27 ม.ค. 2022 เวลา 12:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Spider-Man: No Way Home (2021) - หนัง Blockbuster สุดร้อนแรง และการปิดฉากไตรภาคอย่างสวยงาม
" สนุกบันเทิง พร้อมกับฉากเซอร์วิสแฟนๆ อย่างจุใจ ในขณะที่บทบางส่วนมีปัญหา (แต่ก็พอละวางไปได้) "
ในช่วงปลายปีที่แล้ว หนังที่กระแสร้อนแรงที่สุดคงจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจาก Spider-Man: No Way Home (2021) ที่ล่าสุดก็เตรียมขึ้นแท่นเป็นแชมป์กวาดรายได้สูงที่สุดในปีนี้ ดังนั้นกระทู้นี้ผมอยากจะมาแชร์รีวิวเล็กๆ ในมุมมองของผมครับ
[ เรื่องย่อ ]
Spider-Man: No Way Home (2021) ได้รับการกำกับโดย Jon Watts ผู้กำกับคนเดิมที่รับหน้าที่ในการกำกับ Spider-Man: Homecoming (2017) และ Spider-Man: Far from Home (2019)
เนื้อเรื่องเริ่มต้นต่อทันทีจากภาค Far from Home โดยหลังจาก Peter (Tom Holland) ถูกเปิดเผยตัวตน ทำให้เขาตกที่นั่งลำบากในการใช้ชีวิต ดังนั้นปีเตอร์จึงไปขอร้องให้ Doctor Strange (Benedict Cumberbatch) ช่วยเหลือโดยใช้เวทย์มนต์ลบความทรงจำ ทว่าดันเกิดความผิดพลาดระหว่างการร่ายเวทย์ ทำให้โลก Multiverse ถูกเปิดออก และเหล่าวายร้ายที่อยู่ใน Multiverse ก็สามารถข้ามมาก่อความวุ่นวายในโลกที่ปีเตอร์อยู่ได้ ปีเตอร์จึงต้องหาทางแก้ไขสถานการณ์ เพื่อทำให้โลกกลับมาเป็นเหมือนเดิม
[ ความรู้สึกหลังชม ]
ขอยกให้เป็นภาคที่ไปได้สุดทางของหนัง Commercial หรือการกดสูตรแบบ Marvel เลย โดยเฉพาะการให้ทุกอย่างเท่าที่ให้ได้อย่างที่แฟนหนังอยากจะเห็น (พร้อมเคี้ยวและย่อยให้ด้วย) เมื่อแฟนหนังอยากเห็นอะไร หนังก็พร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการเสมอ
ดังนั้นเราจึงเห็นองค์ประกอบไหลเข้ามาในเส้นเรื่องมากมาย (จนผมก็คิดอยู่ว่าทางผู้กำกับจะจัดการไหวมั้ย) ทว่าก็ตัวหนังก็พยายามจัดสรรสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาในเรื่องได้ดีเลย ดูไม่เละเทะ แถมยังวางได้ถูกที่ถูกเวลาด้วย (ทั้งในพาร์ทปกติและพาร์ทดราม่า) คล้ายๆ กับคำนวณมาหมดแล้วว่าจะ Optimize ตัวหนังยังไงให้ผู้ชมพึงพอใจหรือรับความเอนเตอร์เทนมากที่สุดจากสิ่งที่มี จุดนี้เป็นจุดที่ผมชื่นชม รู้สึกว่าทำได้ค่อนข้างดีเลย
สำหรับจุดที่น่าประทับใจเป็นพิเศษอีกอย่าง ผมยกให้เป็นเรื่องกลุ่มนักแสดง เรียกได้ว่า รวมกลุ่มนักแสดงระดับเกรด A หรือบางคนก็ระดับชิงออสการ์มาแล้ว อย่างเช่น
  • 1.
    Tom Holland (Peter) ก็ผ่านหนังรางวัลมากหลายเรื่อง
  • 2.
    Benedict Cumberbatch (Dr. Strange) ล่าสุดก็เป็นนักแสดงหลักใน Power of Dog (2021) ที่คงเข้าชิงออสการ์ปีนี้แน่นอน
  • 3.
    ถ้าข้ามไปดูฝั่งตัวร้ายอย่าง Willem Dafoe (Green Goblin) อันนี้ก็เคยเข้าชิงออสการ์มาหลายเรื่องเช่นกัน
  • 4.
    Jamie Foxx (Electro) อันนี้คว้าออสการ์นักแสดงนำยอดเยี่ยมมาแล้ว
  • 5.
    แม้แต่นักแสดงลับอย่าง Tobey Maguire และ Andrew Garfield ก็ผ่านหนังรางวัลมาแล้วหลายเรื่องเช่นกัน
เรียกได้ว่าภาคนี้ได้มือดีในฮอลลีวูดมาเพียบ เหลือก็แต่การใส่บทบาทลงไปในตัวละคร ซึ่งก็ใส่ออกมาในระดับที่ใช้ได้ หลายส่วนในช่วงดราม่า ก็ใช้ศักยภาพนักแสดงเหล่านี้ช่วยประคองให้หนังดูสมจริงขึ้น
ในส่วนของจุดเปราะบาง ผมมองว่ารูโหว่ใหญ่ในเรื่องอยู่ที่ "การสร้างปมเรื่องในภาคนี้"
ผมรู้สึกว่าตรรกะการตัดสินใจบางอย่างที่ก่อให้เกิดปมเรื่องในหนัง พอเรามาคิดในโลกความเป็นจริงแล้ว มันค่อนข้างดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร (แถมยังอาจก่อความวุ่นวายมโหฬารด้วย) ซึ่งจริงๆ ทางผู้สร้างสามารถพัฒนาเรื่องให้มีความสมเหตุสมผลหรือมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่านี้ได้
ใน NWH ดูเหมือนว่าหนังจะปล่อย Gap พวกนี้ไปก่อน แล้วค่อยไปพยายามแก้ไขทีหลังในท้ายเรื่อง ในจุดนี้แต่ละคนอาจจะมองแตกต่างกันได้นะครับ เนื่องจากหนังก็ถูกสร้างมาเพื่อเน้นความบันเทิงเป็นหลัก ถ้ามองในแง่หนังเอนเตอร์เทน ก็อาจปล่อยเหตุผลบางอย่างให้เลยตามเลยไปได้
อีกส่วนหนึ่งที่อยากพูดถึงคือ "ประเด็นเรื่อง Multiverse" แน่นอนว่า Multiverse เป็นสิ่งที่สร้างความน่าสนใจให้กับภาคนี้ แต่เนื่องจากประเด็นนี้เคยถูกใช้งานมาแล้วใน Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) และทำไว้มาตรฐานสูงมากๆ พอมาอยู่ใน NWH ผมเลยรู้สึกว้าวลดลงหน่อย (อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่านำมาใช้ได้เลย)
[ สรุป ]
Spider-Man: No Way Home (2021) คงเป็นหนัง Blockbuster ที่สร้างกระแสและทำรายได้สูงที่สุดในช่วงปีที่แล้ว โดยภาพรวม NWH ถือเป็นหนังที่ทำได้สนุก มีฉากเซอร์วิสเหล่าแฟนๆ ที่น่าประทับใจ แต่ก็มีจุดเปราะบางในด้านบทเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หนังก็พยายามแก้ไขและหาทางออกเพื่อนำไปสู่บทสรุปได้ดี รวมถึงปิดฉากไตรภาค Spider-Man ฉบับ Marvel ได้อย่างสวยงาม พร้อมกับทำให้ NWH กลายเป็นหนัง Blockbuster อีกเรื่องที่น่าสนใจและมีผลกับเส้นเรื่องจักรวาล Marvel เลย !
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา