จนถึงปีค.ศ. 1959 เมื่อญี่ปุ่นได้เผชิญกับการถล่มของไต้ฝุ่น Ise Bay ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5000 คน ก็เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการที่จริงจัง ในการป้องกันภัยเหล่านี้สักที
และก็มีการร่างแผนการ “The Basic Plan for Disaster Management” ที่เป็นร่างแนวปฏิบัติกลางสำหรับการรับมือภัยพิบัติ ที่หน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชน ก็จะนำเป็นแบบอย่างและปรับใช้ให้เหมาะสมกับหน่วยงานของตัวเอง
กฎหมายแม่บทหลักในการรับมือภัยพิบัติข้างต้น ก็ใช้ต่อมาจนถึงหมุดหมายสำคัญที่เราเกริ่นไปแล้ว เมื่อในปี ค.ศ. 1995 ได้เกิดแผ่นดินไหว The Great Hanshin จนเกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก
จนทำให้มีการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่เดิมให้ดีมากยิ่งขึ้นเรื่อยมา พร้อมทั้งรวมเป้าหมายที่ว่า “จะสร้างญี่ปุ่นให้เป็นประเทศที่ปลอดภัยและสบายใจที่จะใช้ชีวิต (making Japan a safe and comfortable place to live)” เข้าเป็น 1 ใน 5 ของเป้าหมายหลักในการพัฒนาประเทศ (the five fundamental objectives of national development)
โดยมีรายละเอียดในการปรับปรุงที่น่าสนใจ เช่น
●
Social Infrastructure Development Priority Plan ที่เป็นการวางผังเมืองเพื่อประโยชน์ในการป้องกันสาธารณภัย ทั้งในแง่การป้องกันน้ำท่วม และภัยพิบัติอื่นๆ โดยตรง รวมไปถึงการวางผังเมือง และสร้างระบบที่เอื้อต่อการติดตามข้อมูลสถานการณ์จริงอย่างใกล้ชิด และให้สามารถส่งความช่วยเหลือในภาวะวิกฤติได้อย่างทันท่วงที
●
Disaster Risk Reduction Information Sharing Platform ที่ทำให้หน่วยงานต่างๆ สามารถแชร์ข้อมูล เพื่อเตรียมรับมือกับภัยพิบัติได้ดีขึ้น
●
Warning systems ที่ทางภาครัฐได้ทำการศึกษา และจับตาดูความเป็นไปได้ในการเกิดภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจจับให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่น เคลื่อนตรวจจับแผ่นดินไหว ที่สามารถตรวจจับได้ตั้งแต่แรงสั่นสะเทือนเบื้องต้น (P-wave)
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีบทบาทสำคัญในองค์กรป้องกันภัยพิบัติในระดับนานาชาติ เช่น Office of the United Nation Disaster Relief Coordinator และ the World Meteorological Organization ที่ก็มีการช่วยเหลือทั้งองค์ความรู้และเงินทุน และญี่ปุ่นก็ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยร่าง หนังสือคู่มือการบรรเทาภัยพิบัติ (Guidelines on Disaster Mitigation) ที่เป็นหนังสือแนวทางสำคัญ สำหรับการพัฒนาระบบป้องกันภัยในประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ที่ถูกนำเสนอในที่ประชุมระดับนานาชาติ