รูป กระนั้นไอน้ำก็โอบอุ้มสิ่งซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นน้ำและเคยเป็นน้ำแข็งไว้ในมัน ความแตกต่างระหว่างสภาวะของน้ำแข็ง น้ำ และไอ ก็คือ พลังงานที่สั่นสะเทือนแตกต่างกันในโมเลกุลระหว่างสามสภาวะนี้เอง
✨ มนุษยชาติชอบคิดถึงตัวเองว่ากายนี้แยกขาด ไม่เกี่ยวข้องกันดุจก้อนน้ำแข็ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราทุกรูปนามคือสสารที่เกี่ยวข้องร้อยรัดเป็นเนื้อเดียวกันโดยแท้ ✨
. . .
เราจะได้พบประสบการณ์ย้อนอดีตชาติได้จากหลายทางไม่ใช่แค่จากการสะกดจิตเท่านั้น การเดินทางไปสู่อดีตชาติของผม 2️⃣ ครั้งแรกเกิดตอนที่ ‘นวดร่างกาย’ กับ ‘ผ่านความฝัน’ ครับ
1️⃣ ประสบการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นปุบปับระหว่างผมกำลังทำ ‘ชิอัทสุ’ หรือกดจุดอยู่ ในทุ่งราบที่ชัดแจ้งเต็มตานั้นผมเห็นตัวเองเป็นพระโบราณสูงและผอมกว่าตอนนี้อีก ผมกำลังยืนอยู่ในอาคารรูปทรงประหลาดที่บนหลังคาแบนราบแล้วผนังข้างค่อยๆลาดลงมา ผมได้ยินซ้ำๆแต่คำว่า ‘ซิกกุรัต’ อยู่ในหัว แต่ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าคำนี้หมายความว่าอะไร
พระรูปนี้มีอำนาจล้นเหลือในมือ แต่แทนที่เขาจะใช้ตำแหน่งของตัวเองสั่งสอนสัจจะแห่งธรรม เขากลับมุ่งเอาตำแหน่งไปใช้ในการสร้างฐานอำนาจ สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก พอผมมองไปเห็นอนาคตของเขาก็เศร้าใจมาก เพราะเห็นว่าค่านิยมในใจของเขาไม่ได้ยกระดับจากวัตถุไปสู่จิตวิญญาณเลย ทั้งที่พระมีอิสระมากในการสั่งสอนสัจธรรมแห่งจิตวิญญาณได้ตราบเท่าที่ปรนนิบัติราชวงศ์เต็มที่แล้ว
ผมค่อยๆฟื้นคืนสู่จิตที่ตื่นเต็มที่ พอกลับไปบ้านวันนั้นผมก็ไปเปิดหาศัพท์คำว่าซิกกุรัตเลย มันอยู่ในสารานุกรมพอดี ในประวัติศาสตร์ยุคบาบิลอนก่อนยุคพระเยซูเจ้า 𝟭,𝟬𝟬𝟬 ปี โบสถ์ที่รูปร่างเหมือนอย่างที่ผมเห็นในนิมิต★ เขาเรียกกันว่าซิกกุรัต
★ ขอยืนยันที่ ดร.ไวส์กล่าวว่าหนทางการรู้อดีตชาติมีหลายทาง และทางหนึ่งคือผ่านการ ‘เห็นนิมิต’ หรือ 𝘃𝗶𝘀𝗶𝗼𝗻 นั้นเกิดได้จริง ผู้แปลมีประสบการณ์ตรงกับตัวเองที่น่าสนใจศึกษาเพิ่มเติมยิ่งคือปี 𝟮𝟱𝟰𝟰 ดิฉันกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะ ทันทีนั้นก็เกิดเห็นภาพที่ชัดเจนติดตามากแวบขึ้นมาอย่างปุบปับ คือเห็นตัวเองเป็นผู้หญิงใส่ชุดคลุมผ้าป่านโบราณปักลายที่ชายแขนและกระโปรงนั่งอยู่หน้าเตาดินที่มีตะแกรงเหล็กวางอยู่ และ กำลังปิ้งแป้งบางอย่างบนตะแกรง จมูกตอนนั้นได้กลิ่นแป้งที่ชัดเจนมากเหมือนจริงอย่างที่สุด แป้งนั้นมีลักษณะสีขาว เกรียมเหลือง ไม่ได้บางกรอบแบบข้าวเกรียบบ้านเรา และไม่ใหญ่หนาแข็งแบบพิซซ่า ออกจะนุ่ม แต่แป้งแบบนี้ดิฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต ก็ได้แต่ตกใจกับภาพที่แวบชัดมากกับกลิ่นที่ตามมาและแปลกสนเท่ห์ใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
วันหนึ่งดิฉันเข้าไปดูหนังเรื่อง 𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗼𝗱𝘆 ที่แอนโตนิโอ แบนดาราส เล่นเป็นคาทอลิกที่ได้รับมอบหมายให้มาสืบว่าโครงกระดูกซึ่งเจอในอิสราเอลคือโครงกระดูกพระเยซูใช่หรือไม่ ฉากหนึ่งในเรื่องถ่ายเห็นคนเข็นรถที่มีแป้งแบบที่ดิฉันเห็นในนิมิตเต็มคัน ดิฉันตื่นเต้นมากชี้ให้เพื่อนดูว่านี่แหละคือแป้งที่เห็นในนิมิต ต่อมาดิฉันสืบหาดูเสื้อผ้าที่เห็นก็พบว่าเสื้อคลุมยาวแบบนั้นคือชุดของชาวยิวแถบปาเลสไตน์สมัยโบราณ ที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้น ดิฉันเป็นคนที่ชอบประเทศเลบานอนมากมาตลอดตั้งแต่เด็กโดยหาเหตุผลไม่ได้ ปรากฏว่าหลังจากเห็นนิมิตได้สามเดือน ดิฉันเห็นแป้งในนิมิตอิมพอร์ตมาวางขายในซูเปอร์มาร์เกตใหญ่มากแห่งหนึ่ง บนห่อเขียนว่าเป็นแป้งประจำชาติของเลบานอน ชื่อ 𝗟𝗮𝗯𝗮𝗻𝗲𝘀𝗲 𝗕𝗿𝗲𝗮𝗱!
การพบกับประสบการณ์ชาติที่แล้วอย่างนี้มีข้อดีคือทำให้เราได้สืบค้นหาว่าสิ่งที่เห็นหรือสัมผัสนั้นจะจริงหรือไม่ สามารถหาความรู้เพิ่มเติมใน ประวัติศาสตร์ยุคที่เราพบเจอได้ และค้นหาพรสวรรค์แฝงเร้นภายในที่ผูกพันกับอดีตชาติในยุคสมัยนั้นได้ด้วย กรณีของดิฉันทำให้ตัวเองได้ขยายความรู้เพิ่มเติมในยุคสมัยพระเยซู เริ่มศึกษาเรื่องโทราห์และคับบาลาของยิว และศิลปวัฒนธรรมของตะวันออกกลางโบราณมากขึ้นกว่าเดิม : ผู้แปล
2️⃣ สองสามปีต่อมาผมก็เห็นอดีตชาติอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้เห็นในฝันครับ ผมฝันในคืนวันที่สองของการฝึกอบรมห้าวันให้กับนักวิชาชีพที่ผมจัดผู้เข้าอบรมวิชาชีพพักอยู่โรงแรมเดียวกันหมด การอบรมก็หนักมากจนเหนื่อยล้าไปหมด
ในฝันซึ่งเป็นฝันที่ชัดเหมือนจริงมากเสียจนเราจำฝันได้ทุกบททุกตอนเลย ผมเป็นพระอีกแล้ว คราวนี้เป็นพระคาทอลิกในยุโรปที่ไหนสักแห่งหลายร้อยปีก่อน ผมอยู่ในคุกใต้ดิน แขนข้างหนึ่งของผมโดนล่ามโซ่ติดกับกำแพงโดนทรมานแล้วก็โดนประหารโทษฐานสอนเรื่องที่นอกรีตต้องห้ามสำหรับศาสนา
ผมตื่นจากหลับ แต่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ ยังฝันต่อไปได้อีกสักพัก ผมยังเห็นยังรู้สึกกับภาพนั้นอยู่ทั้งๆที่ตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องที่มืดสนิทอย่างนั้น และแล้วผมก็ได้ยินเสียงภายในหรือสารที่ส่งมาว่า :
“เมื่อเจ้ามีโอกาสสอนสัจธรรม เจ้ากลับไม่สอน”
ผมรู้เลยว่าหมายถึงชาติที่ผมเป็นพระชาวบาบิลอนที่ไม่ยอมสั่งสอนธรรมะ
“เมื่อเจ้าไม่มีโอกาสเจ้ากลับสอน...เจ้า...ยัดเยียดมันมากไป”
ผมเลยรู้ว่าพระคาทอลิกสามารถสอนให้คนรู้รักและเมตตาได้โดยปลอดภัย เขาไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปโดนฆ่าตายเพราะบังอาจท้าทายผู้มีอำนาจในยุคสมัยนั้นเลย
“ชาตินี้ทำให้ถูกต้องเสีย” กระแสเสียงจบคำอย่างอ่อนโยน
ผมนอนไม่หลับไปเลย ในที่สุดผมก็ลงไปทานอาหารเช้าข้างล่าง หนึ่งในลูกศิษย์ผมที่มาเข้าคอร์สเป็นอาจารย์ภาควิชาจิตเวชชื่อดังของมหาวิทยาลัยทรงคุณวุฒิแห่งหนึ่ง เธอสังเกตเห็นผมตอนที่มายืนข้างๆ
“อาจารย์หมอดูแย่มากเลยค่ะ”
“ผมรู้ครับ” ผมตอบ “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลย”
“ดิฉันทราบค่ะ” เธอตอบคำถาม “ดิฉันเห็นความฝันอาจารย์หมอด้วยละ❗”
ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจริง เธอคงเห็นหน้าตาไม่เชื่อของผมก็เลยขยายความให้ว่า
“ที่บ้านดิฉันน่ะค่ะได้รับพรสวรรค์ด้านคนทรงมาจากทางข้างแม่ต่อกันมาหลายชั่วอายุคน” เธออธิบาย “ดิฉันเลยมีพรสวรรค์ทางนี้ด้วย”
ตอนนี้ผมชักทึ่งเสียแล้วก็เลยถามเธอว่าเห็นอะไร
“ดิฉันเห็นอาจารย์หมอเป็นพระคาทอลิกในสกอตแลนด์หลายศตวรรษมาแล้ว อาจารย์โดนจับขังคุก แขนขวาโดนล่ามโซ่ติดกำแพง ด้านหลัง อาจารย์โดนทรมานแล้วฆ่าตายเพราะไปสอนเรื่องกลับชาติมาเกิด” เธอละเอียดกว่าผมอีกครับ
ยังมีเด็ดกว่านี้อีก
“อาจารย์หมอต้องระวังตัวด้วยนะคะ บางคนในพวกนั้นตามกลับมาเกิดในชาตินี้อีกด้วยละ❗”
ผมเปิดตากว้างตั้งหน้ารอไว้เลยครับงานนี้
(จบ — บทที่ 14)
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
