กระบวนการนี้คือ Proof of work ที่เป็นหัวใจหลักในการแก้ปัญหาการทำธุรกรรมซ้ำซ้อน (double spending) ซึ่งมันทำให้โครงข่ายของ Bitcoin มีความน่าเชื่อถือสูงมาก
นักขุดเองก็เช่นกัน ไม่ว่าจะมีกำลังประมวลผลมากขนาดไหน หากมีการพยายามเปลี่ยนกฎของระบบ บล็อกที่เขาสร้างขึ้นก็จะถูกปฏิเสธจากเครือข่าย และนั่นเท่ากับเป็นการโยนทรัพยากรในการสร้าง proof of work ทิ้งไปเปล่าๆ